เตือนผู้บริโภคซื้อของออนไลน์ ระวังเว็บเถื่อน
ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายวิชัย โภชนกิจ เปิดเผยว่าจากการติดตามและตรวจสอบการค้าขายผ่านออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ปัจจุบันมีเว็บไซต์การค้าขายผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ทั้งในรูปแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมแล้วกว่า 500,000 ราย แต่กลับมีผู้มายื่นจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยืนยันตัวตนเพียงแค่ 13,584 ราย หรือ 15,363 เว็บไซต์เท่านั้น โดยถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้ค้าขายที่มีอยู่ทั้งระบบ จึงขอเตือนประชาชนที่จะซื้อขายสินค้าและบริการกับผู้ที่ไม่มีการขึ้นทะเบียน ให้เพิ่มความระมัดระวังเพราะอาจจะถูกฉ้อโกงได้เนื่องจากถือว่าเป็นผู้ค้าเถื่อน
ทั้งนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการค้าขายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นที่พัก โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน เพราะมีการหลอกลวงโดยใช้กลยุทธ์ราคาถูก ทำให้มีผู้หลงเชื่อซื้อสินค้าและบริการเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อถึงเวลาจะใช้บริการจริงกลับทำไม่ได้ และที่สำคัญไม่สามารถติดตามตัวได้เพราะไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน
อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ซึ่งยังไม่มาขึ้นทะเบียนให้มาแจ้งขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน แต่หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากยังฝ่าฝืนอีก จะมีโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 100 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง และผู้ใดไม่จดทะเบียนต่อ สคบ. จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน