คัดลอก URL แล้ว
เรื่องย่อตี๋ใหญ่ ดับ ดาวโจร ตอนที่5 ออกอากาศ (9 ก.พ. 59)

เรื่องย่อตี๋ใหญ่ ดับ ดาวโจร ตอนที่5 ออกอากาศ (9 ก.พ. 59)

ความเดิมตอนที่แล้ว: แปะฉากที่อัศวินให้สัมภาษณ์สื่อว่าจะดูแลไซเรนต่อจากที่พ่อเรนตาย/ไซเรนกลับมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาได้ยินจักรคุยกับอัศวินว่ามีเบาะแสของตี๋ใหญ่ ขอตามจักรไปด้วย

ไซเรน “คุณอาครับ ขอผมไปกับพี่จักรเถอะครับ เผื่อมันวกกลับมาอีก”

อัศวิน “อย่าเลยไซเรน อีกอย่างคงไม่มีอะไรหรอก จักรแค่ไปดูเผื่อไว้น่ะ”

ไซเรน “ผมคิดว่าผมพอจะจำท่าทางมันได้ เผื่อผมจะช่วยพี่จักรดูได้”

อัศวิน “ไซเรน ตอนนี้เธอเป็นแค่นักเรียนนายร้อยตำรวจ อาคงให้เธอไปด้วยไม่ได้จริงๆ”

ไซเรน (ไซเรนเดินเข้าไปใกล้อัศวิน) “ตั้งแต่ทุกคนโดนมันฆ่าตายไม่มีซักวันที่ผมจะนอนหลับสนิท โดยที่ผมไม่คิดถึงมัน  มันคงสนุกที่ได้งานศพของคนที่มันฆ่า (ไซเรนคุกเข่าไหว้อัศวิน) ผมขอเถอะครับอา”

อัศวิน (มองไซเรนสงสาร พี่ปูต้องเล่นให้เป็นคนดีจริงๆ ก่อนนะครับ มองจักรกลับมา มองไซเรน ย่อตัวลงลูบหลังปลอบ) “ก็ได้ๆ ไปเปลี่ยนชุด ล้างหน้าล้างตาก่อน เดี๋ยวกินข้าวแล้วค่อยไป”

 บริเวณรอบๆ เสาชิงช้า ปานกลาง เทเล บัญชา จ่าแดง น้ำผึ้ง เดินข้ามถนนเท่ห์ ๆ กล้องอยู่ในร้านพระบัญชาเดินผ่าน ลอบสังเกต เดินหลุดไปกว้าง บัญชา น้ำผึ้งเดินเข้าร้านกาแฟในฉากที่ 2 ออฟซี

เสียงจ่าแดง “ไอ้พวกสายเก่าๆมันบอกว่าให้ลองไปดูแหล่งฟอกเงินแถวเสาชิงช้า มันบอกว่าไอ้พวกนี้สายแข็ง ของร้อนแค่ไหนมันก็รับครับ”

เปิดด้วยภาพใกล้ แมลงวันอยู่บนโต๊ะถูกตีตาย กว้าง จากในร้านรับจ่าแดงเข้ามา จ่าแดงเข้ามาพร้อมกับถุงเก๋าลัดในมือ

จ่าแดง “ร้อนๆ เลยครับหัวหน้า”

น้ำผึ้ง “หลายชั่วโมงแล้วนะจ่าแดง มันใช่ป่ะเนี้ยะ.. ผิดที่รึเปล่า สายของจ่าแต่ละคน จ่าไปเช็คอีกทีเหอะ”

บัญชามองไปที่ร้านพระอย่างมีสมาธิ แต่ก็อมยิ้มในสิ่งที่น้ำผึ้งพูด

ด้านข้าง ใกล้ บัญชามองไปที่ร้านพระอย่างมีสมาธิ จิบกาแฟ แต่ก็อมยิ้ม 

จ่าแดง “ตอนผมหนุ่มๆ หนูยังไม่เกิดเลยมั้ง มีอยู่ครั้งนึงเคยเฝ้ากันเจ็ดวันเจ็ดคืน ทุกคนบ่นกันระงมเลย น้ำท่าแทบไม่ได้อาบเพราะถ้าเราออกจากจุดที่ซุ่มเดี๋ยวคนร้ายก็เตลิดพอดี” น้ำผึ้ง มองจ่าแบบเซ็งๆ

จ่าแดง “ของจะกินก็ต้องแอบเอามาส่งกัน ตอนนั้นเราเฝ้าอยู่ตึกแถวฝั่งตรงข้ามอย่างนี้แหละ ในคืนที่แปดทุกคนเริ่มโวยวายจะกลับแล้ว แต่มีร้อยเอกหนุ่มที่เป็นหัวหน้าอยู่คนหนึ่ง ลูกน้องก็แก่ๆ กันแล้วก็ไม่ค่อยมีใครฟังเด็กใหม่อย่างแก จะกลับท่าเดียว หลายคนหัวเราะแก กระแนะกระแหน่บ้าง เค้าทำไงรู้มั้ย”

กล้องเคลื่อนเข้าใกล้บัญชาให้ความรู้สึกว่ากำลังพูดถึงบัญชาอยู่

น้ำผึ้ง “จะรู้ได้ไงก็จ่าบอกว่าหนูยังไม่เกิดนิ  แต่หนูว่าเราไปเหอะเสียเวลา ไม่ใช่ที่นี่หรอก” (น้ำผึ้งกวน)

บัญชา “เค้าก็ไปยืนขวางสายสืบทั้งโขยง ขอร้องให้เฝ้าต่ออีกวัน ซึ่งไม่มีใครฟังเค้าเลย แต่โชคดี่ที่มีจ่าใจดีคนนึงช่วยพูดทุกคนถึงยอมอยู่ต่อ”

กล้องเคลื่อนเข้าใกล้บัญชาให้ความรู้สึกว่ากำลังพูดถึงจ่าแดงอยู่ จ่าแดงยิ้มนิดๆ

จ่าแดง “เช้าวันรุ่งขึ้น การรอก็เป็นผล เราจับแหล่งพักยาที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้นเลย นำโดยนายตำรวจที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น”

น้ำผึ้ง “ใครอ่ะจ่า”

จ่าแดงพยักเยิดไปทางบัญชา น้ำผึ้งมองตามทำหน้างง ว่าที่แท้เป็นนายตัวเอง

บัญชา (ยังมองไปที่ร้านพระ ยิ้ม) “ถ้าไม่ได้จ่าก็คงไม่มีใครฟังผมหรอก (หันไปหาน้ำผึ้ง)ไม่เสียเวลาหรอกน้ำผึ้ง อยากน้อยเราก็รู้ว่าคนไทยยังชอบทำบุญกันอยู่”

กล้องแทนสายตาเห็นคนมาจะเช่าพระ 

เราจะเห็นทั้งสาม เพิ่งกลับเข้ามา เชนมองไปรอบๆก่อนจะ รูดประตูร้านปิด

เจ้าของร้านหยิบเงินมาดูฟ่อนหนึ่ง

เจ้าของร้าน “เท่าไหร่”

ลูกน้อง “ล้านห้านิดๆ ครับ”

เจ้าของร้าน “โชคดีว่ะยังใช้ไปไม่เท่าไหร่”

ลูกน้อง “มียาด้วยเฮีย”

เจ้าของร้าน (มองไปที่อีกถุง ล้วงดู) “เอ้า!! เออโชคดีจริง สงสัยพระท่านจะช่วย (หันไปยกมือไหว้พระ) แล้วไอ้เจี้ยบ กับไอ้เบญล่ะ”

ลูกน้อง “ก็ตามที่เฮียสั่งเลยครับ ผมให้มันรอเก็บไอ้พวกนั้นไปเลย จะได้ดูเหมือนมันถูกปล้นไปอีกที ไอ้จักรมันได้ตามไม่ถึงเรา”

เจ้าของร้าน “เฮียเอาเศษเงินให้มันไปแล้ว ยังไงมันนึกไม่ถึงแน่ว่าจะเป็นเรา โทรไปบอกไอ้สองคนนั้นวันนี้ไม่ต้องมาร้าน เฮียให้พักสักสองสามวัน”

เปิดด้วย ใกล้น้ำในกระบอกกระชอกจากการดื่มอย่างกระหายทั้งสามนั่งลงเหนื่อยๆ แต่ไม่มีใครพูดอะไรกัน

เชน “เอาไงต่อพี่”

ตี๋ใหญ่นิ่งคิด ในความเงียบ ได้ยินเสียงท้องร้อง พาสเวิร์ด

พาสเวิร์ด “หิวแล้ว”

ตี๋ใหญ่สังเกตเห็นคราบเลือดเล็กๆที่หน้า

ตี๋ใหญ่   (กับพาสเวิร์ด) “ไปอาบน้ำก่อนไป”พาสเวิร์ด กินก่อน

เชน   “แปบนึง ยังไม่มีไรกิน” (มองหน้าตี๋ใหญ่)

ในครัวเราเห็นตี๋ใหญ่ต้มบางอย่างควันฉุย รับหน้าเรียบเฉยซ่อนความกังวลไว้ เอาช้อนตักมาชิม เชนช่วยเอาถ้วยมาตี๋ใหญ่ตักให้ ตัดมาที่โต๊ะเราเห็นทั้งสามกินด้วยกันอย่างเงียบๆ

พาสเวิร์ด(พูดไม่คิดอะไร) “ใกล้เคียงฝีมือแม่เลยครับ”

ตี๋ใหญ่สะอึก

กล้องตามจ่าแดงเดินตรอกข้างร้านพระแอบสำรวจ

(บ้านพาสเวิร์ดจีน มีที่ไหว้เจ้าแดงๆตามโลเคชั่นจริง) ใกล้มือตี๋ใหญ่เอารูปแม่พาสเวิร์ดดึงออกจากกรอบรูป กว้างดอลลี่อิน  ตี๋ใหญ่เอารูปแม่พาสเวิร์ดขึ้นบนที่ไหว้เจ้ายกมือไหว้ ใกล้รับหน้าตี๋ใหญ่เศร้าหม่น ตี๋ใหญ่ได้ยินเสียงแก็กๆ องหลิน ตี๋ใหญ่หันมองตัดไปเห็นหลินเดินอยู่ในตรอก

ตี๋ใหญ่เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เศร้าๆ อยู่ในภวังค์ ตามหลังหลินไป พ้นโค้งไปก็ต้องเจอกับหลินที่รออยู่

หลิน   “เป็นงานประจำหรือเปล่าคะ  สะกดรอยตามคนอื่น” (ยิ้มดีใจที่เห็นตี๋ใหญ่)

ตี๋ใหญ่   “ขอโทษผม… ไม่ได้”

หลิน “ไม่ได้ตั้งใจให้ชั้นรู้ตัวใช่ไม๊”

ตี๋ใหญ่ยิ้มเศร้าๆ หลินรู้สึกได้ถึงความเศร้าจากผู้ชายคนนี้ หุบยิ้มอันสดใสลงเล็กน้อย

หลิน   “ชั้นจะไปร้านกาแฟก่อนไปทำงาน … อยากได้กาแฟสดชื่นๆ สักแก้วมั้ยคะ”

หลิน “เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ”

ตี๋ใหญ่ “เปล่า”

หลิน “แค่ไม่ได้นอน”

ตี๋ใหญ่ (ยิ้มน้อยๆ) “นี่คุณตาบอดจริงรึเปล่า”

หลิน “เชื่อเหอะ.. ถ้าหลินไม่ตาบอด คุณจะไม่รู้สึกปลอดภัยแบบนี้หรอก”

ตี๋ใหญ่ (อึ้งไป)

หลิน “กี่โมงแล้วคะ”

ตี๋ใหญ่ “ใกล้สิบโมง”

ตี๋ใหญ่รู้สึกสบายใจอย่างประหลาดเมื่ออยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้ ชวนคุยเพื่อยืดเวลาอยู่ด้วยกัน

หลิน“ค่ะ”

ตี๋ใหญ่   “คุณทำอะไร น้ำหอมเหรอ”

หลิน “เค้าเรียกว่าเอสเซนเชียลออล น้ำมันหอมสกัดจากธรรมชาติ มีสรรพคุณต่างๆ กันไป”

ตี๋ใหญ่   “ยังไง”

 

หลิน “ก็อย่างลาเวนเดอร์ ช่วยกำจัดแบคทีเรีย และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายขับเชื้อโรคออกไป ทำให้สงบ และผ่อนคลาย ช่วยให้อารมณ์เกิดความสมดุล

น้ำมันหอมระเหยเป๊ปเปอร์มินต์ ช่วยให้จิตใจแจ่มใส ปลอดโปร่ง ช่วยให้สดชื่นและมีชีวิตชีวา อะไรประมาณนี้ …แต่เราสามารถเอามาผสมให้เกิดกลิ่นอื่นได้ นั่นแหละอาชีพชั้น”

ตี๋ใหญ่   อืม… คุณไม่ถามผมเหรอ ว่าผมทำอะไรอยู่”

หลิน (ส่ายหน้า) “ถ้าคุณอยากให้ชั้นรู้คุณก็บอกเอง ไม่เห็นต้องรอให้ชั้น   ถามใช่มั้ย… ไปแล้วคะสายแล้ว”

ตี๋ใหญ่ “ครับ”

หลิน “แต่คุณดีขึ้นแล้วนะไม่มีกลิ่นความกลัวแล้ว (พูดเล่น) มีแต่กลิ่นสาบ  น่าจะยังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อวานมั้ง”

ตี๋ใหญ่ (ยิ้มเขินเล็กน้อย) “คงใช่”

หลิน “ครับผม” (ยิ้ม)

หลินเดินอมยิ้มออกไป ตี๋ใหญ่ดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย

น้ำผึ้งวางโทรศัพท์ลง รายงานบัญชา

น้ำผึ้ง “ได้รายชื่อพนักงานที่เคยทำงานกับบริษัทของท่านอัศวินทั้งหมดแล้วค่ะ ว่าจะเริ่มจากพวกที่ออกจากบริษัทไปแล้วก่อน ทางท่านอัศวินจะได้ไม่รำคาญที่เราตามสืบ”

บัญชา ดีแล้ว ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าท่านรู้เรื่องรึเปล่า อาจเป็นลูกน้องท่านแอบทำก็ได้ …สืบอยู่ห่างๆ ก่อน” (บัญชาเพ่งมองไปทางร้าน)

จ่าแดง (เพิ่งเข้ามา) “หลังตึกไม่มีประตู ถ้ามันจะเข้าออกเราเห็นแน่  คนงานที่เห็นมีสามคน แต่ตึกแถวด้านบนติดกันถ้ามีอะไรมันอาจจะปีนข้ามไปได้ครับหัวหน้า”

รับหน้าบัญชาเพ่งมองไปทางร้าน แทนสายตาเห็นลูกน้องเฮียออกมาโทรศัพท์

บัญชา “น้ำผึ้งถ่ายรูปไว้หน่อย”

แทนสายตาน้ำผึ้งทำเป็นเดินเฉไฉไปแล้วยกมือถือขึ้นถ่าย แทนสายตาใกล้ขึ้นที่ลูกน้องโทรศัพท์

กล้องเคลื่อนเข้าหาโทรศัพท์ที่ตกอยู่ใต้เตียง(โทรศัพท์ของลูกน้องเฮีย) มีมือมาหยิบออกไป เห็นเชนดูโทรศัพท์  มองหน้าตี๋ใหญ่

เชน   “ลูกน้องเฮียชาติว่ะพี่ (เชนรื้อดูที่ซ่อนเงิน) มันเอาเงินไปหมดเลยพี่”

ตี๋ใหญ่เดินไปที่ซ่อนยา ล้วงเอายาออกมา

ตี๋ใหญ่ “แสดงว่ามันมากันสามคน คนนึงเอาของไปก่อนอีกสองคนดักรอเก็บเรา”

พาสเวิร์ดเข้ามาพอดี

พาสเวิร์ด “พี่ตี๋ให้ผมทำไรใช้หนี้ดีคับ วันนี้วันที่หนึ่งแล้วนะ เหลืออีกหกร้อยหกสิบหกวัน”

รับหน้าตี๋ใหญ่อึ้งไปที่ทำให้แม่พาสเวิร์ดตาย มองหน้าเชน

ตี๋ใหญ่ “อย่างน้อยเราน่าจะมีเงินซักก้อนให้ไอ้เด็กนี่”

ตี๋ใหญ่เดินต่อไปที่ส้วม แกะห่อยาจะเททิ้ง(หลังจากนี้ด้วยความที่ทั้งคู่เครียดมาจากเหตุการณ์เมื่อคืนเลยทำให้เริ่มมีอารมณ์ใส่กัน พี่ตี๋ก็ขึ้นแต่เป็นผู้ใหญ่กว่า เชนขึ้นได้)

เชน           “พี่ๆ เราเอาของไปขายก็ได้นี่พี่ จะทิ้งทำไม”

ตี๋ใหญ่ “ทำอย่างนั้น..เราก็ไม่ต่างอะไรจากพวกมัน” (มองหน้าเชนแบบไม่ค่อยเข้าใจ)

เชน   “แล้วตอนนี้เราต่างกับพวกเหี้ยนั่นยังไงอ่ะพี่ ….ผมก็ไม่รู้อ่ะนะว่าพี่มีอะไรกับไอ้บริษัทนี้ แต่ถ้าเรามีเงินมันก็ดีกว่าไม่มีไม่ใช่เหรอพี่”

ตี๋ใหญ่ “ขายไอ้นี่แล้วอีกกี่คนที่ต้องเดือดร้อน ทำลายไปอีกกี่ครอบครัว”

เชน    “พวกเรามันก็แค่โจรปล้นโจร ไม่เห็นต้องแคร์เลยว่าได้เงินมายังไง แค่นี้ยังลำบากไม่พอรึไงพี่”

ตี๋ใหญ่ “อยากรวยมาก คงต้องเดินทางอื่น แต่คงไม่ใช่กับพี่”

เชน    “แล้วพี่ทำอย่างนี้ไม่อยากรวย แล้วทำไปเพื่ออะไรอ่ะ”

ตี๋ใหญ่ “ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น มีชะตากรรมของตัวเอง แกไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกอย่างหรอก”

ตี๋ใหญ่ เทยาลงส้วม เชนเดินออกเครียดๆ จบหน้าตี๋ใหญ่เศร้าที่คนใกล้ตัวยังเป็นซะเอง

อัศวินกำลังออกจากบ้านมิลค์ในสภาพอิดโรยเดินมากอด

มิลค์ “พ่อคะ หนูต้องลงทะเบียนเรียนเพิ่มค่ะ ขอเบิกเงินด้วยค่ะ ของหนูเดือนนี้หมดแล้ว”

อัศวิน (ล้วงกระเป๋าโดยไม่คิดเลย ก่อนเงยหน้าขึ้นมองลูก)“หนูดูไม่สบายนะลูก ดูหนังสือดึกเหรอ”

มิลค์ “นอนไม่ค่อยหลับคะ เย็นนี้อยากกินสลัดฝีมือพ่อและ”

อัศวิน (ยิ้ม) “เย็นนี้ (นึก นับเงินไปด้วย) เย็นนี้พ่อมีคุยกับผู้ใหญ่ค่ะ  พรุ่งนี้ละกันนะ”

มิลค์ (ยิ้ม ง่วงๆ นอนซบลงบนโต๊ะ พ่อรินน้ำวางให้ตรงหน้า พร้อมเงินสอดไว้ข้างใต้มิลค์ มองเงิน)

ตี๋ใหญ่บรรจุกระสุนใส่แม็กกาซีน ใกล้ตาอันเศร้าหมอง

ทั้งสองเดินอยู่ในตรอกแห่งหนึง จนมาหยุดด้านหน้าตรอกที่สามารถมองเห็นร้านพระได้ระหว่างเดิน รับโทรศัพท์เนส

ไซเรน “อืม.. กลับมาแล้ว”

เนส   “ได้หยุดกี่วัน”

ไซเรน “ก็ปกติ 2 วันแค่นี้นะ”

เนส “ไซเรนอยู่ไหน ..เดี๋ยวเราไปหา”

ไซเรน “แถวเสาชิงช้า แค่นี้นะ”

เนส “ไหว้พระเหรอ …เดี๋ยวเจอกันนะ”

ไซเรน “ไม่ใช่ ….”

เนส “แค่นี้นะใกล้ถึงโทรถามอีกที”

ไซเรน “เนส…เนส ..เอ้ย ฮัลโหลๆ” (ไซเรนหงุดหงิด)

เนสนั่งคุยที่ใดๆ ไม่ระบุ มุมหนึ่งของบ้านได้

อัศวินกำลังไหว้พระที่อยู่ในห้อง เค้าปล่อยโทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้น สักพักจึงรับชายลึกลับเสียงทุ้มนุ่ม มีอำนาจ

อัศวิน (ไม่คุ้นเบอร์แต่พอรับกลับมีสีหน้ายิ้มแย้ม) “ครับพี่..สบายดีครับ”

ชายลึกลับ (ออฟซีน) “เรื่องบริษัทเป็นไง มีไรให้พี่ช่วยมั้ย”

อัศวิน “เงินที่ถูกปล้นประกันครอบคลุมอยู่แล้วครับ จะมีก็แต่ทางลูกค้าซึ่งก็ทะยอยทำหนังสือชี้แจงไปแล้วครับ ลูกค้าก็เข้าใจดี”

ชายลึกลับ (ออฟซีน) “แล้วมีแผนต่อไปยังไงบ้าง”

อัศวิน “ก็ต้องเรียกความมั่นใจคืนมาน่ะครับ ผมก็กำลังจะปรับปรุงรถใหม่ครับ”

ชายลึกลับ (ออฟซีน) “อืม…เห็นว่ามีชุดเฉพาะกิจจากส่วนกลางตามดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน มันมีปัญหาอะไรรึ”

อัศวิน “คงเฝ้าระวังไว้ก่อนนะครับ น่าจะเพราะคนร้ายมันทำยาเสพติดตกไว้บนรถผมน่ะครับ”

ชายลึกลับ (ออฟซีน) “เอ้าๆ  โอเค มีไรน้องโทรมาได้เลยนะ”

อัศวิน “ครับๆ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ”

อัศวินสีหน้าไม่บ่งบอกอะไร

จ่าแดงตอนนี้นั่งหลับพิงเสาไปแล้วน้ำผึ้งยืนมองไปทางร้านพระ บัญชานั่งจบกาแฟอยู่

บัญชา “ผมว่าคุณกับจ่าไปสอบลูกจ้างเก่าของอัศวินดีกว่า ผมจะอยู่ต่อสักพักมีไรโทรรายงานละกัน”น้ำผึ้งสะกิดจ่า จ่าพูดไม่ลืมตา

จ่าแดง “กาแฟร้อนเพิ่มแก้วนึง”

น้ำผึ้งเอือม สะกิดต่อ

น้ำผึ้ง “ไปได้แล้วจ่า..เร็วไม่งั้นไม่ให้นั่งรถไปด้วยนะ”

ชาวบ้าน 2 คนดูบ้านนอกๆ พูดคนเดียว

ชาวบ้าน (มองที่พระปลื้มๆ พูดสำเนียงบ้านนอกอิสานหรือ) “องค์นี้เช่าเท่าไหร่”

ลูกน้อง “3 หมื่น” (เช็คราคาตามจริงหน้าร้าน)

ชาวบ้าน(มองดูเงินในซองคล้ายซองผ้าป่า) “มีอยู่ สองหมื่นเก้าเองน่ะ ลดให้หน่อยนะ”

ลูกน้อง (ตะโกน) “เฮีย พระ (บอกชื่อปางตามจริง+หน้าตัก) ลดได้มั้ย”

เจ้าของร้าน (เดินออกมาดู)

ชาวบ้าน “ลดสักพันได้มัย ที่หมู่บ้านไม่มีพระประทานเลย หลวงพ่อท่านให้เอาเงินผ้าป่ามาเช่า เดี๋ยวต้องว่ารถกลับไปอีก”

เจ้าของร้าน (ท่าทางเหมือนจะลดให้) “มาจากจังหวัดไรกันล่ะ”

ชาวบ้าน (ยิ้มมีหวัง) “สุพรรณ บางระบือ”

เจ้าของร้าน “ถ้าอยากได้ถูกกว่านี้ก็ไปหาเอาแถวบ้านละกัน”

ชาวบ้าน   “พันเดียวเองนะ”

เจ้าของร้าน “ก็องค์อื่นก็มีนิ เล็กหน่อยก็ได้มั้ง ของซื้อของขาย”

(ชาวบ้านมองพระตาละห้อย เจ้าของเดินเข้าร้านไป)

ตี๋ใหญ่รูดประตูปิด เดินต่อไปในตรอก เชนขับมอไซค์มาเทียบ ทั้งคู่สบตากัน

ตี๋ใหญ่เอาหมวอแก๊ปมาสวม

เชน “ไป…ผมขับรถให้”

ตี๋ใหญ่ยิ้มเข้าใจซ้อนมอไซค์ออกไป

ตี๋ใหญ่ซ้อนเชนลัดเลาะในตรอก(รอบบ้านเชน)

ตี๋ใหญ่   “รอพี่อยู่ตรงนี้แหละ เชนไปเฮียมันก็จำได้พอดี”

เชน “พี่…ผมขอโทษ”

ตี๋ใหญ่ยิ้มตบบ่าแล้วเดินออกไป

เนสมาถึงสวัสดีจักรเดินมาพูดกับเรน จักรสบายๆ กินอะไรไปพลางเหลือบมองเป็นระยะๆ

เนส “เรียนเป็นไง แล้วนี่มาทำไร”

ไซเรน (มองแต่ร้านพระ ไม่มีสมาธิจะตอบ)

เนส (มองตาม) “กินข้าวกันมั้ย”

จักร   “ไปเถอะพี่ยังอยู่ที่นี่อีกนาน”

ไซเรน “เธอไปกินเองก่อนเถอะ เราจะอยู่ช่วยพี่จักรก่อน”

เนส   “ช่วย..ช่วยทำไรเหรอ”

ไซเรน “…อืม..เธอไปเหอะ”

ระหว่างที่ทั้งสองพูดกันเราจะเห็นตี๋ใหญ่ในแบ็คกราวน์ใส่หมวกแก๊ปทำที่เป็นดูพระแล้วเข้าไปข้างใน

ไซเรน “…พี่จักร….ผมขอไปเดินดูใกล้”

จักร (ชี้ที่หัวตัวเอง)….”แต่ผมทรงนี้คงไม่เหมาะมั้ง”

ลูกน้อง “หาพระอะไรอยู่เปล่าพี่”

ตี๋ใหญ่   “น้องๆ ถ้าเรายิ่งเช่าพระองค์ใหญ่ๆเรายิ่งได้บุญมากขึ้นใช่มั้ย  เฮียชาติอยู่มั้ย”

ลูกน้อง “ใช่ดิยิ่งใหญ่ก็ยิ่งแพง บุญได้บุญหนักเลยแหละ”

ตี๋ใหญ่   “เฮียชาติอยู่มั้ย”

ลูกน้อง “เอ้ารู้จักเฮียด้วย อยู่ข้างในเลย”

ลูกน้องเดินนำไป จักรส่ายหน้าแบบไม่เห็นด้วย

ไซเรน (นึกได้ว่าตัวตัดทรงตำรวจมองไปที่เนสซึ่งสวมหมวกแก็ปอยู่ หยิบมาสวม)

เนส “ ไปไหนหรอ เราไปเป็นเพื่อน”

ไซเรน (เสียงดังแบบลืมตัว)…”เราไม่ต้องการเพื่อน จะยุ่งอะไรกันนักกันหนา..เราไม่ได้ อยากให้เธอมาซักหน่อย”

จักรหันมามองทั้งคู่

จักร “ใจเย็นน..เด็กๆ”

เนส   (ตกใจ ไม่เคยเห็นเรนเป็นแบบนี้ พูดเสียงเครือ ฝืนยิ้ม)“ก็แค่..เป็นห่วง..ไม่เป็นไร ..ไว้เรนมาใหม่แล้ว”ไซเรนไม่ฟังเดินออกไป

บัญชาเห็นไซเรนเดินเข้า พยายามมองจนจำได้ ค่อยๆ จ่ายเงินกำลังจะเดินออกโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายเป็นเสียงน้ำผึ้ง

น้ำผึ้ง “ได้เรื่องแล้วค่ะหัวหน้า คือ..”

บัญชา “อย่าเพิ่งพูดอะไร..ผมว่าทางนี้ก็กำลังจะมีเรื่องเหมือนกัน รีบกลับมาก่อน”

 

ระหว่างเดินอยู่ในช่องระหว่างพระต่างๆ  ลูกน้องหลบชี้ให้ตี๋ใหญ่เดินเข้าไปข้างใน พอตี๋ใหญ่แซงก็โดนลูกน้องเฮียเอาปืนจ่อจากด้านหลัง(ตี๋ใหญ่ไม่เคยกลัวตาย)

ลูกน้อง “มาหาเฮียมีเรื่องอะไร”

ลูกน้องค้นตัวตี๋ใหญ่ ได้ปืนจากเอว

ระหว่างนั้นแทนสายตาเห็นอีกช่องเดินนึงไซเรนเดินเข้ามา  ทั้งสองจึงพูดกันเบาๆ ลูกน้องส่งสัญญาณให้ตี๋ใหญ่เงียบไว้ แล้วเอาปืนจ่อไว้เฮียที่ดูคอมอยู่เราจะได้ยินเสียงเบาจากคอม(เหมือนว่าเฮียดูหนังโป๊อยู่)ไซเรนเดินเข้ามาใกล้

เฮียชาติ “หาไรน้อง”

ไซเรน “เออ มีปางปราบมารมั้ยครับ”

เฮียชาติ “เอาหน้าตักเท่าไหร่”

ไซเรน “เมตรนึง”

เฮียชาติ “งั้นต้องสั่ง ก็สี่หมื่น มัดจำ ห้าสิบเปอร์เซ็นต์”(เช็คกับร้านอีกที) ไซเรนพยักหน้าเดินไปรอบ

ลูกน้องเฮียมองไปที่การสนาระหว่างเฮียกับไซเรน ตี๋ใหญ่เบี่ยงตัวหลบจากการจ่อปืน จับหักแย่งปืน แล้วล็อคคอจนลูกน้องเฮียนิ่งไปไซเรนเดินดูพระรอบๆ

เฮียเงยหน้าขึ้นเรียกลูกน้อง ไม่มีใครตอบ สงสัยนิดหน่อยระหว่างนั้นตี๋ใหญออกมาจากความมืดด้านหลังจ่อปืนที่หลัง เอียสะดุ้ง

ตี๋ใหญ่ “เงินอยู่ไหน”

เฮียชาติ “เงินไร กูเฝ้าร้านอยู่เนี่ย”

ตี๋ใหญ่ขึ้นนกปืน

ตี๋ใหญ่ “รู้เรื่องเงินได้ยังไง”

เฮียชาติ “ก็อ่านข่าว แล้วก็ตามไอ้ผมยาวไป”

ตี๋ใหญ่ “เงินอยู่ไหน “

เฮียชาติค่อยๆหยิบจากที่ซ่อนใต้โต๊ะ

ตี๋ใหญ่ “ครบรึเปล่า”

เฮียชาติ   “ก็เท่าเดิมล้านห้า”

ตี๋ใหญ่ “แล้วสี่แสนที่แลกก่อนหน้านี้”

เฮียชาติ   “จักรเอาไปแล้ว”

ตี๋ใหญ่ “ใคร!! จักร”

เฮียชาติ “ลูกน้องคุณอัศวิน”

ตี๋ใหญ่ “มีใครรู้เรื่องนี้อีก”

เฮียชาติส่ายหน้าจักรเข้าเฟรมมามุ่งหน้าไปที่ร้าน  บัญชาตัดเข้ามาทักทั้งคู่หยุดคุยกันกล้องหมุนไปรอบๆ

บัญชา “มาเลือกพระเหรอ”

จักร (แปลกใจนิดหน่อยนิ่ง) “ท่านอัศวินให้พา คุณไซเรนมาเลือกพระไว้ทำบุญให้ครอบครัว”

บัญชา “จะไม่ทำความเคารพกันหน่อยเหรอร้อยเอกจักกรา”

จักร(ยิ้มตาแข็งแบบมึงไม่ใช่นายกูแต่ก็เอาได้ ค่อยๆตะเบ๊) “ด้วยความเคารพครับ ท่านบัญชา จากสืบสวนกลาง”

บัญชาตะเบ๊รับ ระหว่างที่สองคนมองกัน ไซเรนมาถึง

จักร “ได้พระมั้ยคุณไซเรน”

ไซเรน (รับมุข) “เออ..เค้าบอกต้องสั่งไว้”

แทนสายตาเห็นลูกน้องเฮีย(ตปก) เหมือนได้ยินเสียงโครมครามในร้านวิ่งเข้าไปดู ทั้งสามมองตาม ไซเรนออกวิ่งคนแรก

จักร (ร้องตามห้าม) “ไซเรน อย่า”

ทั้งหมดตามไป

แทนสายตาเชนเห็นทุกคนเข้าไปในร้าน

เชน “เอาแล้วไง”

 

ไซเรนเข้ามาถึงลูกน้องกำลังประคองเฮียอยู่ มีรอยเลือดเปื้อนที่องค์พระ ไซเรนมองหาไปรอบ บัญชา จักร ตามมาสมทบ บัญชาดูเฮียที่บาดเจ็บ

จักร “กลับกันเถอะครับ”

ไซเรน (กับลูกน้อง) “ใครทำ” (มองไปรอบวิ่งหลุดไป)

คัทย่อย (ปรับให้เข้ากับโลเคชั่นอีกครั้ง)

-ไซเรนดูรอบๆ เห็นทางขึ้นวิ่งไปดู เห็นหลังคนไวๆ  วิ่งหลุดไป

-ตี๋ใหญ่กับถุงเงินวิ่งขึ้นบันไดมาทางกล้อง

-ไซเรนวิ่งตามมา ขึ้นชั้นสองไป

-บัญชามาหยุดมองตามช่องบันไดแต่ไม่ขึ้นมา

-ตี๋ใหญ่ปีนหน้าต่างออกไปที่กันสาด

-เชนมองนาฬิกาเป็นกังวล

-บัญชาออกมาหน้าร้านมองไปทางบนตึกแล้ววิ่งไปดักอีกทาง(วิ่งลัดเลาะ คล้ายโล2ที่พี่โอ้พาไปดู)

-เราจะเห็นตี๋ใหญ่ปีนเหล็กดัดลูกกรงตึกแถว

-ไซเรนเป็นประตูดาดฟ้าตึกแถวมองหา

-จักรขึ้นบันไดตามมา

เดินพูดโทรศัพท์ เดินไปพูดไป

บัญชา “จ่ากับน้ำผึ้งถ้าพวกคุณมาถึง เฝ้าหน้าตึกไว้คนนึง”

ตี่ใหญ่ เดินเลาะขอบตึก ได้ยินเสียงไซเรน กล้องเริ่มจากตามหลังแล้วแซงไปขนานเห็นไซเรน (ตี๋ใหญ่หันข้างให้ตลอด)

ไซเรน “หยุด” (ไม่แน่ใจ)

ตี๋ใหญ่ชะงักไซเรนวิ่งมาหยุดที่ขอบ พูดขนานกับตี๋ใหญ่

ไซเรน “มึงใช่มั้ย (เริ่มแน่ใจเพราะตี๋ใหญ่ไม่หยุด) ไอ้ชั่ว มึงหยุด ไอ้สัตว์  มึงมาเจอกู” (ไซเรนตะโกน เสียงหลง พลางไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะอยู่คนละตึก ตี๋ใหญ่ เดินต่อ)

-รับหน้าตี๋ใหญ่ พยายามจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก เศร้าหม่น เดินต่อ

-ไซเรนวิ่งคลั่งไม่รู้จะทำไง ต่อมาด้วยเสียงอ๊ากอย่างคลั่ง

-จักรขึ้นมาถึง จะห้ามแต่ไซเรนออกตัวไปแล้ว

-เท้าเริ่มออกวิ่ง

-กล้องขนานไซเรนวิ่ง

-รับหน้าตี๋ใหญ่ตกใจ

-รับหน้าไซเรน อ๊ากวิ่งตะโกน กระโดด

-ไซเรนลอยอยู่กลางอากาสระหว่างสองตึกแล้ว

-ไซเรนโดดไม่ข้ามเกาะขอบตึก

-รับหน้าจักรตกใจ

-ใกล้มือที่เกาะ

-มุมบน ไซเรนเกาะอย่างลำบากขึ้นไม่ได้

-ตี๋ใหญ่ลังเลเดินหลุดไป

-บัญชาอยู่ดาดฟ้าแล้วกำลังลัดเลาะหาอยู่

-กว้างไซเรนตะกายตึก

-จักรวิ่งลงไป(ไปอีกตึก)

-บัญชาหันควับเหมือนได้ยินเสียงอะไร

-ใกล้มือไซเรนกำลังหลุดจากขอบตึก

กล้องตามหลังน้ำผึ้ง จ่า ไปเห็นเชนนั่งค่อม มอไซค์อยู่ ทั้งคู่สบตากันน้ำผึ้ง จ่า เดินผ่านไป เชนสตาร์ทเครื่อง น้ำผึ้งเดินมาถอดกุญแจ จ่าส่ายหน้า

น้ำผึ้ง “รอใครอยู่เหรอน้อง”

เชน “ใครน้อง เป็นใคร กุญแจอ่ะมีสิทธิไรหยิบไป จะขโมยป่ะเนี่ย”

จ่าแดง (แสดงบัตร หยิบกุญแจคืนเชน) “ขอโทษๆ พี่มาตรวจแถวนี้  น้องจอดรถรอใคร”

เชน “เออก็ถามกันดีๆ ก็ได้นิ  ดึงกุญแจทำ กร่าง อย่าลืมสิครับ ตำรวจเพื่อประชาชน”

ใกล้มุมสูงที่ไซเรนมือไซเรนหลุด  แต่ก็มีมือลึกกลับที่เข้ามาช่วยก่อนเค้าจะตกตึกไซเรนมองขึ้นไปไม่เห็นใคร แต่ด้วยน้ำหนักไซเรนทำให้ดึงเจ้าของมือลึกลับจะร่วงมาด้วย

ตี๋ใหญ่จำต้องโผล่หน้ามานิดนึง ไซเรนเห็นคลั่ง

ไซเรน (ไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า คลั่งฟูมฟาย) “มึงทำอย่างนี้ทำไม”

ตี๋ใหญ่ “ผมไม่ได้ตั้งใจ”

ไซเรน “ไม่ได้ตั้งใจอะไร มึงฆ่าทุกคน ไอ้สัตว์”

ไซเรน “มึงมางานศพทำไม มึงมันโรคจิต มึงสนุกมากใช่ไม๊ มึงช่วยกูทำไม”

ตี๋ใหญ่ “ผมไม่ได้ยิง แม่ หรือน้องคุณ ผมถูกแขวนอยู่บนเชือกเส้นเดียวกับพ่อคุณ มันจะ ฆ่าผมเหมือนกัน”

ไซเรน “ทำไมๆ กูไม่ยอมอีกแล้ว (เริ่มหายใจติดขัด) ถ้ากูต้องมีชีวิตอยู่เพราะมึง กูยอมตาย”

 

สิ้นเสียพูดไซเรนหอบ พร้อมกับปล่อยมือข้างที่เกาะผนังออก ตี๋ใหญ่ต้องเอื้อมมืออีกข้างมาจับอีกแรง ตัวตี๋ใหญ่ถลำไป ไซเรนเอื้อมเฮือกสุดท้ายมาจับแขนตี๋ใหญ หอบหายใจ แล้วดิ้นสุดแรงหวังให้ตี๋ใหญ่ตกมาด้วยกัน ไซเรนหอบใกล้หมดสติเต็มที่ เท้าตี๋ใหญ่รูดไปเกือบลอยแล้ว

ไซเรน “ตายย”

บัญชาพรวดเข้ามาพอดี

ตี๋ใหญ่ (ฟอร์ม) “ช่วยด้วยครับๆ เด็กตกตึก”

บัญชาเข้ามาช่วยจับดึง ตี๋ใหญปล่อยมือพร้อมกระชับหมวกปิดหน้า บัญชาหันมาตกใจว่าทำไมปล่อย

ไซเรน “ตี๋ใหญ่…..”

บัญชาจำต้องช่วยไซเรนก่อน เมื่อดึงขึ้นมาเสร็จตี๋ใหญ่ก็หายไปแล้วจบด้วยมุมสูง จ่าแดง น้ำผึ้ง  จักร เข้ามา  ไซเรนทุบพื้นด้วยความเจ็บแค้น

จ่าแดง น้ำผึ้ง ยืนล้อมสอบชาติอยู่น้ำผึ้งรื้อเก๊ะโต๊ะ

เฮียชาติ   “อ้าวๆ ผมก็บอกไปแล้วไง ว่ามันมาจี้ผม และนี่ดูๆเงินในลิ้นชักก็เอาไปหมด”

น้ำผึ้ง “โอเคๆ งั้นคุณก็รีบไปแจ้งความก็แล้วกัน”

เฮียชาติ   “เอ้านี่ไง คุณก็ตำรวจนี่ผมแจ้งกับคุณนี่แหละ”

จ่าแดง “ไปแจ้งที่สน.ท้องที่นะ”

จักรจะพาไซเรนกลับ บัญชารั้งไว้ขอถามอะไรนิดหน่อย จักรตอบแทนทั้งหมด จักรไม่เกรงบัญชา ไซเรนเหวอๆ กับเหตุการณ์ จักรพาเดิน บัญชาขวางไปพูดไป

บัญชา “เธอมาที่นี่ได้ยังไง”

จักร “ก็ตอบไปแล้วนี่ครับว่ามาดูพระเช่าพระไปทำบุญ”

บัญชา “แล้วเห็นตี๋ใหญ่มาทำอะไร”

จักร “คุณไซเรนไม่รู้หรอกครับว่าเป็นใคร เห็นคนโดนปล้นก็เลยช่วย”

บัญชา “บังเอิญ”

จักร “เรื่องบังเอิญในโลกนี้เยอะแยะไปครับ ที่ผู้กองมาที่นี่วันนี้ก็บังเอิญไม่ใช่เหรอครับ …ขอตัวครับ”

จักรทำความเคารพ ทั้งคู่มองยิ้มเย็นๆให้กันสต็อกช๊อตบ้านเชน เช้าวันใหม่อยากได้แบบ นกเกาะบนสายไฟ คนแก่นั่งหน้าบ้าน  อื่นๆรอบบ้านเชน ถ่ายจากด้านใน พาสเวิร์ด ใส่บาตรโดยมีเชนนั่งบอกบทจากในบ้านตี๋ใหญ่นั่งพิงประตูลูกกรงเหมอๆ 

เชน “พนมมือแล้วพูดว่านิมนต์ครับ”

พาสเวิร์ด (พนมมือ) “นิมนต์ครับ”

พระมาหยุด

เชน “เอ้ยถอดรองเท้าด้วย”

พาสเวิร์ด “เอ้ยถอดรองเท้าด้วย”

พระงงมองที่รองเท้าตัวเองเพราะพระใส่รองเท้าอยู่ เชนออกมาไหว้ขอโทษพระ

เชน “เอ้าใส่ข้าวก่อน เออ ขนม รอปิดฝาก่อนแล้วค่อยวางดอกบัว”

พาสเวิร์ด “ ปิดฝาก่อน”

พระงงปิดฝา เชนออกมาคุม พระกำลังจะให้พรพาสเวิร์ด เดินเข้าบ้านเชนจิกไว้

เชน “รับพรก่อนนน”

พระไปแล้ว พาสเวิร์ด เชนเข้ามา

ภายในห้องตรวจโรงเรียนนายร้อย เราจะเห็นไซเรนเป็นหลัก หมอใช้ที่ช่วยหายใจปอก ไซเรนอยู่ในใบหน้าที่ยากจะคาดเดา หมอเก็บเครื่องมือไปพูดไป เราจะไม่เห็นหน้าหมอเลยเน้นไปที่ไซเรน ออฟซีนสลับไซเรนเดินออกจากห้องหมอ มอนทาจในห้องนอน แปรงฟัน ออกกำลังกาย

หมอ (ออฟซีน) “เธอมีพื้นฐานในการเป็นหอบหืดอยู่แล้ว  ไอ้อาการที่เธอเป็นตอนนี้ เรียกว่าโรคหอบจากอารมณ์ Hypervintilation Syndrome เวลาเป็นก็จะ

หายใจลึกและเร็ว ส่งผลให้ร่างกายขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากเกินไป เกิดภาวะเลือดเป็นด่าง ทำให้แคลเซียมในเลือดต่ำทำให้เกิดอาการผิดปกติของร่างกายหลายๆระบบพร้อมกัน ซึ่งมักเกิดหลังจากที่มีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจ หรือความเครียดทางอารมณ์  กลัว วิตก เสียใจ หมอไม่เปลกใจที่เธอมีอาการ”

ไซเรน “ทำไงถึงหายครับ”

หมอ (ออฟซีน) “ทำใจไง เธอก็ต้องพยายามควบคุมความเครียด ทำใจให้สบาย หมอก็เข้าใจนะว่าเธอเพิ่งผ่านเหตุการณ์การสูญเสียมา แต่ถ้าเธอยังไม่สามารถควบคุมโรคได้ หมอเกรงว่าเธออาจจะไม่เหมาะกับโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อาชีพนี้ความเครียดมันเยอะ ถ้าแค่นี้เธอยังผ่านไม่ได้ อนาคตจะเป็ยยังไง และนี่”หมอยื่นถุงกระดาษเจาะรูให้

หมอ “ถ้าเป็นอีกลองตั้งสตินะ แล้วเริ่มหายใจในถุงกระดาษดู น่าจะช่วยให้ทุเลาได้ แล้วค่อยๆฝึกให้ควบคุบอารมณ์ไม่ให้เครียดให้ได้ก็จะหายได้เองไซเรนดูถุงกระดาษในมือ”

ไซเรน หลบใต้บันไดเอาถุงออกมาหายใจ

ออฟซีน “ไปหลบที่ไหนอีกวะ ไอ้ไซเรน ถ้าไมไหวก็ออกไป ชาวบ้านเค้าจะเดือดร้อน ถ้ามีนายตำรวจขี้โรคอย่างมึง”

ไซเรน พยายามตั้งสติเริ่มภาพที่คลิปสัมภาษณ์อดีตพนักงานของอัศวินที่ไปสอบมา คลิปจากมือถือแบบเป็นมุมเสยๆเห็นพนักงานคนเดียว

ออฟซีน น้ำผึ้ง “ออกจากเอสจีซิเคียวริตี้ เมื่อไหร่ และเพราะอะไร”

พนักงาน “ผมออกได้ 5 เดือนแล้วครับ ตอนนั้นมีคนพยายามปล้นรถของเรา แต่ไม่สำเร็จนะครับ ผมขับรถชนมันแล้วหนีมาได้ แต่ยังไงไม่รู้หลังจากนั้นเขาก็ให้ผมออก แต่มีเงินค่า ออกให้”

ออฟซีน จ่า “เอ้ารถเคยโดนปล้นมาแล้วเหรอ”

พนักงาน “ฮะตอนของผมก็สองครั้ง แต่ไม่เคยได้เงินนะผมหนีได้ตลอด เห็นว่าตอนหลังเค้าให้คุณจักรลงมาดูแล”

บัญชาเอื้อมมือมามาปิดคลิป

บัญชา “ถ้างั้นมันก็เพิ่งจะปล้นสำเร็จครั้งนี้”

น้ำผึ้ง “แต่สองครั้งที่ถูกปล้นไม่เห็นมีรายงานการแจ้งความ”

จ่าแดง “ก็ใครอยากให้บริษัทตัวเองเสียชื่อเล่า”

บัญชา “ในรถมีอะไรกันแน่ ปล้นซ้ำสามครั้งมันมีอะไรไม่ปกติแน่ๆ”

น้ำผึ้ง “สงสัยถูกชะตากับที่นี่มั้งคะ”

บัญชา “สงสัยถูกชะตากับเด็กไซเรนด้วยมั้ง 3 ครั้งแล้วที่มันฆ่าได้ก็ไม่ฆ่า ครั้งนี้ถ้ามันไม่จับไว้เด็กนั้นตกตึกตายไปแล้ว”

ไซเรนนอนลืมตาอยู่ในความมืด ด้วยสายตาที่ปนเปทั้งความเศร้า ความแค้น

พาสเวิร์ดหอบผ้ามานอนด้วย ปะแป้งหน้าขาวเชียว ชุดนอนติดกระดุมผิดตามเคย  มือถือแท็ปเล็ท นั่งลงตามองแทปเล็ท เชนหลับอยู่มุมหนึ่งขยับตังเล็กน้อย พี่ตี๋นั่งเหมอ ใบหน้าโดนแสงที่ลอดจากหน้าต่าง

เชน “อย่าไปกวนพี่ตี๋เค้าล่ะ ไม่งั้นกลับไปนอนข้างล่างเหมือนเดิมเลย”

พาสเวิร์ด “ไม่กวนๆ นอนเลย ….(คลุมโปง ได้แปบเดียว) ตอนนี้แม่คงได้กินแกงไก่ที่เราตักบาตรอยู่บนสวรรค์อิ่มแล้วแน่เลย”

เชน ฮึ่ม…

พาสเวิร์ด “ไม่กวนๆ นอนแล้วๆ…..แม่บอกว่าทุกอย่างเทวดาคิดไว้หมดเลย เค้าเลยส่งผมเลยได้เป็นลูกแม่ แม่พูดว่าอะไรน้า….เค้ากำหนดชะตา”

เชน “พาสเวิร์ด” (เชนลากเสียงดุ)

พาสเวิร์ด “โอเคๆ หลับตาแล้ว (พูดทั้งหลับตา)จำได้และ แม่บอกว่า เทวดาเค้ามีชะตาชีวิตให้ทุกคนเรียบร้อย อย่างผมเค้าให้เกิดมาเป็นลูกแม่ที่ติดกระดุมไม่ถูกซะที แล้วพี่ตี๋ล่ะ เทวดาเค้ากำหนดให้พี่เป็นอะไรเหรอ”

เชน “อยากนอนข้างล่างรึไง”

พาสเวิร์ดรีบเอาผ้าคลุมหัวจบที่หน้าพี่ตี๋ใหญ่ครุ่นคิดเศร้า