呪怨 เป็นตัวอักษรคันจิ ภาษาญี่ปุ่น ตัวแรกอ่านว่า จู แปลว่า สาปแช่ง ตัวที่สองอ่านว่า ออน แปลว่าแรงอาฆาต นั่นคือที่มาของชื่อภาพยนตร์สยองขวัญอย่าง Juon ผีดุ (1998) โดย ทาเคชิ ชิมิสึ สร้างเป็นหนังสั้นในรายการผี ก่อนที่ความนิยมจะทำให้เขาขยายออกมาเป็นหนังวิดีโอ จนในที่สุด เขาก็ทำมันเป็นหนังโรง ความสำเร็จของมันทำให้ปัจจุบัน Juon มีทั้งภาคต่อ ภาคขยาย ภาครีเมครวมทั้งสิ้น 12 ภาคแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการสร้างออกมาเป็นนิยาย หนังสือการ์ตูน และวิดีโอเกมอีกด้วย
สำหรับ Juon: The Beginning of the End จูออน ผีดุ กำเนิดมรณะ (2014) บอกเล่าเรื่องราวของ “ยูอิ” สาวตกงานที่ที่อยู่กินกับแฟนหนุ่มนักเขียนบทหนัง เธอได้สมัครเป็นครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในวันสอนวันแรกเธอพบว่า “โทชิโอะ ซาเอกิ” เด็กนักเรียนในชั้นได้ขาดเรียนไปหลายวัน ด้วยความไฟแรงและมุ่งมั่น เธอจึงไปที่บ้านครอบครัวซาเอกิ เพื่อสอบถามสาเหตุของการขาดเรียน แต่เมื่อเธอก้าวเข้าไปในบ้านซาเอกิ เธอก็เจอกับเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่เปรียบเสมือน “ก้าวแรกสู่ประสบการณ์สยองขวัญ” โดยที่เธอต้องหาคำตอบ และเอาตัวอดจากคำสาปเหล่านี้ให้ได้
ภาคนี้ได้ Reina Triendl นักแสดงสาวดาวรุ่งจากหนังเรื่อง Tag อวสาน…โมเอะ มารับบท “นานามิ” เด็กสาวที่มาล่าท้าผีกลางวันแสกๆ และ Masayuki Ochiai ผู้กำกับมือหนึ่งด้านภาพยนตร์สยองขวัญของญี่ปุ่นที่เคยรีเมค Shutter จากเวอร์ชั่นไทยเป็นฮอลลีวู้ด และสร้างหนังสยองวิทยาศาสตร์อย่าง “Parasite Eve” ที่ทำออกมาได้ดี มีโลกทัศน์ที่น่าสนใจ รวมไปถึงสกิลการดึงอารมณ์ร่วมของคนดู ใส่มาถูกจังหวะ จะว่าไปแล้ว ถ้าใครที่เคยดู จูออนมาตลอด จะทราบดีว่า เนื้อหาหลักจริงๆคืออะไร ยังไง ใครเป็นใคร และมันจบในตัวโดยสมบูรณ์แล้ว แต่ในหนังภาคนี้ ที่ย้อนกลับไปทำเอาเนื้อหาช่วงต้นกำเนิดที่หลายๆคนคงทราบดีอยู่แล้ว ขอให้ลืมมันไปซะ จะเรียกว่าภาคนี้เป็นหนังกึ่ง Reboot มากกว่าภาคต่อ
ไปพิสูจน์แรงอาฆาตของผีเด็กตกถังแป้งที่คอยเรียกแขกมาเข้าบ้านได้เสมอกันกับ “Juon: The Beginning of the End จูออน ผีดุ กำเนิดมรณะ” และต่อด้วย “Juon: The Final Curse จูออน ผีดุ ปิดตำนานโคตรดุ” พฤหัสบดีที่ 21 และ 28 กันยายนนี้ เวลา 23.40 น. เป็นต้นไป ทางช่องโมโน 29
