รัฐบาลไล่บี้เก็บภาษี รร.กวดวิชา
พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีพระราชกฤษฎีกาเรียกเก็บภาษีเงินได้โรงเรียนกวดวิชาซึ่งมีผลแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าเนื่องจากโรงเรียนกวดวิชาเป็นกิจการเพื่อการค้าและแสวงหากำไรเช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ดังนั้นเพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีโรงเรียนกวดวิชาจึงควรเสียภาษีอย่างถูกต้องและเสมอภาคกันกับธุรกิจที่แสวงหากำไรอื่นๆหลังจากได้รับการยกเว้นมานาน จึงอยากขอความร่วมมือผู้ประกอบโรงเรียนกวดวิชาทุกแห่งปฏิบัติตามกฎหมายและไม่ควรผลักภาระให้แก่เด็กนักเรียนและหากมีกรณีที่เด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถปรึกษาสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อขอคำแนะนำตามที่เหมาะสมได้
พระราชกฤษฎีกาเรียกเก็บภาษีเงินได้โรงเรียนกวดวิชามีผลบังคับแล้ว
กระทรวงศึกษาธิการคาดการณ์ว่ามูลค่าการตลาดโรงเรียนกวดวิชาในปี 2558 จะสูงถึง 8 พัน 189 ล้านบาท และมีโรงเรียนกวดวิชาราว 2,000-3,000 แห่งทั่วประเทศที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากปัจจุบันที่ไม่ต้องเสียภาษีเลยคาดว่าการเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาจะทำให้มีรายได้เข้ารัฐประมาณ 1พัน 200 ล้านบาท
โรงเรียนกวดวิชาจะไม่ขึ้นค่าเรียนนาน 1 ปี
ส่วนความเคลื่อนของโรงเรียนกวดวิชานั้นนายกสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชาระบุว่าทางโรงเรียนกวดวิชาก็พร้อมให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนโดยจะไม่ขึ้นค่าเรียนนาน 1 ปีอย่างไรก็ตามบรรดาโรงเรียนกวดวิชาเริ่มมีการขอจดทะเบียนเพื่อจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเพื่อลดภาระการเสียภาษีแล้ว