รวมคำพูดนักเลง จากภาพยนตร์ '2499 อันธพาลครองเมือง'

เมื่อพูดถึงหนังนักเลงอย่าง 2499 อันธพาลครองเมือง แน่นอนว่าต้องมีคำพูดติดปากที่มาจากภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยที่บางคำยังเป็นประโยคสุดคลาสสิคมาจนถึงปัจจุบัน เพราะนี่คือภาพยนตร์ที่โด่งดังเป็นจนประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์ไทยที่ถล่มทั้งรายได้ และคำชมจากนักวิจารณ์ในยุคนั้น จนแจ้งเกิดนักแสดงชั้นนำมากมาย อาทิ ติ๊ก – เจษฎาภรณ์ ผลดี, ต๊อก – ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ, เก่ง – ชาติชาย งามสรรพ์, โจ๊กเกอร์ – นพชัย มัททวีวงศ์, หนุ่ม อรรถพร ธีมากร รวมไปถึงผู้กำกับอย่าง นนทรีย์ นิมิบุตร ที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกก็แจ้งเกิดไปพร้อมๆกัน

หนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง เป็นหนังแอคชัน-ดราม่า ที่มีเค้าโครงมาจากนิยายเรื่อง “เส้นทางมาเฟีย” ของ สุริยัน ศักดิ์ไธสง โดยเล่าย้อนไปยังยุคก่อนพุทธศักราช 2500 ซึ่งกรุงเทพฯเป็นแหล่งที่เหล่าวัยรุ่นนักเลงมีอิทธิพลและครองเมืองอย่างไม่สนใจกฎหมาย โดยมีแดง ไบเล่ เป็นตัวเดินเรื่อง ผ่านเรื่องราวชีวิตของเขา กลุ่มเพื่อน คู่ปรับกลุ่มอื่น รวมถึงคนรักและครอบครัวของเขา แม้จะดูเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ หากแต่ทีมงานเบื้องหลังกลับเป็นทีมงานหน้าใหม่ที่เพิ่งมาจับงานหนังเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะผู้กำกับของเรื่องอย่าง นนทรีย์ นิมิบุตร ที่พอกำกับเรื่องนี้ ทำให้เขาขึ้นแท่นผู้กำกับแนวหน้าของเมืองไทย และคนเขียนบทอย่าง วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่กลายเป็นคนสร้างหนังคุณภาพอีกคนของเมืองไทย

ถ้าจะให้วิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใด หนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง ถึงได้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการภาพยนตร์ไทย ก็ต้องบอกว่า เพราะเนื้อเรื่องที่ทำให้หลายคนนึกถึงบรรยากาศเก่าๆในอดีต ผ่านความเข้มข้นของบรรดาตัวละครที่มีสีสันและเป็นเนื้อเรื่องแนวที่คนดูติดตามได้อย่างง่ายดาย ความสดใหม่ของทั้งทีมงานเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่ดูจะปลดปล่อยพลังงานบางอย่างให้แก่กันอย่างเต็มที่และเหมือนจะมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน คือ ต้องเปิดศักราชใหม่ให้แก่วงการหนังไทยที่ซบเซามาอย่างยาวนานให้ได้ ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและนอกประเทศ เมื่อไปคว้ารางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกวดภาพยนตร์อิสระที่ประเทศเบลเยี่ยม อีกด้วย