ตั๊กแตน ชลดา ชีวิตที่ผ่านมาคือการต่อสู้ที่เหนื่อย ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองแต่เพื่อคนที่รัก

ตั๊กแตน ชลดา ชื่อนี้คือชื่อของนักร้องลูกทุ่งหญิงไทยชื่อดังที่แฟนๆ ลูกทุ่งรู้จัก เส้นทางชีวิตของเธอที่กว่าใครจะจดจำผลงานของเธอได้นั้นไม่ง่ายเลยสักนิด ระหว่างทางเธอต้องพบเจออะไรบ้าง และผ่านมาได้ยังไง ไปติดตามกัน

เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 15 ปี

แตนเคยผ่านวัยเด็ก ที่เคยไปรับจ้างเพราะอยากได้เงินมาเรียนต่อ แต่เค้าไม่จ้างแตน เพราะเราเป็นเด็กเค้าบอกไม่คุ้มค่าแรงเค้าหรอก หนูก็ไปกราบขอร้องเค้าว่า จ้างหนูเถอะ เอาวันละ 20 บาทพอ ไปถากมัน ฟันอ้อย อะไรพวกนี้

เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 15 ปี เรียนจบ ม.6 กศน. ก็ไม่ได้เรียนต่อแล้วเลยเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ งานแรกที่ทำในกรุงเทพฯ คืด ตักขี้ด้าย ที่โรงงานเย็บผ้า ได้เงินเดือน 3,000 บาท ก็เช่าห้องกินอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วยตัวเอง ห้องเช่าตอนนั้นราคา 500 บาท ห้องเท่ารูหนู แล้วห้องน้ำแยกห้องน้ำรวมอยู่ข้างนอกห้องนอน จริงๆ ตอนนั้นเงินไม่พอใช้เลยขอเจ้าของโรงงานว่า หนูขอขนงานกลับไปทำที่บ้านด้วย เพราะหนูจะไม่นอนอยากจะทำงานอยากได้เงินเยอะ ก็นอนบนกองผ้า เพื่อให้ได้เงินสองเท่าก็พออยู่ได้ แต่ก็ตามหาความฝันตัวเองต่อ ก็คือ การประกวดร้องเพลง ตอนนั้นไม่ได้ฝันว่าจะเป็นศิลปินนะ แต่ไล่ล่าเพื่อเอารางวัล ความทรงจำที่ดีมากของแตคือ วัดที่อยู่ในกรุงเทพฯ เขตปริมณฑลหรือตรงไหนที่เป็นเวทีประกวดแตไปหมดจนคณะกรรมการเค้าจำหน้าได้ รางวัลก็ไม่ได้ที่หนึ่งทุกครั้งนะ ได้ที่ 1 2 3 และตกรอบไปเลยก็มี

เริ่มเข้าวงการจากการประกวด First stage show

ประกวด First stage show ปีแรกเลย ที่เข้ารอบมาได้เพราะเค้าจะคัดผู้ชนะของแต่ละสายมาก่อน แล้วมาแข่งกับสตริง เราก็แบบเห้ยประกวดแบบนี้มันมีด้วยหรอ เอาลูกทุ่งมาแข่งกับสตริงจะตัดสินยังไง? เราก็อยากลอง ประเด็นคือเพลงที่แตร้องคือ เพลงพี่จินตหรา หมอลำ ซึ่งแตไม่ถนัดเลย ได้ตำแหน่งเฉยเลย และตอนนั้นเด็กทั้ง 16 คน จะได้รางวัลเป็นเพลงของตัวเองคนละหนึ่งเพลง ซึ่งตอนนั้นเราก็แบบหูยยยเรามีเพลงเป็นของตัวเองแล้วเหรอ ฝันไปหรือเปล่า หยิกตัวเอง ไม่ใช่เพลงที่เป็นเพลงลูกทุ่งจ๋า เป็นเพลงที่นักแต่งเพลงสตริงเค้าแต่งสไตล์เค้าแต่ให้เราร้องเอง โปรดิวซ์เอง เราก็เอ๋อไปอยู่พักนึงเพราะไม่เคยทำ แต่ก็ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป เพลง ขอจองไว้ในใจ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเพลงจะติดหู และก็ไต่อันดับติดชาร์ตคลื่น 95

มันจะมีวันนึงที่พี่อ้อยพี่ฉอด พาไปร้องเพลงที่สยามเราช็อคมากที่เด็กสยามร้องเพลงเราได้ จุดประกายมาก มันว้าวมากสำหรับเด็กคนนึงที่มันเกินฝันอะ ตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองจะมีค่าตัว ตอนร้องเพลง ขอจองในใจ ค่าตัวสูงสุดแตได้แปดพัน ดีใจมากกกกกกก ไม่เคยทำงานได้เยอะขนาดนั้นเลย แต่ตอนนั้นงานก็ไม่ได้เยอะนะ ด้วยความที่เรายังดูแลตัวเองไม่เป็น ไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่รอให้ผู้ใหญ่เค้าป้อนอ่าเนอะ แค่นั้นตอนนั้นก็คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วนะตอนนั้นอะ

มันคือการต่อสู้ชีวิตที่เหนื่อยนะ

คนส่วนใหญ่ที่ลำบากแล้วไม่รู้ใครเป็นไหมนะ แต่แตนเวลาเราลำบากแล้วได้เห็นคนอื่นที่เค้ามีคู่อะ เราก็อยากมีแฟนนะ อยากมีความรัก แต่ก็ไม่เอาอะ เพราะคิดว่าเรายังดูแลตัวเองไม่ได้ และจะไปเป็นภาระเค้าอีก มันเหมือนไม่กล้าที่จะคบใคร คือแตนเข้าใจอารมณ์คนสู้ชีวิตนะเพราะเคยเป็น คิดแค่ว่า เอาตอนนี้ให้มันมีตังกินข้าวก่อน ให้มีตังส่งเสียที่บ้านก่อน เดี๋ยวแม่ป่วย เดี๋ยวพ่อเจ็บ คือคิดแบบนั้นก่อน ยังไม่ต้องคิดถึงตัวเอง คือตัวเองเอาไว้ก่อน รักใครชอบใครเก็บเอาไว้ก่อน (แต่ตอนนี้แตนมีแฟนนะ แต่ว่าก็ไม่เปิดและก็ไม่ได้ปิด)

ทำงานเพลงจากอินเนอร์

สำหรับ แตน อะไรที่มันอยู่ในหัวมันจะออกมาไวมาก ทุกคนจะเห็นได้เลยตั้งแต่แตนเป็นศิลปะอิสระ เห็นการเปลี่ยนแปลง เฮ้ย เดี๋ยวเซ็กซี่ เดี๋ยวเปรี้ยว เดี๋ยวมาคีพลุคน่ารัก เดี๋ยวมีเพลงเศร้าๆ ออกมาบ้าง ด้วยความที่แตนเป็นคนไม่ชอบอยู่กับที่ และก็เราเป็นนักร้อง เราก็อยากร้องได้ให้ได้ทุกแนว

พอเราเป็นศิลปินอิสระ ได้ออกมา อะไรที่เราอยากทำก่อนหน้านั้นเราไม่ได้ทำ ความคิดมันก็ปะทุขึ้นมาทุกวันเรื่อยๆ โปรเจคก์อยู่ในหัวเลยเยอะมาก ตอนนี้ทำไม่ทันเลย เพลงซื้อไว้เป็นร้อยเพลง

หัวใจหลังดวงจันทร์ เนื้อเพลงสะท้อนชีวิต

ถ้าถามว่าผ่านอะไรมาบ้าง เพลงนี้เป็นเพลงที่เป็นชีวิตจริงของแตนเลยนะ และก็คิดว่าอาจจะเป็น

90% ของคนไทย เพราะทุกคนส่วนใหญ่ที่ต่อสู้ชีวิต ไม่ใช่ว่าทำเพื่อตัวเองนะ ส่วนใหญ่ทำเพื่อลูก เพื่อพ่อ เพื่อแม่ เอาจริงๆ ตัวเองไม่ค่อยได้อะไรหรอก

ถ้าถามแตน แตนเคยให้รางวัลชีวิตตัวเองอะไรบ้าง เออก็อยากกินอะไรก็กิน แต่ถามจริงกินไม่กี่คำก็อิ่มแล้วปะ แต่สิ่งที่เราทำอะ เราให้พ่อให้แม่ ให้พี่ให้น้องให้ทีมงาน ให้คนที่เดินทางมาร่วมกัน เนี่ยถึงสะท้อนให้แตนเห็นว่า จริงๆ 90% ทุกคนที่ดิ้นรนเนี่ย ส่วนใหญ่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองเลย แต่ต่อสู้เพื่อคนที่ตัวเองรัก

จริงๆ ตอนอ่านเนื้อเพลงนี้ทำแตร้องไห้เลยนะ มันเหมือนคนๆ นึงที่ แบกโลกแบกทุกอย่างแบกภาระเอาไว้ เอาจริงๆ ไม่มีใครมาบีบบังคับให้เราเป็นแบบนั้นหรอก แต่เราแบกไว้เองด้วยความรับผิดชอบของตัวเราเอง ทำไมวะ ทำไมมันไม่มีวันของเราสักที! ทั้งๆ ที่เราห็เห็นว่าเดินอีกนิดเดียวมันเห็นแสงสว่างอยู่ข้างหน้า แต่เดินเท่าไรมันก็ไม่ถึงสักที ตกหลุมแล้วตกหลุมอีก หลุมก็ไม่ใช่หลุมเดิมด้วยนะ เป็นหลุมใหม่ๆ เพลงนี้ตั้งใจให้เป็นกำลังใจเป็นพลังให้กับทุกคน แตเล่น MV เองด้วยไม่เคยเล่นเพลงไหนเลยเพลงนี้เพลงแรก

เราทนลำบากทุกอย่างได้เพื่อครอบครัว โควิดมันสามปีแล้วอะ โดยเฉพาะอาชีพอย่างพวกแตนี่โดนหยุดทำงานก่อนเลย ถ้าเกิดเราเป็นอะไรไปครอบครัวเราเค้าจะอยู่ยังไง นี่ขนาดเรานะ แล้วคนที่เค้าด้อยโอกาสมากกว่าเราล่ะ คือแตผ่านจุดนั้นมาก่อน แตเป็นสาวโรงงาน เป็นเด็กเสิร์ฟมาก่อน คืองานอะไรทำหมดอะ เลยค่อนข้างเข้าใจคนที่สู้ชีวิต ว่าคนที่หาเข้ากินค่ำโคตรลำบากเลยนะ เพลง หัวใจหลังดวงจันทร์นี้เลยเป็นเพลงที่ให้กำลังใจคนที่อยู่ในสถานการณ์แบบเรา

แตนให้กำลังใจคนที่ต่อสู้เพื่อครอบครัว อยากให้ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้แล้ว ท้อได้ ร้องไห้ได้ แต่เราต้องรีบมูฟออนออกมาเร็วๆ ไม่มีใครช่วยตัวเราได้ เท่าตัวเราเอง ถ้าเรารู้จักให้กำลังใจตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องรอกำลังใจจากใครเลย เราจะลุกขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง และเราจะเข้มแข็งมาก

ตอนนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง? จุดต่อไปจากนี้วางไว้ยังไง

คิดว่าประสบความสำเร็จกว่าชีวิตที่ผ่านมาหลายร้อยหลายพันเท่า จากนี้ไปก็คงจะใช้ชีวิตให้มีความสุขเรียบง่าย อยู่กับต้นไม้ อยู่กับพื้นที่เงียบๆ และก็มีสัมพันธ์ที่ดี

บนโลกใบนี้สิ่งที่แตนต้องการมากที่สุดคือมิตรภาพที่ดี คือคนที่รักเรามันหายาก ที่เค้าพูดกันไว้มันเป๊ะเลยนะ 4 อย่างที่เอาคืนไม่ได้บนโลกใบนี้ ความรู้สึก เวลา ชีวิต มิตรภาพ

สี่อย่างที่พูดมา แตนมีมิตรแท้ น้อยแต่ก็ถือว่ามี เวลามีและก็เลือกได้ เพราะตอนนี้อิสระ ตอนนี้แฮปปี้กับชีวิตว่าถ้าอยากจะทำอะไรก็ทำได้ แตอยากทำเพลงอะไรก็ทำได้ ขายของด้วย แตสนุก จริงๆ ขายของนี่ก็ทำมาเกือบสิบปีแล้วนะ ตอนนี้ก็ถือว่ารวยแล้วแต่ไม่เหลือ เพราะแตให้คนรอบข้างเยอะ แตเป็นคนที่รักครอบครัว รักพี่น้อง รักทีมงาน ให้แบบไม่คิดชีวิต เวลารักใครจะรักมากให้เต็มที่ชนิดแบบไม่ต้องร้องขออะ แตนไม่ชอบรวยคนเดียว เราว่ารวยคนเดียวมันก็ไม่มีความสุขนะ กลายเป็นว่าเราฟุ่มเฟือยกับคนรอบข้าง แต่กับตัวเองกลับขี้เหนียว แต่มีเงินเก็บนะ สมมติวันนี้หยุดทำงานแล้วก็มีเงินให้ใช้ คือเป็นคนที่ทำงานไปใช้ไปเพราะแตไม่อยากเป็นคนที่แบบว่าตายไปสุดท้ายก็มีแต่คนมาแย่งสมบัติ

ตั๊กแตน ชลดา อีก 10 ปี ต่อจากนี้จะเป็นยังไง

ชีวิตนี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลยนะ แค่กินข้าวอิ่ม นอนหลับ ใช้ชีวิตมีความสุขพอ แฟนรวยก็ไม่ต้องการ ถ้าเจ็บป่วยมีตังรักษาพอ คิดแค่นี้เลย ไม่ต้องวางแผนอะไร ตอนนี้ยังทำงานได้ก็ทำไปหาเงินไปใช้ไป ไม่อยากจะวางเป้าโน้นนี่นั่น เพราะแตทำมาเยอะมาก

รู้สึกเบื่อชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายนี้มาได้ 3-5 ปี แล้ว ทุกคนงงว่าคืออะไร ก็คือเราเดินทางตลอดเวลา บางทีเห็นมั้ยอุบัติเหตุอะ ต่อให้เราระวังแค่ไหน ถ้ารถอีกคันมันไม่ระวัง ปัง! ทีเดียวจอด แตนคิดว่าจุดอยู่ตัวคือ น่าจะหยุดเดินทาง คงต้องหาอะไรทำสักอย่างให้มันเป็นเป็ดแล้วออกไข่ทองคำให้เราได้กินทุกวัน แต่อะไรล่ะ ก็ยังไม่รู้