นางงามชาวสหรัฐฯ แสร้งป่วยเป็นมะเร็ง
แบรนดี้ ลี วีฟเวอร์-เกทส์ นางงามประจำรัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ วัย 23 ปี ถูกตั้งข้อหาความผิดร้ายแรงต่อกรณีที่เธอโกหกว่าตนเป็นมะเร็งและรับเงินบริจาคจากประชาชนไปแล้วหลายพันดอลลาร์สหรัฐฯ ข้อมูลจากเอกสารร้องทุกข์ระบุว่าวีฟเวอร์-เกทส์ได้บอกกับเพื่อนของเธอและครอบครัวว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลูคีเมียระยะที่ 2 เมื่อปีพ.ศ. 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าจากการที่วีฟเวอร์-เกทส์เป็นผู้มีชื่อเสียงทำให้เธอได้รับเงินบริจาคซึ่งล่าสุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเธอได้รับเงินไปจำนวน 14,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณ 476,000 บาท
โธมัส สต๊อค เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐเพนซิลเวเนียกล่าวว่ามีผู้คนจำนวนมากที่คนในครอบครัว เพื่อนหรือคนรู้จักของพวกเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งแต่ก็ไม่น่าเชื่อที่จะมีผู้หาประโยชน์ด้วยวิธีการโกหกเช่นนี้สต๊อคบอกว่ากระบวนการสืบสวนได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่มีบุคคลนิรนามให้ข้อมูลแก่ทางการ เขาบอกว่าทุกอย่างดูไม่สอดคล้องกันเมื่อผมของเกทส์ไม่ร่วงเลยนอกจากนั้นเธอยังไม่ทราบชื่อของแพทย์ที่วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคมะเร็งหรือข้อมูลอื่นๆ สต๊อคเล่าว่าเขาได้ติดต่อไปยังศูนย์การแพทย์ไกซิงเกอร์ที่เมืองพิตส์เบิร์กและมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ที่เมืองบัลติมอร์ ซึ่งเป็นสองสถานที่ที่เกทส์อ้างว่าเธอไปเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งและพบข้อมูลว่าเธอไม่เคยเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลทั้งสองแห่งสต๊อค บอกว่าเกทส์ได้ว่าแผนไว้อย่างละเอียดเธอโกนผมของเธอและแกล้งออกจากบ้านเป็นระยะเวลานาน โดยบอกกับพี่สาวของเธอว่าเธอไปเข้ารับการรักษาอาการป่วย ซึ่งสต๊อคเล่าว่าพี่สาวของเกทส์บอกว่าเธอรอเกทส์อยู่ชั้นหนึ่งขณะที่เกทส์ขึ้นไปชั้นสองโดยอ้างว่าไปรับการรักษาและหายไปเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง ก่อนที่เธอจะปรากฎตัวอีกครั้งด้วยการเดินออกมาจากลิฟต์
หลังจากที่เกทส์คว้ามงกุฎมิสเพนซิลเวเนียได้เมื่อเร็วๆนี้ เธอก็ใช้เวลาไปกับการเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆในรัฐและทำตนเป็นบุคคลสาธารณะที่เป็นแบบอย่างให้กับเด็กๆแต่ตอนนี้เกทส์ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในห้องขัง ซึ่งจะต้องใช้เงินจำนวน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5,100,000 บาทในการประกันตัวขณะที่ทางการรัฐเพนซิลเวเนียได้ขอให้ผู้ที่เสียหายจากการบริจาคเงินให้กับเกทส์ติดต่อมาเพื่อให้ข้อมูล