คาดเขื่อนหลักมีปริมาณน้ำเพิ่มจากร่องมรสุม
ผู้เชี่ยวชาญด้านจัดสรรน้ำ กรมชลประทาน บอกว่าตั้งแต่วันนี้ถึงพรุ่งนี้จะมีร่องมรสุมหรือร่องฝนพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มีโอกาสรับน้ำมากขึ้น หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับแผนการจัดสรรน้ำสัปดาห์นี้ยังคงระบายเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมาคือเขื่อนภูมิพลระบายที่ 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เขื่อนสิริกิติ์ระบาย 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนและป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงการระบายที่วันละ 9 แสนลูกบาศก์เมตร
กรมชลประทานย้ำว่าการจัดสรรน้ำขณะนี้ต้องคำนึงถึงฤดูแล้งที่จะมาถึงโดยสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ต้องมีน้ำสำรองไว้ในเขื่อนหลัก 3,600 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นช่วงนี้จึงอยากให้เกษตรกรสำรองน้ำฝนไว้ด้วย โดยวันนี้ชาวนาลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลองต้องติดตามข่าวสารจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีการประกาศงดส่งน้ำทำนาปรังในวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 30 เมษายนปีหน้าเพื่อลดปัญหาการแย่งน้ำ
ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับคณะกรรมการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบโดยนำแนวทางการบริหารจัดการน้ำระดับสากลมาปรับใช้ เพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนน้ำและความเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการใช้น้ำ ด้าน นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปการจัดการทรัพยากรน้ำ สภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้คาดการณ์ว่าวิกฤติภัยแล้งปีหน้าจะรุนแรงกว่าปีนี้แน่นอน เพราะปริมาณน้ำฝนตกลงในอ่างเก็บน้ำน้อยมากและรัฐบาลก็จะประกาศงดทำนาปรังอีกเช่นเคยแต่ก็แนะรัฐบาลว่าควรหาทางออกให้แก่ชาวนาเพื่อให้มีรายได้ทดแทน ซึ่งต้องให้เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอส่งรายงานวิธีแก้ไข ให้ความรู้แก่ชาวนาเป็นรายพื้นที่เนื่องจากคุณสมบัติของดินนั้นแตกต่างกันไป