เที่ยวภูเขาไฟในวานูอาตู
ภูเขาไฟยาซูร์ในประเทศวานูอาตู ยังคงมีนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย เดินทางมาชมอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปะทุอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 2,000 ปี
ภูเขาไฟยาซูร์ บนหมู่เกาะวานูอาตู กลางมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังปะทุขึ้นอีกครั้ง และด้วยความสูงเพียง 361 เมตร ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของที่นี่
เคลสัน ฮอซี เจ้าของบังกาโล “จังเกิล โอเอซิส” เล่าถึงตำนานของที่นี่ว่า ในวันหนึ่ง ชายที่ชื่อยาซูร์กลับมาถึงบ้าน และพบว่าภรรยา 2 คน และลูกทั้ง 4 ยังคงอยู่ที่ชายหาด เมื่อเขาโกรธ จึงกลายร่างเป็นหมู เมื่อทั้งหมดมาถึงบ้าน และเจอกับหมู ด้วยความโกรธ จึงใช้ไม้ตีหมู โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพ่อ หมูตัวนั้นจึงระเบิด และปล่องทั้ง 4 ของภูเขาไฟ ก็คือลูกๆทั้ง 4 คนนั่นเอง
การเดินทางไปที่นั่น ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะแทนน่า อาจไม่ได้สบายนัก เนื่องจากไม่มีถนนราดยาง และคนที่นั่นยังคงใช้ชีวิตเช่นเดียวกับเมื่อหลายร้อยปีก่อน การเข้าเขตพื้นที่ภูเขาไฟ นักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าธรรมเนียมคนละ 1 พันบาท และใช้เวลาเดินทางจากฐานไปถึงปากปล่องภูเขาไฟประมาณ 90 นาที
นอกจากนั้น ยังมีถนนเส้นเล็กๆที่นำไปถึงบริเวณปากปล่อง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะใช้เวลาในการเดินประมาณ 15 นาที และบริเวณใกล้ปากปล่อง ก็จะเป็นที่ตั้งของตู้ไปรษณีย์ “Volcano Post” ที่นักท่องเที่ยวสามารถส่งโปสการ์ดได้
โยรัม ทีตเลอร์ นักธรณีวิทยา กล่าวว่า ยาซูร์ เป็นภูเขาไฟที่มีการปะทุมานานกว่า 2 พันปี และนักท่องเที่ยวสามารถยืนบริเวณปากปล่องภูเขาไฟได้ หากไม่มีการระเบิด ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยเฉพาะหลายอย่าง เช่น ความหนืดของลาวา และปริมาณก๊าซในแมกม่า
นายบาลด์วิน ลอนสเดล ประธานาธิบดีของวานูอาตู กล่าวว่า ภูเขาไฟแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง และยังเป็นแหล่งรายได้ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ด้วย แต่การเดินทางไปที่นั่นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากภูเขาไฟอาจระเบิดได้ทุกเมื่อ
ทีตเลอร์ กล่าวว่า การยืนชมภูเขาไฟที่ถูกต้องคือการยืนบริเวณเหนือลม เพื่อป้องกันการสูดดมก๊าซซัลเฟอร์จากภูเขาไฟ และหากลาวาปะทุขึ้นเหนือปากปล่องเมื่อใด เขาแนะนำให้นักท่องเที่ยวยืนสังเกตว่าลาวาจะไปตกที่ใด แทนที่จะวิ่งหนีโดยไม่ดูทิศทาง