“Disney / Pixar” ประกาศแอนิเมชั่นชุดใหญ่!
ผ่านพ้นไปแล้วกับงาน D23 Expo 2015 ที่เป็นงาน Fan Event ครั้งใหญ่ของค่ายยักษ์ Walt Disney Studio ที่ใช้งานนี้เป็นโอกาสอันดีในการประกาศยืนยันหลายๆโปรเจคตั้งแต่ความคืบหน้าของแฟรนไชส์ Star Wars และอาจปล่อยคลิปแรกของ Captain America: Civil War ที่แฟนๆรอคอย แต่ที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้เป็นโปรเจคแอนิเมชั่นชุดใหญ่ทั้งจากของ Disney Animation และ Pixar Studio ที่จะเรียงรายมาให้ชมในอีก 2-3ปี ข้างหน้าเริ่มด้วยโปรเจคแรกที่จะหยิบนิทานเล่าขานยอดฮิต Jack and the Beanstalk (หรือแจ็คผู้ฆ่ายักษ์) มาเล่าใหม่ในแบบมิวสิกเคิลสไตล์ถนัดของดิสนีย์ โดยโปรเจคมีชื่อว่า Gigantic ที่ได้ผู้กำกับ Nathan Greno จาก Tangled มาคุมโปรเจคนี้และยังได้สองสามีภรรยาผู้คว้าออสการ์จาก Frozen มาร่วมเขียนเพลงให้กับโปรเจคด้วยแต่สำหรับแฟนนิทานอย่างเพิ่งคาดหวังเรื่องราวเดิมที่แจ็คช่วยเจ้าหญิงจากยักษ์ตัวร้ายเชียวเพราะงานนี้พวกเขาได้ปรับให้เป็นเรื่องราวมิตรภาพระหว่างแจ็คฉบับวัยรุ่นกับสาวจากเมืองยักษ์ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันเพื่อแก้ไขสายสัมพันธ์ระหว่างยักษ์กับมนุษย์นั่นเองสำหรับโปรเจค Gigantic นี้ก็วางกำหนดฉายไว้ราวๆปี 2018
แอนิเมชั่นเรื่อง Coco ก็วางกำหนดฉายไว้คราวๆในช่วงท้ายปี 2017
อีกหนึ่งโปรเจคถัดมาคือ Coco ที่ทีมงานได้หยิบเอาเทศกาล Day of the Dead ของเม็กซิโกมาเป็นธีมหลักและโปรเจค Coco นี้ก็เกิดขึ้นจากแนวคิดง่ายๆของ Lee Unkrich ผู้กำกับจาก Toy Story 3 ที่ตั้งคำถามว่า “จะเป็นอย่างไร ถ้าคุณสามารถพบสมาชิกครอบครัวที่เสียชีวิตไปนานนับปีได้?” ซึ่งคำตอบของคำถามนั้นคือโปรเจคที่เต็มไปด้วยความสนุก สวยงาม และอัดแน่นไปด้วยอารมณ์เรื่องนี้นั่นเอง สำหรับแอนิเมชั่นเรื่อง Coco ก็วางกำหนดฉายไว้คราวๆในช่วงท้ายปี 2017
Toy Story 4 กำหนดฉายไว้ในช่วงปี 2017
ในปี 2017 ยังมีอีกโปรเจคที่เชื่อว่าแฟนพิกซาร์ทั่วโลกต้องรอคอยอย่างแน่นอนนั่นคือ Toy Story 4 ที่งานนี้จะโฟกัสเฉพาะเรื่องของตัวละครหลัก Woody และแฟนสาว Little Bo Peep ที่มีบทบาทมาตลอดตั้งแต่ภาคแรกของแฟรนไชส์แต่กลับหายตัวไปในภาค3 และงานนี้ทีมงานก็ได้เซ็ตเรื่องให้ Woody กับเพื่อนซี้ Buzz Lightyear ต้องออกผจญภัยเพื่อตามหา Bo Peep นั่นเอง สำหรับภาคนี้ก็ได้ John Lasseter ผู้กำกับจากสองภาคแรกกลับมารับตำแหน่งเดิมอีกด้วย
Moana เข้าธรรมเนียบ “เจ้าหญิงดิสนีย์” คนต่อไป
โปรเจคถัดมานี้เป็นของ Disney Animation ที่คาดว่าก็จะส่งตัวละครให้เข้าธรรมเนียบ “เจ้าหญิงดิสนีย์” ไปอีกรายและโปรเจคที่ว่านี่ก็คือ Moana ที่จะเป็นงานกำกับของ John Musker กับ Ron Clements จากงานคลาสสิกของค่ายอย่าง The Little Mermaid และ Aladdin โดยหนังจะเล่าถึงการผจญภัยกว่า 2000 ปีก่อนของลูกสาวหัวหน้าเผ่านามว่า Moana ที่ท้าทายพ่อของเธอด้วยการออกทะเลไปเพียงลำพังเพื่อหาคำตอบว่าทำไมคนในเผ่าของเธอถึงหยุดท่องทะเลระหว่างทางเธอก็ได้พบกับ Maui ลูกครึ่งเทพที่ให้เสียงพากษ์โดย Dwayne ‘The Rock’ Johnson ที่งานนี้ผู้สร้างเผื่อว่าถอดแบบบุคลิกของ The Rock ไปแบบเต็มๆเลยด้วย สำหรับโปรเจค Moana ก็วางกำหนดฉายไว้ที่อเมริกาในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2016
Finding Dory กำหนดฉายในช่วงกลางเดือนมิถุนายนปี 2016
ปิดท้ายกันด้วยโปรเจคที่มีการเปิดเผยข้อมูลมากที่สุดในบรรดาแอนิเมชั่นทั้งหมดของวันนี้นั่นคือโปรเจคภาคต่อของ Finding Nemo อย่าง Finding Dory ถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจคที่แฟนทั่วโลกต่างรอคอยพอๆกับ Toy Story ซึ่งในงานก็ประกาศทีมพากษ์เสียงที่ได้ Ellen DeGeneres กลับมาพากษ์เป็นปลา Dory และ Albert Brooks ที่พากษ์เป็น Marlin(พ่อของNemo) หนังยังยกขบวนดาราอารมณ์ดีช่างพูดรุ่นใหญ่ของวงการมาอีกเพียบสำหรับบทบาทอื่นๆเมื่อพูดถึงตัวหนัง Andrew Stanton ที่เคยฝากงานกำกับไว้กับภาคแรกก็ได้กล่าวว่า “อย่างที่ทุกคนรู้ว่า Dory หลงทางมาก่อนจะได้พบกับครอบครัวNemo ดังนั้นเรื่องราวในภาคต่อนี้จึงจะเป็นการพา Dory กลับบ้าน แต่คราวนี้เธอจะปลอดภัย เธอจะกลับบ้านได้ ที่สำคัญคือมีครอบครัวปลาการ์ตูนคอยช่วยเธอไปตลอดรอดฝั่ง” และภายในงานยังมีการฉายฟุตเทจแรกของ Finding Dory ให้แฟนๆได้ชมด้วยสำหรับการผจญภัยของปลาน้อยพวกนี้ทีมงานก็วางกำหนดฉายไว้แล้วในช่วงกลางเดือนมิถุนายนปี 2016