ครั้งหนึ่งหนังเพลงเคยมียุคทองของตนเอง โดยเฉพาะในช่วงคริสตศักราชที่ 30 – 50 ก่อนที่มันจะหายไปจากความนิยมของผู้ชมรุ่นต่อมา กระทั่ง Moulin Rouge! (มูแลง รูจ) ของ Baz Luhrmann (บาซ เลอห์แมน) ได้ปลุกวิญญาณของหนังเพลงให้กลับมาอีกครั้ง ด้วยการนำเพลงป๊อปร่วมสมัยมาปรับใหม่ ซึ่งมันก็สามารถเชื่อมคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ไว้ด้วยกันจนตัวหนังได้รับคำชม แถมถูกเสนอชื่อเข้ารางวัลมากมาย และนี่เองที่ทำให้เราอยากมาเสนอ 5 เพลงฮิตจากหนังเรื่องนี้ให้ผู้ชมได้รู้จัก
เพลงแรกของเหล่านักร้องสาวผิวสีกับ Lady Marmalade
เพลงนี้เป็นของ Labelle วงนักร้องสาวผิวสีที่โด่งดังในยุค 70 โดยต้นฉบับนั้นตัวเพลงสามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้ในหลายๆชาร์ตเพลง รวมไปถึง Billboard Hot 100 ด้วย เพลงต้นฉบับเป็นแนวโซลผสมดิสโก้ที่พูดถึงสาวหน้าผับชื่อ Lady Marmalade ที่กำลังจีบลูกค้าชื่อ Joe เพื่อเรียกเข้าร้าน ซึ่งในหนังนั้นถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเพลงป๊อปที่เหล่านักร้องสาวในไนท์คลับ Moulin Rouge ใช้ร้องต้อนรับแขกทุกคน ที่ทั้งฟังสนุกและเข้าหูคนยุคนี้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น 5 นักร้องดังอย่าง Christina Aguilera, Lil’ Kim, Mya, Pink, Missy Elliott ยังมาร่วมร้องโคฟเวอร์เพลงขึ้นมาใหม่จนพาให้มันติดอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 100 ได้อีกครั้งในปี 2001
ต่อกันกับอีกผลงานของเจ้าแม่เพลงป๊อป Madonna อย่าง Like a Virgin
ซึ่งเพลงถูกปล่อยออกมาในปี 1984 และนับเป็นซิงเกิ้ลแรกของเธอที่ขึ้นไปติดอันดับหนึ่งบนชาร์ต Billboard Hot 100 แถมยังคงตำแหน่งไว้ได้นานถึงหกสัปดาห์เลยทีเดียว โดยเพลงนำคำว่า virgin มาสื่อถึงการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่ดีจนทำให้เราลืมว่าเคยเจอเรื่องแย่ๆมา แต่ในหนังดัดแปลงให้เป็นเพลงร้องคู่ ระหว่างเจ้าของคลับ Moulin Rouge อย่าง Zidler และ ท่านดยุกที่คอยสนับสนุนคลับแห่งนี้ ทั้งยังเปลี่ยนเนื้อเพลง จากต้นฉบับที่ใช้สรรพนาม “I” มาใช้ “she” เพื่อสื่อถึงบุคคลที่สามอย่าง Satine นางเอกของเรื่อง โดยเพลงถูกนำมาใช้ในสถานการณ์ที่ Zidler พยายามโน้มน้าวท่านดยุกให้เชื่อว่า Satine มีใจให้
มาทางฝั่งตัวพ่อกันบ้างกับเพลงของ Elton John อย่าง Your Song
Your Song เป็นซิงเกิ้ลในปี 70 จากอัลบั้มที่ชื่อ Elton John ที่เนื้อเพลงพูดถึงความรักแสนโรแมนติกในความคิดของคนๆนึง โดยมันได้รับคำชมอย่างมหาศาลจากเหล่านักวิจารณ์เพลง ติดท็อปเทนในชาร์ตเพลงหลายๆประเทศ แถมเป็นเพลงประจำที่จอห์นนำไปร้องในทุกๆงานแสดง และนี่เองที่ทำให้มันกลายเป็นเพลงสุดคลาสสิกที่ต้องเคยผ่านหูทุกคนมาบ้างซักครั้งนึง ส่วนใน Moulin Rouge เพลงนี้ขับร้องโดย Ewan McGregor ที่รับบทพระเอกหนุ่ม Christian ในฉากที่เขาโชว์ความสามารถการเขียนเพลงให้ซาทีนได้เห็น ซึ่งตอนนั้นเขาเองก็เริ่มหลงเสน่ห์นางเอกแล้วเหมือนกัน โดยเพลงถูกเปลี่ยนจากแนวป๊อปเป็นเพลงบัลลาดสุดโรแมนติก ทั้งยังผสมคอรัสเข้ามาเพิ่มความยิ่งใหญ่ให้เพลงอีกด้วย
ต่อกันที่เพลงแจ๊สประกอบละครเวทีอย่าง Diamonds Are a Girl’s Best Friend
นี่คือเพลงในปี 1949 ที่เริ่มแรกร้องโดยนักแสดงสาว Carol Channing ในละครบรอดเวย์เรื่อง Gentlemen Prefer Blondes แต่มันกลายมาเป็นเพลงฮิตตอนที่ละครเรื่องนี้ถูกนำมาทำเป็นหนังมิวสิเคิลในปี 1953 ที่ได้ไอค่อนสาวในสมัยนั้นอย่าง Marilyn Monroe มาเป็นผู้ขับร้อง ซึ่งเนื้อหาเพลงก็ตรงตามชื่อ ที่พูดถึงเหล่าเครื่องประดับเพชรพลอยเป็นสิ่งที่สาวๆต้องการเพราะไม่ว่าจะนานแค่ไหนของเหล่านี้ก็จะคงรูปเดิมและไม่ทรยศพวกเธอ พอมาใน Moulin Rouge เพลงนี้ก็ร้องโดยนางเอก Nicole Kidman ผู้รับบท Satine ในฉากการแสดงต้อนรับแขกเข้ามาในไนท์คลับ โดยเพลงยังคงสไตล์แจ๊สไว้ แต่มีการปรับให้เป็นมิวสิเคิลมากขึ้นด้วยการใส่ท่อนคอรัสเข้าไป ให้สาวๆนักแสดงในคลับคนอื่นๆร้องคลอกับซาทีนไปด้วยในบางท่อน
สุดท้ายกับเพลงของตำนานวงร็อค Queen อย่าง The Show Must Go On
โดยเพลงนี้ถูกทำขึ้นมาตอนที่สภาพร่างกายของนักร้องนำ Freddie Mercury เริ่มไม่ค่อยสู้ดีจากเชื้อ HIV ดังนั้น เนื้อหาของเพลงก็พูดถึงตัวเฟรดดี้ที่พยายามสู้และร้องเพลงนี้จนจบ ซึ่งเพลงถูกปล่อยออกมาในปี 1991 ที่หลังจากนั้น 6 สัปดาห์ Mercury ก็ได้จากแฟนๆไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยในหนังนำเพลงนี้มาใช้ตอนที่ Satine ยอมตัดความสัมพันธ์กับ Christian แม้ว่าเธอจะรักเขามากๆ และเลือกจะไปหาท่านดยุกเพื่อรักษาหน้ากิจการของ Moulin Rouge ให้อยู่ต่อไป ซึ่งเพลงก็เปลี่ยนจากสไตล์ร็อคมาเป็นแนวออเคสตร้า โดยคนร้องหลักคือเจ้าของคลับ Zidler และมี Satine มาช่วยร้องเสริม
ติดตามชม “Moulin Rouge มูแลง รูจ” ได้ ในวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคมนี้ เวลา 22.30 น. ทางช่อง MONO29
ขอขอบคุณข้อมูลจากรายการ Entertainment Now ทางช่อง MONO29 มา ณ โอกาสนี้