Edge of Tomorrow สร้างขึ้นจาก มังงะญี่ปุ่น เรื่อง All You Need is Kill และเรื่องนี้ก็มีชื่อเต็มๆภายหลังว่า Live Die Repeat: Edge of Tomorrow (เป็น ตาย ย้อนใหม่) สำหรับการตลาดออกแผ่นดีวีดีแบบบลูเรย์ ซึ่งก็บ่งบอกถึงเนื้อหาหลักตรงๆแสกหน้าเลยว่าหนังเรื่องนี้มีการย้อนเวลานะ
แต่ที่จะชวนคุยก็คือ เหตุการณ์ที่เรียกว่า Deja Vu (ภาษาฝรั่งเศษ แปลว่า เคยเห็นมาแล้ว) หรือภาพเหตุการณ์ ความฝัน หรือความรู้สึกที่เราเหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นมาก่อน
เคยหรือไม่ ที่บางครั้ง เรารู้สึกเหมือนกับเราเคยนั่งโต๊ะนี้ กินอาหารแบบนี้ และคุยกับเพื่อนคนนี้ด้วยประโยคนี้ ทั้งๆที่เราเชื่อว่า เราเพิ่งเคยทำสิ่งนี้ครั้งแรกด้วยซ้ำ?
คนส่วนใหญ่ มีประสบการณ์ Deja Vu
ส่วนใหญ่น่าจะตอบว่าเคย เพราะจากผลสำรวจพบว่า 2 ใน 3 ของประชากรทั้งโลกเคยประสบ Deja Vu มาแล้ว
ซึ่งบ้างก็อธิบายว่ามันคือ นิมิต หรือลางสังหรณ์ มาบอกเหตุหรือมาเตือน บ้างก็บอกว่า มันคือชีวิตชาติปางก่อน หรือ บ้างก็บอกว่า มันคือ ชีวิตคู่ขนาน (ที่จะเขียนถึงในข้อต่อไป) ของเราที่ได้ตัดสินใจอะไรคล้ายๆกันไปก่อนหน้า
สิ่งที่จะอธิบายต่อไปนี้ มันก็จะหลอนๆหน่อย
- Deja Vu เชิงวิทยาศาสตร์
หลายคนเชื่อว่า Deja Vu คือเรื่องราวของเส้นชีวิตของเราในจักรวาลคู่ขนาน หรือทฤษฎีเกี่ยวกับมิติที่อยู่เหนือกาลเวลา มิติที่ 5 คือ ชีวิตเส้นขนาน นั่นคือในขณะที่เราใช้ชีวิตอยู่นี้ ยังมีเราอีกหลายคนที่ใช้ชีวิตบนทางเลือกที่แตกต่างกันออกไป ดุจเป็นชีวิตคู่ขนานกันนั่นเอง และบางสิ่งที่เราคุ้นๆว่าเคยทำไป เพราะมันอาจจะได้ทำ (ไปก่อน) ในจักรวาลคู่ขนานของเราไงล่ะ
เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เพ้อกันเล่นๆ เพราะด็อกเตอร์ คาคุ นักฟิสิกส์ควอนตัม เชื่อว่า Deja Vu นั้นคือ การสลับสับเปลี่ยนชีวิต ระหว่างจักรวาลคู่ขนานของคนๆหนึ่ง และเกิดอาการภาพการใช้ชีวิตบางสิ่งบางอย่างยังทับซ้อนกันอยู่
- Deja Vu เชิงพฤติกรรม
นักวิทยาศาสตร์อีกส่วนนึง ได้ทำการทดลอง และพบว่า บุคคลที่อยู่ในบรรยากาศเดิม ทำงานเดิมๆ เดินทางผ่านเส้นทางเดิมๆ มีโอกาสเกิด Deja Vu มากกว่าคนอื่นๆเพราะ เขาจะเห็นสิ่งเดิมๆและสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ว่าเป็นสิ่งเดียวกัน
- Deja Vu กับพลังจิต
บางคนเชื่อว่า พลังจิตที่แข็งกล้า หรือการนั่งสมาธิเพ่งกสิณ (จดจ่อ) ทำให้เกิดญานทิพย์ที่ จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต หรือลางบอกเหตุบางอย่างได้
- Deja Vu และมนุษย์ที่ไม่มีตัวตนอยู่ (เฮ้ย!!)
ทฤษฎีนี้ ก็คือ หนังเรื่อง Matrix น่ะครับ คือ โลกที่เราอยู่ที่เราเห็นมันคือ ความคิดหรือภาพลวงตา ที่ใครบางคน (ในหนัง Matrix ก็คือ เครื่องจักรกล / บางทฤษฎีเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาว) ชักใยกำหนดให้สมองของเราคิด และตาเราเห็นเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ ทั้งๆที่ร่างกายเราอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่อาจจะอยู่ในห้องแล็บทดลองซักแห่งนึง และ Deja Vu ก็เกิดจากการทดลองซ้ำๆกับสมองเราไปแล้วก่อนหน้านี้
ไม่ว่าจะ Deja Vu ด้วยสาเหตุไหน เราก็ขอใช้ชีวิตให้มีความสุข ดูหนังเพลินๆกับ Mono29 กันดีกว่าใน “Edge Of Tomorrow ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร” วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ เวลา 08.30 น.
หนังที่เกี่ยวข้อง
สำหรับหนังที่ มีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับ เวลาย้อนหมุนกลับ จักรวาล อะไรต่างๆคล้ายๆ Edge of Tomorrow ที่คุณควรได้ดูมีดังนี้นะครับ
- Matrix แหงล่ะ ความหลอนที่มนุษย์นอนฝันอยู่ใน Matrix ตลอดกาล
- Minority Report ทอม ครูซ รูปหล่อคนเดิม กับการตามล่าอาชญากรรมในอนาคต แต่มีอาชญากรเปลี่ยนอนาคตได้
- Interstellar การท่องจักรวาลไปหาดาวเคราะห์ดวงใหม่เพื่อมนุษยชาติ กับทฤษฎีฟิสิกส์ มิติเวลาและแรงโน้มถ่วง
- Inception อาจจะไม่ใช่เรื่องของเวลา และเป็นมิติความฝันซ้อนความฝันแทน
สำหรับคนที่ชอบมังงะสยองขวัญแนะนำเรื่อง Higurashi (แว่วเสียงเรไร ยามเมื่อจักจั่นกรีดร้อง) เป็นเรื่องราวทับซ้อนห้วงมิติของเหตุการณ์ฆาตกรรมที่ตัวเอกของเรา พยายามนึกถึงหนทางที่จะไขปมปริศนาให้ได้
อ้างอิงเนื้อหา
http://www.messagetoeagle.com/can-parallel-universes-explain-the-deja-vu-phenomenon/
http://listverse.com/2016/06/19/10-fascinating-theories-to-explain-deja-vu/
https://ultraculture.org/blog/2014/12/16/heres-visual-guide-10-dimensions-reality/