โอปอล – อัญมณีมีค่าของเม็กซิโก
เม็กซิโก นับเป็นผู้ผลิตโอปอล รายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากออสเตรเลีย นับตั้งแต่อดีต มีการทำเหมืองโอปอล ซึ่งสร้างรายได้ให้ชาวบ้านอย่างเป็นกอบเป็นกำ
โอปอล นับเป็นอัญมณีที่มีชื่อเสียงของเม็กซิโกมาตั้งแต่ยุคโบราณ กระทั่งปัจจุบัน
พื้นที่โดยรอบเมืองแมกดาลิน่า ในรัฐฆาลิสโก เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตอัญมณีสำคัญของเม็กซิโก ที่รวมถึง “โอปอลไฟ” ที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อัญมณีสีแดงหรือส้มนี้ เป็นหนึ่งในโอปอลที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
เหมืองโอปอลแห่งแรกของที่นี่ เปิดขึ้นในช่วงยุค 1950 หรือกว่า 1 ศตวรรษ หลังการกำเนิดของเหมืองโอปอลแห่งแรกในรัฐเกอเรตาโร่ ปัจจุบัน มีเหมืองอัญมณีเกิดขึ้นรอบเมืองแห่งนี้กว่า 60 แห่ง โดยแต่ละเหมือง จะต้องขอสัมปทานจากรัฐเพื่อดำเนินกิจการ
ลูเซียโน่ ทามาโย่ และครอบครัว ดำเนินกิจการเหมืองโอปอลมานานกว่า 40 ปี และเปิดร้านจำหน่ายโอปอลในย่านใจกลางเมือง
คุณสมบัติทางเคมีของโอปอล จะมีสูตรเคมีที่คล้ายแร่ควอตซ์ แต่มีโมเลกุลของน้ำปนอยู่ด้วย ทำให้มันค่อนข้างเปราะบาง และผู้ที่เจียระไน จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
ราคาของมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาด รูปทรง สี และสิ่งที่เรียกกันว่า การเล่นสี ซึ่งเกิดจากอนุภาคของซิลิคอนไดออกไซด์ ที่ทำให้เกิดการเลี้ยวเบนของแสง
โอปอลจากเม็กซิโก มีราคาเริ่มต้นต่อกะรัตที่ราว 204 บาท ไปจนถึง 6,300 บาท แม้ในเม็กซิโก จะมีความต้องการไม่มากนัก แต่โอปอลกลับได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น จีน รัสเซีย และยุโรป
ทามาโย่บอกว่า เม็กซิโกเป็นผู้ผลิตโอปอลอันดับ 2 ของโลกรองจากออสเตรเลีย ซึ่งที่นั่นมีการค้นพบโอปอลสีดำ ที่ว่ากันว่ามีราคาแพงที่สุดในโลก แต่ในเม็กซิโกมีโอปอลไฟ ซึ่งมีมูลค่าสูงเช่นกัน
เนื่องจากโอปอลมักพบโดยทั่วไปบริเวณใกล้ผิวดิน ในพื้นที่ที่เคยเป็นภูเขาไฟ ทำให้สามารถใช้เครื่องมือขนาดเล็ก หรือกระทั่งมือเปล่าเพื่อค้นหาได้ ในอดีต คนงานเหมืองจะเลือกแต่โอปอลที่ดีที่สุด และทิ้งโอปอลที่มีคุณภาพต่ำ แต่ปัจจุบัน ผู้ซื้อต้องการโอปอลทุกเกรด
ครอบครัวจิเมเนซ ขุดหาโอปอลมานานหลายสิบปี และพบโอปอลที่มีมูลค่ารวมกว่า 2 แสน 1 หมื่นบาท วาเนสซ่า มากาน่า ผู้เป็นภรรยาบอกว่า เคล็ดลับในการค้นหาโอปอล ก็คือโชคและความมีศรัทธา ทุกครั้งที่ขุดหา เธอจะภาวนาต่อพระเจ้า เพื่อขอให้พระองค์มอบสิ่งที่ดีสำหรับครอบครัวของเธอ
ทุกๆวัน นับตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น ครอบครัวจิเมเนซจะต้องถือถังดิน เพื่อนำไปล้างยังบ่อน้ำใกล้ๆ เมื่อล้างดินออกหมดแล้ว พวกเขาก็จะค่อยๆเลือกหา ว่ามีโอปอลอยู่ในนั่นหรือไม่ และนำสิ่งที่พบไปขายต่อให้กับพ่อค้าในเมือง
ผู้ที่ขุดหาอัญมณีเหล่านี้ จะได้รับอนุญาตจากผู้ขอสัมปทานทำเหมือง เพื่อขุดหาหินมีค่า เช่นเดียวกับ ฮิโปลิโต้ โรฆาส ซึ่งทำงานนี้มากว่า 25 ปี จนสามารถเลี้ยงครอบครัวได้
กว่าร้อยละ 95 ของโอปอลทั่วโลก มาจากออสเตรเลีย กระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ เม็กซิโก จึงได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตโอปอลอันดับสอง ขณะที่ผู้ค้าและผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่า คู่แข่งที่น่ากลัวคือเอธิโอเปีย แต่ถึงกระนั้น ชาวเมืองแมกดาลิน่า ก็ยังคงมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากโอปอล ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
โฆเซ่ ราฟาเอล แอสเซนซิโอ เซเซน่า นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น กล่าวว่า พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้ว่า โอปอลจะนำมาซึ่งโชคร้าย แต่ไม่ใช่สำหรับที่นี่ เพราะนับตั้งแต่มีการค้นพบโอปอล ก็เปลี่ยนเมืองเล็กๆแห่งนี้ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และยังทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นด้วย