Premium Blockbuster วันอังคารที่ 19 และวันพุธที่ 20 ธันวาคมนี้ เวลา 20.30 น. เป็นต้นไป แฟนๆเหล่า Autobots และ Decepticons เตรียมตัวพบกับภาคต่อสงครามหุ่นยนต์สุดมันส์ “Transformers ทรานส์ฟอร์เมอร์ส (ภาค 1) มหาวิบัติจักรกลสังหารถล่มจักรวาล” และ “Transformers: Revenge of the Fallen ทรานส์ฟอร์เมอร์ส (ภาค 2) อภิมหาสงครามแค้น” จากผู้กำกับเจ้าพ่อระเบิดภูเขาเผาเมือง ไมเคิล เบย์ เจ้าเก่าเจ้าเดิม ที่ครั้งนี้ได้เพิ่มความสนุกด้วยการขนเอาเหล่าหุ่นยนต์จาก Transformer มาให้แฟนๆ ได้ชมกันอย่างจุใจ โดยคุณจะได้พบกับหุ่นตัวไหนบ้างใน Transformer ภาคนี้นั้น ไปอุ่นเครื่องกันก่อนเลยดีกว่า
เริ่มกันที่ฝ่าย AUTOBOTS
พี่เบิ้ม Optimus Prime
ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของฝ่าย Autobots ออพติมัส ไพร์มเคยทำงานให้กับกองทัพของสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาเกือบปี เพื่อร่วมปกป้องโลกจากการคุกคามของฝ่าย Decepticons ที่ยังคงซ่อนตัวอยู่ เมื่อมีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้น ออพติมัสขอความช่วยเหลือจากแซม วิทวิงlสกี้เพื่อให้แซมช่วยปกป้องฝ่ายออโต้บอท
ออพติมัสเป็นผู้นำที่ฉลาดและยิ่งใหญ่ที่สุดใน Transformer เต็มไปด้วยความกล้าหาญ เปี่ยมไปด้วยพลัง และมีความมุ่งมั่นอยู่ตลอดเวลา ออพติมัสไม่เคยลังเลที่จะเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องพรรคพวกของตนเองเอาไว้ (สุดยอดผู้นำตัวจริง..)
ในภาพยนตร์ Transformer ออพติมัสสามารถแปลงร่างตัวเองให้กลายเป็นรถบรรทุกได้หลากหลายสไตล์ เขาเคยถูก Megatron สังหารมาแล้ว ในภาคอนิเมชั่น แต่ก็กลับมาอีกครั้งใน Transformer ตั้งแต่ภาคที่ 1 ซึ่งก็ยังมาในรูปแบบของรถบรรทุกสีแดงตัดกับน้ำเงินสุดแจ่ม แถมยังได้คนพากย์ Peter Cullen คนที่ให้เสียงกับออพติมัสในเวอร์ชั่นการ์ตูนมาให้เสียงพากย์อีกด้วย
Bumble Bee
ตัวละครสำคัญอีกตัวหนึ่งของฝ่ายออโต้บอท เราจะเห็นเขาในหลายๆ ตอนทั้งในภาคคอมมิคและการ์ตูนอนิเมชั่น Bumble Bee เป็นเพื่อนสนิทกับมนุษย์คนแรกที่ติดต่อกับเหล่า Transformer หรือเราจะรู้จักเขาในชื่อของ แซม วิทวิงสกี้ในฉบับภาพยนตร์นั่นเอง
ในเวอร์ชั่นต้นฉบับ Bumblebee สามารถแปลงเป็นรถเต่าโฟสวาเก้นสีเหลือง เขาถูกจัดว่าเป็นออโต้บอทที่ตัวเล็กที่สุด แถมเขานั้นยังเด็กที่สุดในกลุ่มอีกด้วย
เมื่อมาอยู่ในเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ ยานพนะของเขาได้ถูกไมเคิล เบย์ปรับเปลี่ยนจากรถโฟลค์เต่าสีทองกลายเป็น Chevrolet Camaro สีเหลืองสดใสแทน (สงสัยว่ารถเต่าจะยังไม่เจ๋งพอ) จนแทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของเรื่องนี้ไปเลย ใครเป็นแฟนบับเบิ้ล บี รอชมได้เลยนะจ๊ะ
Ironhide
Ironhide ถือเป็นออโต้บอทที่พูดจาได้ขวานผ่าซากและขาลุยที่สุดในกลุ่ม เขาสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นรถตู้นิสสันสีแดงสีสันสดใส (ในฉบับหนังสือการ์ตูน) นอกจากเป็นทหารที่แข็งแกร่ง และเป็นผู้ที่ต่อสู้ได้ยาวนานที่สุดในทีมแล้ว ไอรอนไฮด์เปรียบเสมือนมือขวาของออพติมัส ไพร์ม แถมเป็นทหารที่อาวุโสที่สุดในกลุ่มอีกด้วย เขาจะมีหน้าที่คุมทีมในเวลาที่ออพติมัสไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ไอรอนไฮด์ถือเป็นตัวละครที่สำคัญตัวหนึ่งใน Transformer แต่เขาได้ถูกเมกะตรอนฆ่าตายใน Transformer: The movie แฟนๆ จะให้เห็นการกลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบของรถกระบะ GMC Topkick โดยเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของเหล่าออโต้บอท
Ratchet
แรทเชิท มีลักษณะคล้ายกับไอรอน ไฮด์ คือสามารถเปลี่ยนร่างของตัวเองให้กลายเป็นรถตู้แวนเล็กได้ แต่สีพาหนะของเขาจะเป็นสีขาว (ส่วนไอรอนไฮด์จะเป็นสีแดง) และสามารถทำหน้าที่เป็นรถพยาบาลได้อีกด้วย ในทีมออโต้บอท แรทเชิททำหน้าที่เป็นหน่วยแพทย์สนาม คุณจะไม่ค่อยได้เห็นเขาลงสนามต่อสู่สักเท่าไหร่ (เป็นฝ่ายสนับสนุนนั่นเอง)
ถึงแม้ว่าเขาจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับไอรอน ไฮด์ แต่เขาไม่แข็งแกร่งเท่าขานั้นหรอก เขาจึงถูกฆ่าตายในตอนแรกสุด (กรรม) ในภาคเดอะมูฟวี่ ในขณะที่ไอรอนไฮด์นั้นรอดชีวิตมาได้อย่างสะบักสะบอม
ในภาพยนตร์ของไมเคิล เบย์ แรทเชิทนั้นกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง และยังคงรับหน้าที่เป็นแพทย์สนามเหมือนเคย แต่คราวนี้สามารถแปลงร่างเป็นรถพยาบาล Hammer H2 สีเหลืองที่ไฉไลกว่าเดิม
Arcee
เป็นออโต้บอทหญิงที่ดูจะโด่งดังมากที่สุดในทีม ชื่อของเธอเรียกว่า “อาร์ซี” ปรากฎตัวครั้งแรกใน Transformer: The Movie อาร์ซีมีนิสียที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ อยู่แก๊งค์เดียวกับร็อด คูฟ และบลาสเตอร์ เธอสามารถแปลงร่างเป็นรถสปอร์ตได้มากมายหลายแบบ
ใน Transfomers: Revenge of The Fallen อาร์ซีไม่ได้มารูปแบบรถสปอร์ตสีชมพูสดใสเหมือนอย่างเคย แต่เธอมาในรูปแบบของรถมอเตอร์ไซค์สามคัน ที่สามารถต่อสู้แตกต่างกันออกไปในแต่ละคัน เรียกได้ว่าปรับเปลี่ยนแบบใหม่หมดจด แถมได้ชื่อใหม่มาด้วยนะ
ต่อกันด้วยฝ่าย DECEPTICONS
Megatron
เมกะตรอนเป็นผู้นำฝ่ายดิเซพติคอน เขามีพลังที่ไร้ขีดจำกัดและชั่วร้ายมาก เมกะตรอนสามารถสังหารหุ่น มนุษย์และทุกๆ คนที่เข้ามาขัดขวาง เขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถต่อกรกับออพติมัส ไพร์มได้อย่างสูสี และสามารถฆ่าออพติมัสได้สำเร็จใน Transformer: The Movie แต่ตัวเขาเองก็เสียหายอย่างหนักเช่นกัน แรกเริ่มเดิมทีนั้น เมกะตรอนพเนจรไปทั่วดวงดาวต่างๆ และเขาได้ขึ้นเป็นผู้นำของฝ่ายดิเซพติคอนหลังจากที่สามารถสังหารสตาร์สครีมได้
The Fallen
เราจะไม่ค่อยเห็นเขาปรากฎตัวเท่าไหร่นักใน Transformers เขาได้ถูกล่าวถึงครั้งแรกในคอมมิค เป็นหนึ่งในสิบสาม Transformers ยุคแรกๆ และมีรูปร่างเป็นรถถัง Cybertronian
ในภาค Revenge of The Fallen นี้ เขายังคงเต็มไปด้วยความชั่วร้าย และเป็นตัวยุยงให้เมกะตรอนร้ายกาจอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และสามารถแปลงร่างเป็นอากาศยาน Cybertronian หลายๆ รูปแบบด้วยกัน
Starscream
ฉายาของเขาคือ “ผู้ทรยศแห่งดิเซฟติคอน” ก่อนหน้านี้เจ้าตัวแสบนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมทางอากาศของเมกะตรอน สตาร์สครีมถือว่าเป็นตัวอันตรายและมีพลังมากที่สุดคนหนึ่งของดิเซฟติคอน
แต่เดิมนั้น สตาร์สครีมสามารถแปลงเป็นเครื่องบิน F-15 อีเกิ้ล แต่ไมเคิล เบย์ได้ปรับเปลี่ยนให้เขากลายเป็น เครื่องบิน F-22 แรพเตอร์ที่ทรงพลังและร้ายกาจกว่าเดิมในภาค 1 (เหมือนทีแรกยังร้ายไม่สะใจ) และยังคงมีรูปร่างแบบเดิมในภาค Revenge of The Fallen เขานั้นต้องการยึดอำนาจและขึ้นเป็นผู้นำแทนเมกะตรอน และเขาก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำจริงๆ ในระหว่างที่เมกะตรอนหายตัวไปอย่างลึกลับ
Soundwave
ซาวด์เวฟทำหน้าที่ควบคุมการสื่อสารทั้งหมดของดิเซฟติคอน โดยทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลต่างๆ ไปยังฝ่ายของตนเอง แถมยังเป็นสมุนผู้จงรักภักดีต่อเมกะตรอน เจ้าตัวแสบนี้ยังมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลนับล้านๆ ได้ในครั้งเดียว
ซาวด์เวฟมีอาวุธร้ายกายอยู่สองอย่างด้วยกัน คือ ปืนใหญ่โซนิค และลูกพี่เมกะตรอน เมื่อใดก็ตามที่หุ่นฝ่ายดิเซฟติคอนพ่ายแพ้ เจ้านี่จะรายงานตรงไปยังเมกะตรอนทันที จนทำให้สตาร์สครีมนั้นหมั่นไส้ในบางครั้งบางคราว ซาวด์เวฟเองก็ไม่ค่อยถูกกับอีกฝ่ายเช่นกัน เพราะเขานั้นรอที่จะเป็นผู้ควบคุมทางอากาศแทนสตาร์สครีมอยู่ แต่น่าเสียดายที่ปืนใหญ่โซนิคนั้น ทำงานได้บนชั้นบรรยากาศเพียงเท่านั้น
Scorponok
ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดเมื่อถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ สำหรับ สกอร์ปินอกซ์
สกอปินอกซ์นั้นเกิดมาเพื่อล่า ทำลายและก็ล่า เป็นตัวสังหารตัวจริงเสียงจริง เจ้าตัวแสบนี่สามารถดำดินได้อย่างไร้ร่องรอย เขาจึงมีความสามารถในการสอดแนมเป็นอย่างยิ่ง แล้วเขาน่ะมันตัวเล่นซ่อนหาเลยล่ะ เขาอาจจะพ่ายแพ้ แต่แน่นอนเขาจะกลับมา เขามาเพื่อฆ่าเหล่าออโต้บอท แต่ไม่เคยยอมแพ้
