จากเหตุการณ์คืนวันที่ 4 มีนาคม 67 ได้เกิดการปะทะกันระหว่าง กลุ่มสาวประเภทสองของไทย และประเทศฟิลิปปินส์ ที่ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง บริเวณซอยสุขุมวิท 11 ซึ่งเป็นจุดที่พักของกลุ่มสาวประเภทสองสัญชาติฟิลิปปินส์ที่ได้ก่อเหตุยกพวกรุมทำร้ายสาวประเภทสองชาวไทย จนได้รับบาดเจ็บ และกลายเป็นปรากฏการณ์บนโซเชียลมีเดีย “ศึกสุขุมวิท11”, “วันกะเทยผ่านศึก” ฯลฯ โดยคุณวุ้นเส้นผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้มาเผยในรายการทัวร์มาลงถึงเรื่องราวในคืนนั้น ขอสรุปประเด็นมาให้ได้ติดตามกันอีกครั้ง
ตำรวจขอความช่วยเหลือให้เป็นตัวกลางคุยกับเพื่อนกะเทย
ตำรวจจำคุณวุ้นเส้นได้ เพราะเคยทำงานในย่านนั้นมาก่อน วันเกิดเหตุมีกะเทยรวมตัวกันเป็นพัน แต่คุณตำรวจเรียกคุณวุ้นเส้นให้ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เพราะคิดว่าน่าจะคุยกับกะเทยรู้เรื่องที่สุด ซึ่งเธอก็บอกทุกคนไปว่า..
“ฟังก่อนนะคะๆ คุณตำรวจขอความร่วมมือค่ะ ห้ามปาขวด ห้ามโยนของ” คือคุณตำรวจต้องการให้เคลียร์คนตรงนั้นออก แต่คนนั้นตรงนั้นก็ไม่ยอมออก ที่เห็นกะพริบตาถี่ๆ คือภาษากายเนาะ ไม่ได้ให้จังหวะหรืออะไร คุณวุ้นยังเผยว่า ก็เข้าใจทั้งฝั่งตำรวจและฝั่งกะเทย
เห็นเหตุการณ์แล้วก็รู้สึก หดหู่ใจ เหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป
ปมแย่งงาน มีปัญหามาสักพัก แต่รอบนี้รุนแรงที่สุด
แม่วุ้นเส้นเผยถึงประเด็นเกี่ยวกับการแย่งงานว่า..
เรื่องประเด็นแย่งที่ทำกิน ระหว่างคนไทยกับมีปัญหานี้มาสักพักแล้ว แต่เมื่อก่อนไม่ได้รุนแรงขนาดนี้ ต่างคนต่างอยู่ คนไทยก็อยู่ฝั่งคนไทย คนประเทศอื่นก็อยู่ของเค้าไป ไม่ยุ่งกัน แต่ล่าสุดที่รุมทำร้ายกัน 20 คนฟิลิปปินส์รุมทำร้ายคนไทย งวดนี้หนักที่สุด
ฝากถึงรัฐบาลขอสิทธิเท่าเทียมให้ LGBTQ
หนูขอเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของ LGBTQ ให้มีกฎหมายรับรอง เท่ากับ ผู้หญิง ผู้ชาย เช่น การแต่งหน้า LGBTQ ยังแต่งงานไม่ได้, กฎหมายการรักษาพยาบาลให้เซ็นต์ชื่อไม่ได้, LGBTQ บริจาคเลือดไม่ได้
อยากดันอาชีพ Sex Worker ให้ถูกกฎหมาย เพราะเค้าไม่ได้ไปฆ่าใครตาย เพราะตัวของเค้าเอง เค้าอยากจะขายก็ได้ สวัสดิการในการรักษาพยาบาลไม่มีตรงนี้ อยากถามผู้ใหญ่มีโอกาสเป็นไปได้ไหมว่าจะถูกกฎหมาย
รับชมบทสัมภาษณ์เต็มๆ คลิกที่นี่
