
งาน GREEN & CLEAN Hospital Challenge Forum 2025 (GCHC Forum 2025) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพมหานคร ได้รับความสนใจจากบุคลากรสาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนทั่วประเทศ กว่า 500 คน ทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online ผ่าน Facebook กรมอนามัย งานนี้เป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญเพื่อนำพาสถานบริการการสาธารณสุขของไทยสู่การเป็นโรงพยาบาลคาร์บอนต่ำและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


งานนี้มีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งเป็นวิกฤตสำคัญระดับโลก โดยการให้บริการทางการแพทย์มีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 4.4 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมโลก จากกิจกรรมต่างๆ เช่น การใช้ไฟฟ้า พลังงาน การขนส่ง และการจัดการของเสีย การจัดงานนี้จึงเป็นเวทีสำคัญในการยกระดับสถานบริการการสาธารณสุขสู่การเป็นโรงพยาบาลคาร์บอนต่ำที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนแนวทางลดการใช้พลังงาน ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีการจัดการเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ และพัฒนาระบบจัดการของเสียอย่างยั่งยืน



ภายในงานมีบรรยายพิเศษ โดย Faustina Gomez (ฟอสติน่า โกเมส) จากองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO SEARO) อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ การอภิปราย 2 หัวข้อหลัก ได้แก่
• “ความท้าทายโลก ท้าทายเรา (สาธารณสุข) มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero” ที่ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการลดก๊าซเรือนกระจก และเตรียมพร้อมรับมือของภาคสาธารณสุขจากสภาพอากาศสุดขั้ว
• “ทิศทางแห่งอนาคต GREEN Hospital” ชี้ทิศทางที่ภาคสาธารณสุขต้องเตรียมความพร้อมในอนาคต เช่น ภาษีคาร์บอน การจัดทำคาร์บอนเครดิตภาคสาธารณสุข เป็นต้น



อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ พิธีมอบโล่รางวัล GREEN & CLEAN Hospital Challenge ระดับท้าทาย ให้แก่โรงพยาบาลต้นแบบ ลดคาร์บอนและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตัวอย่างการจัดการสุขาภิบาลอย่างยั่งยืนและลดโลกร้อน พร้อมชมนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ และกรมอนามัย
งานนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเดินหน้าสู่การเป็น GREEN Health Sector อย่างเป็นรูปธรรม กรมอนามัยจะสานต่อภารกิจนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานบริการการสาธารณสุขทั่วประเทศสามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างยั่งยืน

