บริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) โดยผลิตภัณฑ์ ทิปโก้ หอมสุวรรณ จับมือกับ ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดตัวเครื่องปอกสับปะรดหอมสุวรรณ การันตีด้วยรางวัล “iF Design Award” เจ้าแรกในประเทศไทย
บริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ชวนสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการทานสับปะรดง่าย ๆ เพียง 3 วินาทีหลังจากกดปุ่ม ก็ได้สับปะรดหอมสุวรรณพร้อมทาน ด้วยการเปิดตัวเครื่องปอกสับปะรดหอมสุวรรณเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดครั้งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์จากเวทีประกวดผลงานดีไซน์ชั้นนำระดับโลก “iF Design Award” ประเทศเยอรมนีเป็นรางวัลที่การันตีผลงานการออกแบบที่ โดดเด่น มีความคิดสร้างสรรค์ โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณลือชา พิศิษฐการ (ปฏิบัติหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัททิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)) และ คุณ ณัฐวิทย์ กัณฐศากุล (ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี)) ร่วมด้วย คุณธนวัตร จิรจริยาเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้ ณ ท็อปส์ เซ็นทรัล ฟู้ดฮอลล์ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา
คุณ ลือชา พิศิษฐการ (ปฏิบัติหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัททิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)) ได้กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “ด้วยเอกลักษณ์ของสับปะรดหอมสุวรรณทีมีเนื้อสีเหลืองทอง เนียนแน่นและตาตื้น บวกกับความหอมหวานและรสชาติที่ละมุนไม่บาดลิ้น และยังมีวิตามินซีสูงกว่าสายพันธ์อื่นถึง 4 เท่า จึงทำให้เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความยอดนิยมค่อนข้างสูง และด้วยความพิเศษของผลไม้ชนิดนี้บวกกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีจำนวนมาก เราจึงยกระดับการให้บริการด้วยการนำเครื่องปอกสับปะรดหอมสุวรรณมาติดตั้งไว้บริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่ชื่นชอบการทานสับปะรดที่เน้นความสะดวกสบายไม่ยุ่งยากในการปอกอีกต่อไป
ซึ่งสาขาแรกที่ให้บริการ คือ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ก่อนเตรียมขยายไปยังสาขาอื่น ๆ ต่อไป สำหรับเครื่องปอกนี้ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วกด ซึ่งใช้เวลารอเสิร์ฟสับปะรดเพียง 3 วินาที การเพิ่มจุดให้บริการนี้ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากขึ้นกว่าที่ผ่านมา และเนื่องจากสับปะรดหอมสุวรรณเป็นที่ต้องการของตลาดและมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นทุกปีการเปิดตัวเครื่องปอกสับปะรดหอมสุวรรณในครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าของสับปะรดหอมสุวรรณได้มากขึ้น และมีโอกาสเพิ่มอัตราการเติบโตสูงกว่า 10% ในปีนี้อีกด้วยครับ”