ร้านค้ารอบโรงงานซัมซุงฯโคราชซบเซา
เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระบุว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจเป็นสาเหตุทำให้หลายบริษัทในพื้นที่ต้องปลดพนักงานและลูกจ้างรวมทั้งย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของภาคอีสานหลังจากที่ บริษัท ซัมซุง อิเล็คโทร-แม็คคานิคส์ จำกัดได้เลิกจ้างพนักงานไปแล้วประมาณ 1 พัน 800 คน ทำให้ธุรกิจหอพักและร้านอาหารในพื้นที่เริ่มซบเซาบรรยากาศในบริเวณหอพักร้านค้าและร้านอาหารบริเวณหน้าบริษัทซัมซุงอิเล็คโทร-แมคคานิคส์ นครราชสีมา จำกัด ในเขตอุตสาหกรรมสุรนารีจังหวัดนครราชสีมาเริ่มซบเซาหลังมีการเลิกจ้างพนักงานกว่า 1 พัน 4 ร้อยคนซึ่งเริ่มทยอยเดินทางกลับบ้านเกิดในหลายจังหวัดภาคอีสานตั้งแต่เมื่อวานนี้
พนักงานโรงงานที่ถูกเลิกจ้างได้ขอเลิกเช่าห้องและเก็บข้าวของออกจากหอพัก
เจ้าของหอพักคนหนึ่ง ระบุว่าพนักงานโรงงานที่ถูกเลิกจ้างได้ขอเลิกเช่าห้องและเก็บข้าวของออกจากหอพักไปแล้วจำนวน 7 ห้องจากทั้งหมด 25 ห้องและยังคงทยอยออกไปอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ทำให้สูญเสียรายได้จำนวนมากซึ่งไม่ต่างจากร้านอาหารอีสานที่แทบไม่มีคนเข้าร้านเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้พนักงานที่เหลืออยู่ก็พยายามประหยัดค่าใช่จ่าย นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยข้อมูลผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำการส่งออกลดลงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททำให้หลายบริษัทต้องทยอยเลิกจ้างพนักงานและย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ปีที่แล้ว
สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
โดยในกรณีล่าสุดคือการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากของบริษัทซัมซุงฯ นครราชสีมา ทำให้ภาคแรงงานต้องเตรียมรับกับภาวะการว่างงานที่เพิ่มขึ้นหลังจากนี้เป็นต้นไป สำหรับบริษัทซัมซุงอิเล็คโทร-แม็คคานิคส์ นครราชสีมา จำกัด ตั้งอยู่ภายในเขตอุตสาหกรรมสุรนารี เลขที่ 555 หมู่ 6 ตำบลหนองระเวียง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตมอเตอร์ฮาร์ดดิสก์ คอมพิวเตอร์ เพื่อป้อนส่งโรงงานต่างๆทั้งในและต่างประเทศแต่ช่วงปีที่ผ่านมายอดการสั่งผลิตมีจำนวนลดลงเกือบหมดเนื่องจากตลาดโลกมีความต้องการฮาร์ดแวร์ด้านสมาร์โฟนมากกว่าตลาดพีซีขณะที่พนักงานส่วนใหญ่ทราบทิศทางและรับรู้การเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องจากการลดกำลังการผลิตการลดจำนวนพนักงานโดยพนักงานที่อยู่มานานบางรายได้รับเงินชดเชยมากกว่า 1 แสนบาทก็มีบางคนรีบใช้หนี้และเตรียมนำส่วนที่เหลือไปลงทุนประกอบอาชีพต่อไป