บริษัท เรียล สมาร์ท (RealSmart) จำกัด ยืนหยัดในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ มุ่งเน้นการให้บริการ 4 กลุ่ม Software Suite, Services, Solutions และ Academy ประกาศความสำเร็จเติบโตแบบก้าวกระโดดเฉลี่ยปีล่ะ 20-30% ตั้งเป้าพัฒนาขยายฐานลูกค้าและพัฒนาบริการที่ใช้ AI รองรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการเปิดตัว RealVision AI-Powered Intelligence Platform ล่าสุดรับการแข่งเดือดสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล
นายภูกิจ ดิศธรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด กล่าวว่า ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว RealSmart นำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย เพื่อเสริมสร้างการตัดสินใจทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำ บริษัทได้พัฒนาเครื่องมือและการบริการต่าง ๆ ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกในการวางกลยุทธ์ และตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสม โดยเน้นการใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงาน ทั้งในด้านการตลาดและการสื่อสารกับลูกค้า
โดยในปัจจุบัน เรียล สมาร์ท (RealSmart ) ให้บริการหลัก ๆ 4 กลุ่มแก่ลูกค้าซึ่งได้แก่ Software Suite, Services, Solutions และ Academy โดยในกลุ่ม Software Suite ประกอบด้วย platforms ต่างๆ ที่สำคัญ เช่น RealListening, RealMedia, RealInsights, RealProtection, RealEngagement และ RealVision ซึ่ง platform เหล่านี้เป็นสุดยอดนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมา เพื่อช่วยธุรกิจในการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกในการวางกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเฉพาะการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย การเฝ้าระวังและการปกป้องแบรนด์จากการโจมตีในโลกออนไลน์ และในด้านการฝึกอบรม, RealSmart Academy ก็ได้มีการพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมที่ครบวงจรเพื่อเสริมสร้างความรู้ในการตัดสินใจด้วยข้อมูล การปกป้องแบรนด์ การจัดการภาวะวิกฤตออนไลน์ และการนำ AI มาใช้
นายภูกิจ กล่าวต่อว่า “จุดแข็งของ RealSmart คือ ความเข้าใจการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลที่นำมาเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเครื่องมือและ platforms ต่างๆ ไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลในโลกออนไลน์ พร้อมทั้งประสบการณ์ของทีมและการนำเทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเข้าด้วยกัน จึงได้มุมมองที่ครบถ้วน มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ลูกค้าที่ใช้บริการสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับตัวตามแนวโน้มตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน”
ในปี 2024 นี้, RealSmart เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการนำ AI มาใช้ในการปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดและการวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้บริษัทสามารถเข้าใจเสียงของผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง และช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการผสาน AI เข้ากับ Social Listening เพื่อให้ข้อมูลที่แม่นยำในการวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้บริโภค และสามารถติดตามแนวโน้มตลาดที่เกิดขึ้นในเวลาจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 20-30% และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชนจากหลากหลายอุตสาหกรรมเช่น อุตสาหกรรมพลังงาน สถาบันการเงิน สินค้าอุปโภคบริโภค อสังหาริมทรัพย์ โรงพยาบาล เป็นต้น
โดย ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ โชคงามวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานเทคโนโลยี กล่าวว่า RealSmart Platform ถูกพัฒนา เพื่อให้สามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย สื่อออฟไลน์ หรือข้อมูลการตลาด เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ครบถ้วนและทันสมัย นอกจากนี้ RealSmart ยังได้ขยายบริการด้าน AI Solutions ที่ให้บริการในด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (AI Transformation) และ Omni Channel Contact Center เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการลูกค้าออนไลน์ การวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ หรือการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตอบสนองต่อแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าคือ RealListening ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลเสียงจากผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งและแม่นยำ โดย RealListening ช่วยให้ธุรกิจสามารถเฝ้าระวังและวิเคราะห์เสียงของผู้บริโภคจากโซเชียลมีเดียและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งช่วยในการวางกลยุทธ์การตลาดและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น บริษัทจึงได้พัฒนา platform ใหม่ขึ้นมาคือ RealVision ซึ่งเป็น platform ที่เก็บข้อมูลเฉพาะของแต่ละองค์กรทั้งในเชิงลึกและกว้างเพื่อให้ลูกค้าองค์กรสามารถถาม ค้นหาได้อย่างรวดเร็ว ตัดสินใจได้แม่นยำ โดยเฉพาะในการจัดการประเด็นปัญหารอบด้านทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์สามารถทำได้รวดเร็วและแม่นยำ
ด้าน นายอุกฤษฎ์ ตั้งสืบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ให้ข้อมูลว่า ในปี 2025 การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต โดย AI จะทำให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำและนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับแต่งการสื่อสารให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล (Personalization) จะเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
การนำ AI มาใช้ในการสื่อสารกับลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับประเด็น (issues) หรือ วิกฤต (crisis) หรือการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่รวดเร็วและแม่นยำ สิ่งเหล่านี้จะทำให้บริษัทสามารถทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้อย่างทันท่วงที