กัมพูชาส่งออกหนูไปขายที่เวียดนาม
หนู เป็นเหมือนอาหารว่างของบางประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวียดนาม ส่งผลให้ขณะนี้ธุรกิจการส่งออกหนูจากกัมพูชาไปเวียดนามกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับบางคน นี่อาจจะเป็นเหมือนกับฝันร้าย เสียงร้องแหลมๆ ของบรรดาหนูจำนวนมากที่ดิ้นอยู่ในกรง แต่สำหรับบางคนมันเป็นเหมือนกับอาหารชั้นยอด
เนื้อของหนูป่า กำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเวียดนาม และที่กัมพูชาก็มีการดักหนูเพื่อส่งออกไปยังเวียดนาม
หนูป่า อาศัยอยู่ในนาข้าว และกินอาหารจำพวก สารอินทรีย์ พืชผัก ไม่เหมือนกับหนูที่อาศัยอยู่ตามบ้าน โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดักหนู คือช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หนูต้องขึ้นมาจากใต้ดินเพื่อหาอาหารสูงกว่าปกติ
คัมห์ เยง ผู้จำหน่ายหนู กล่าวว่า ตัวแทนจำหน่ายนำหนูพวกนี้ไปยังเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ผู้คนส่วนใหญ่รับประทานหนู ด้วยการนำไปใส่ในซุป ส่วนหนูตัวเล็กก็นำไปเลี้ยงงู และหนูที่ตายแล้วก็จะถลกหนังออก และนำเนื้อไปเลี้ยงจระเข้
คัมห์ เยง กล่าวว่า หนึ่งคนจะสามารถจับหนูได้ราว 10 กิโลกรัมต่อวัน และในบางวันอาจจะได้มากถึง 15 ถึง 20 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับจำนวนกับดักที่ใช้
หนูที่ยังมีชีวิตและอยู่ในสภาพดี ถูกนำไปขายได้ที่เวียดนามกิโลกรัมละ 54 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในกัมพูชาราว 2 เท่า
มอน ซาน นักจับหนู กล่าวว่า ทุกๆ วัน จะนำกรงดักหนูไปวางไว้ประมาณบ่ายสอง หรือไม่ก็บ่ายสองครึ่ง หรือหากไม่ใช่ช่วงเวลานั้น ก็จะนำไปวางไว้ราว 11 นาฬิกา โดยในแต่ละวันสามารถจับหนูได้ราว 20 กิโลกรัม ซึ่งก็นำไปขายได้ประมาณกิโลกรัมละ 31 บาท
โดยผู้จำหน่ายหนูจะใช้รถมอเตอร์ไซค์ขนหนูไปยังบริเวณชายแดนที่ติดกับเวียดนาม ซึ่งที่นั่งจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ และนำไปขายในประเทศต่อ
แต่ไม่ใช่ว่าเนื้อหนูทั้งหมดจะถูกส่งออกไปขายในเวียดนาม โดยมีชาวกัมพูชาบางคนเริ่มที่จะกินหนูแล้ว
ซอก พิช นารี่ แม่ค้าขายหนูอยู่ในตลาดกัมพูชา กล่าวว่า เธอขายหนูมานาน 3 เดือนแล้ว และมันขายดีเกือบทุกวัน โดยมีบางคนที่มาซื้อหนูจากเธอเพื่อนำไปขายต่อ แต่ก็มีหลายคนที่ซื้อไปรับประทานเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม และน้อยมากที่ชาวกัมพูชาจะซื้อไปรับประทานเอง
หนูจะถูกนำไปย่างบนเตาถ่านร้อนๆ ก่อนที่จะนำไปเสิร์ฟพร้อมกับซอส
โดยบรรดาผู้ที่ไม่คิดมากเรื่องที่หนูขึ้นชื่อในเรื่องความสกปรก กล่าวว่า มันเป็นอาหารว่างสำหรับไว้ทานคู่กับเบียร์เย็นๆ
ออค ซิน หนึ่งในผู้ที่รับประทานเนื้อหนู กล่าวว่า เนื้อหนูมีรสชาติดีมาก และมันอร่อยกว่าเนื้อกบ
ขณะที่ เตง ชูการอต เจ้าของร้านอาหารบอกว่า ครอบครัวของเธอส่งหนูเหล่านี้มาให้ และลูกค้าก็ซื้อมันต่อจากเธอ นอกจากนี้เธอยังรับประทานหนูเกือบทุกวันอีกด้วย เธอชอบมันเนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน และช่วยให้กระดูกของคนทานแข็งแรง
เธอขายหนูมาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว ลูกค้าก็ชอบที่จะรับประทานมัน แม้ว่าเนื้อหนู อาจจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน แต่ในช่วงเวลาที่เนื้อชนิดอื่นๆ อาทิ เนื้อหมู และเนื้อวัว มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาจทำให้บนโต๊ะอาหารของหลายๆ ครอบครัว มีอาหารที่ทำจากหนูเพิ่มมากขึ้น