คัดลอก URL แล้ว

เด็กไทยเสี่ยงเบาหวานพุ่ง! “โรงเรียนสุขสันต์ รู้ทันเบาหวาน” ภารกิจปกป้องอนาคตเด็กไทย ห่างไกลโรคเรื้อรัง

หลายคนอาจเข้าใจว่าเบาหวานพบได้เฉพาะในผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ แต่ในความเป็นจริง เด็กและวัยรุ่นก็เป็นเบาหวานได้เช่นกัน จากข้อมูลปี 2565 สถานการณ์ความชุกของเบาหวานในเด็กและวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี พบว่ามีเยาวชนมากกว่า 1.52 ล้านคนทั่วโลก ต้องใช้ชีวิตกับเบาหวาน ถือเป็นสถิติที่น่าตกใจและสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เบาหวานในเด็กและวัยรุ่นพบได้ 2 ประเภทหลักๆ คือ เบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งเกิดจากภาวะที่ภูมิคุ้มกันทำลายตับอ่อน ทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ จึงจำเป็นต้องพึ่งยาฉีดอินซูลินเพื่อควบคุมไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด และเบาหวานชนิดที่ 2 มักเกิดจากภาวะอ้วนและดื้อต่ออินซูลิน ปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรม และจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องโภชนาการ และการพักผ่อนและออกกำลังกายที่ไม่เพียงพอ โดยเบาหวานทั้งสองชนิดมีอุบัติการณ์เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มเยาวชนทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ดังนั้นการจัดการกับเบาหวานในเด็กจึงต้องได้รับความเอาใจใส่และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และบริการทางสุขภาพเชิงรุก

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และ ซาโนฟี่ ประเทศไทย ได้เล็งเห็นความสำคัญและมุ่งรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเบาหวานในเด็ก จึงได้จัดดำเนิน โครงการ “โรงเรียนสุขสันต์ รู้ทันเบาหวาน” (Kids & Diabetes in School: KiDS) ผ่านการจัดเวิร์คช้อปให้แก่ผู้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ได้แก่ ครู/อาจารย์ พยาบาลวิชาชีพ กุมารแพทย์ ครอบครัวผู้เป็นเบาหวาน ผู้กำหนดนโยบาย ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลและป้องกันเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น สร้างความตระหนักรู้ และดูแลจัดการเบาหวานในโรงเรียน เพื่อช่วยให้โรงเรียนสามารถบริหารจัดการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเด็กที่เป็นเบาหวานชนิดต่างๆ ลดการแบ่งแยกและตีตรา และให้ความรู้ในการใช้สื่อและเครื่องมือต่างๆ เพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการที่สมดุล การนอนหลับ และการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็ก อีกทั้งยังส่งเสริมนิสัยรักสุขภาพและป้องกันโรคตั้งแต่วัยเด็ก โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำองค์ความรู้ในโครงการฯ นี้ไปขยายผลเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม

ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงสถานการณ์โรคเบาหวานทั่วโลก IDF Diabetes Atlas ปี 2564 มีผู้ป่วยจำนวน 537 ล้านคน และคาดว่าในปี 2573 จะมีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน ซึ่งโรคเบาหวานมีส่วนทำให้เสียชีวิตสูงถึง 6.7 ล้านคน หรือเสียชีวิต 1 ราย ในทุกๆ 5 วินาที ขณะที่เบาหวานในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ในปี 2565 สูงกว่า 1.52 ล้านคน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคนภายในปี 2588 ซึ่งนับว่าเป็นอัตราการเพิ่มที่สูงมาก ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง และส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมอย่างยิ่งในอนาคต

สำหรับความท้าทายในการลดอัตราผู้เป็นเบาหวานรายใหม่ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยควรเร่งบูรณาการ มุ่งเน้นการทำงานอย่างสอดคล้องและไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น ส่งเสริมให้เด็กและวัยรุ่นมีพฤติกรรมการกินที่ดีต่อสุขภาพ เพิ่มโอกาสให้เด็กและวัยรุ่นได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรพัฒนาระบบการคัดกรองและวินิจฉัยโรคเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น และสนับสนุนการเข้าถึงการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพ

ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการฯ มร. ชาร์ลส โทลิเอต์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายกลุ่มธุรกิจยา ซาโนฟี่ ประเทศไทย และหัวหน้าโครงการฯ ให้ข้อมูลว่าโครงการ ‘โรงเรียนสุขสันต์ รู้ทันเบาหวาน’ (หรือ KiDS) ในประเทศไทย เป็นการสานต่อโครงการความร่วมมือระหว่างซาโนฟี่ ร่วมกับ สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (IDF) และสมาคมนานาชาติเพื่อเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น (ISPAD) ซึ่งได้เริ่มทำโครงการนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 และยังได้เผยแพร่ไปในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก กว่า 50 ประเทศ เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตรให้กับกลุ่มเด็กที่เป็นเบาหวาน และป้องกันการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็ก ซึ่งเน้นการส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ ทั้งด้านอาหาร ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ซาโนฟี่จึงยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ริเริ่มและสนับสนุนการดำเนินโครงการ KiDS ในประเทศไทย ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ด้าน ดร.พญ. เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่ากรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับปัญหาเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในคนกรุงเทพฯ และยินดีร่วมสนับสนุนโครงการ KiDS เพื่อส่งเสริมความรู้และทักษะเกี่ยวกับการจัดการเบาหวานในเด็กแก่คณะครู ปัจจุบัน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร มีโรงพยาบาลในสังกัด 11 แห่ง โดยมีศูนย์เบาหวานอยู่หลายแห่ง อาทิ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และโรงพยาบาลตากสิน และในปีนี้ กรุงเทพมหานครยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบสุขภาพ โดยเน้นการบูรณาการระบบสุขภาพและทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งการส่งเสริมป้องกันและการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการฯ นี้ เป็นหนึ่งในความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพ โดยสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ได้ประสานกับสำนักงานต่างๆ เพื่อเชิญผู้แทนคุณครูฝึกอบรมเพื่อนำไปถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเบาหวานให้แก่นักเรียนและขยายผลต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ศ.พญ.ธนินี สหกิจรุ่งเรือง ประชาสัมพันธ์ สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่ากิจกรรมอบรมในโครงการ KiDS นี้ ครอบคลุมถึงความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเบาหวาน เสวนาถึงการดูแลจัดการเบาหวานในโรงเรียน ผ่านมุมมองของ IDF Youth Leaders โดยจะมีเยาวชนผู้ที่เป็นเบาหวาน ซึ่งจะเป็นกระบอกเสียงสะท้อนเกี่ยวกับโรคเบาหวานในประเทศไทย รวมถึงมีการแนะนำสื่อ ‘โรงเรียนสุขสันต์ รู้ทันเบาหวาน’ โดยทีมงาน KiDS Project ตลอดจนสื่อต่างๆ ของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น สื่อจากโครงการสามเหลี่ยมสมดุล (สสส.) และสื่อจากชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน เพื่อสนับสนุน healthy lifestyle เพื่อป้องกันเบาหวานในอนาคต อีกทั้งยังมีการแบ่งกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระดมสมองเพื่อหาแนวทางและสร้างเครือข่ายสนับสนุน ทั้งเชิงป้องกัน และการดูแลเด็กๆ ที่เป็นเบาหวานในโรงเรียนให้มีสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงลดการแบ่งแยก ตีตราเด็กและวัยรุ่นที่ต้องใช้ชีวิตกับโรคเบาหวาน

ทั้งนี้ จะนำความรู้ที่ได้จากโครงการ ‘โรงเรียนสุขสันต์ รู้ทันเบาหวาน’ มาเผยแพร่บนเว็บไซต์ www.t2dminsulin.com ซึ่งพัฒนาโดยซาโนฟี่ ประเทศไทย ร่วมกับสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมผู้ให้ความรู้โรคเบาหวาน เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและวิธีการดูแลตัวเองสำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน ที่เปิดกว้าง ทันเหตุการณ์ เข้าถึงได้ง่ายทุกที่ ทุกเวลา

โครงการ ‘โรงเรียนสุขสันต์ รู้ทันเบาหวาน’ (หรือ KiDS) ในประเทศไทยครั้งนี้ จึงเป็นตัวอย่างของการร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน สมาคมวิชาชีพ และเครือข่ายผู้เป็นเบาหวานและผู้ปกครอง สร้างความตระหนักรู้ และดูแลจัดการเบาหวานในโรงเรียน ลดการแบ่งแยกและตีตรา สร้างเสริมสุขนิสัยที่ดี เพื่อขับเคลื่อนไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กไทย อันจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับแคมเปญวันเบาหวานโลก ในปี 2024-2026 “Diabetes and Well-being” ที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจของผู้เป็นเบาหวานและครอบครัว


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง