พฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคมนี้ เวลา 11.25 น. แฟนๆ พระเอกตลอดกาล ทอม ครูซ ห้ามพลาดกับแฟรนไชส์หนังภาคต่อที่ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในชีวิตของเขา (694 ล้านดอลล่าร์) กับ “Mission: Impossible – Ghost Protocol ปฏิบัติการไร้เงา” ซึ่งเขาอำนวยการสร้างร่วมกับมือฉมังของวงการอย่าง “J.J.Abrams” จาก “Starwar Episode VII” และ “Star Trek Beyond”
นอกจากพระเอก ทอม ครูซ ที่ขาดไม่ได้ในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ยังมีนักแสดงที่มาร่วมสร้างสีสันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไซมอนด์ เพกส์ กับบทเบนจี้ เจ้าหน้าที่เทคนิคคอมพิวเตอร์สุดกวน, พอลล่า แพตตัน ที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าเธอกับภาพยนตร์ “Deja Vu” และบทผู้ช่วยอัยการสาวจากทีวีซีรีส์ชื่อดัง “Law and Order: Special Victim Unit”, จอช ฮอลโลเวย์ จากซีรีส์ผจญภัยสุดฮิต “Lost”, เจเรมี เรนเนอร์ จาก “The Avenger” และ “The Bourne Legacy” และ “Wind River” มาร่วมแสดงอีกด้วย แต่ระหว่างรอให้ถึงวันนั้น เรามาดูฉากเด็ดเรียกน้ำย่อยกันก่อนดีกว่า
อันดับ 5 ฉากไล่ล่าคนร้ายในลานจอดรถอัตโนมัติ
ดูจะเป็นฉากที่มีสถานที่ที่ออกจะแปลกไปเล็กน้อยในการถ่ายทำฉากแอ็คชั่น แต่ถึงอย่างนั้น ก็ให้ความทึ่งไม่แพ้กับฉากอื่นๆ แถมอีธานพระเอกของเรายังโดนเล่นงานซะอ่วมในฉากนี้ ยังไม่รวมถึงการพังรถไปไม่น้อยกว่าสามคันในการถ่ายทำ ทีมงานแอบบอกว่า ฉากนี้ถ่ายทำได้ยากพอดู และถือเป็นฉากที่เรียกได้ว่า “บ้า” ฉากหนึ่งในเรื่องนี้เลยทีเดียว
อันดับ 4 ฉากไล่ล่ากลางพายุทราย
เป็นฉากที่อีธานต้องไล่ล่าผู้ร้ายกลางพายุทรายที่พัดกระหน่ำในดูไบ เรียกได้ว่าเป็นฉากที่ถ่ายทำยากอีกฉากหนึ่ง เพราะต้องมีการสร้างพายุทรายจำลองขึ้น แม้จะเป็นฉากที่ดูแล้วแอบอึดอัด (เพราะมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากทราย) ทรมานใจเบาๆ แต่ก็เป็นฉากที่น่าดูอีกฉากหนึ่งในเรื่อง
อันดับ 3 ฉากลอบเข้าไปที่พระราชวังเคมลิน รัสเซีย
ถือเป็นฉากหนึ่งที่ต้องยกเครดิตให้คนที่คิดฉากนี้เลยเพราะเป็นฉากที่ทำให้คนดูตื่นเต้นไม่เบาเลย ซึ่งในฉากนี้ อีธานร่วมกับเบนจี้ ผู้ช่วยสุดกวนของเขา ต้องลักลอบเข้าไปขโมยข้อมูลในพระราชวังเคมลิน สถานที่ที่ได้ชื่อว่ามีการป้องกันแน่นหนาที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถึงแม้ว่าฉากนี้จะไม่ได้มีฉากบู้ให้ตื่นตาตื่นใจ แต่วิธีการเข้าไปขโมยข้อมูลนั้นสุดแสนจะครีเอท การันตีเลยว่าหากคุณดูฉากนี้แล้ว จะต้องร้องออกมาว่า “คิดได้ไง(ฟร่ะ)”
อันดับที่ 2 ฉากหนีออกจากคุกที่รัสเซีย
ถือเป็นฉากที่สร้างสีสันได้อย่างดีเลยทีเดียว ผสมกับมุกตลกสไตล์เจ เจ อบรัม ที่ทำให้ฉากหลบหนีออกจากคุกนี้ดูน่าทึ่ง บวกกับการแสดงลีลายิมนาสติกของพระเอกอีธาน ฮันท์ที่เรียกได้ว่า น่าประทับใจ รวมถึงความกวนประสาทของเบนจี้ ถือเป็นฉากหนึ่งที่ต้องติดตามใน Mission Impossible ภาคนี้
อันดับ 1 ฉากปีนตึกที่สูงที่สุดในโลก ดูไบ
มาถึงฉากสุดท้าย ที่บอกเลยว่า ใครไม่ดูถือว่าพลาดมาก เพราะเป็นฉากที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้นับตั้งแต่เปิดตัวมา เป็นฉากที่พระเอกทอม ครูซ ลงทุนปีนตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลกตึกหนึ่งในดูไบ ถึงแม้ว่า จะมีการใช้ CG เพื่อช่วยในการถ่ายทำ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ทอม ครูซ เขาได้ปีนขึ้นไปบนตึกระฟ้านั่นจริง แถมยังเล่นเอง วิ่งเอง บินเอง ขอบอกว่า “ต้องห้ามพลาด” ฉากนี้ด้วยประการทั้งปวง
เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีฉากแอ็คชั่นให้ตื่นเต้นได้ตลอดเวลา สำหรับภาค 4 ของ Mission Impossible ที่มีมุกตลกร้ายให้ได้หัวเราะกันตลอด นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้เท่านั้น ส่วนเรื่องเต็มๆ ต้องติดตามชมได้ในวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคมนี้ เวลา 11.25 น. เป็นต้นไป ทางช่องโมโน 29 ที่เดียวเท่านั้นจ้า
