เครือสหพัฒน์โชว์ศักยภาพ Sustainability ภายใต้นโยบาย “คนดี สินค้าดี สังคมดี” หนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนตามนโยบายภาครัฐ สู่ผู้ผลิตและจัดจําหน่ายสินค้าไร้คาร์บอน ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความสมดุล
เครือสหพัฒน์ โดย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) ในฐานะผู้ทําการตลาดและ จัดจําหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคชั้นนํากว่า 100 แบรนด์ ได้จัดตั้งโปรเจกต์พิเศษภายใต้การดูแลของ BSC International เปิดโรงงานผู้ผลิตเครื่องสําอาง PURE CARE BSC (เพียว แคร์ บีเอสซี) ผลิตภัณฑ์ที่นําเสนอ เอกลักษณ์ความเป็นไทย จาก “บัวหลวง” สมุนไพรไทย ผ่านการคิดค้น วิจัย และผลิต เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์จาก ธรรมชาติ ที่เหมาะกับผิวคนไทยและเอเชีย ดีต่อใจ ดีต่อทุกสภาพผิวแม้ผิวที่บอบบาง และดีต่อโลกอย่างยั่งยืน
โดย ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อํานวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “วิกฤตเศรษฐกิจในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาส่งผลให้ภาคธุรกิจต้อง ปรับตัวให้พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารธุรกิจ รวมถึงกระบวนการทํางานในทุกมิติ ให้องค์กรสามารถก้าว ไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนได้ เพื่อให้เราสามารถก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน นอกจากการมุ่งเน้นไปที่การ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจัดจําหน่ายให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Customer Focus) บริษัทฯ ยังได้บริหารงานโดยคํานึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลในการดําเนินธุรกิจควบคู่ไปด้วย (ESG: Environmental, Social, Governance)”
ด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการดูแลสิ่งแวดล้อม ทั้งในกระบวนการทํางานและการใช้ชีวิตประจําวัน พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยคํานึงถึงที่มาของวัตถุดิบหรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิต (Carbon Footprint) ควบคู่ไปกับการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการทํางานและการสื่อสาร เพื่อลดการใช้พลังงาน และส่งเสริม การดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้หลัก Reduce: Reuse: Recycle อาทิ การใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ในการทําบรรจุ ภัณฑ์ การใช้กระดาษรีไซเคิล การแยกขยะเพื่อนําสิ่งที่นํากลับมาใช้อีกได้ไปเข้ากระบวนการ Recycle
ด้านสังคม ใส่ใจในการพัฒนาศักยภาพพนักงานให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จัด ให้มีการทบทวนความรู้เพิ่มเติม (Reskill/Up skill) และกระบวนการแบ่งปัน/ถ่ายทอดทักษะต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อการขับเคลื่อนการดําเนินธุรกิจขององค์กรได้อย่างยั่งยืน และยังคงกิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง ตามปณิธานของดร.เทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้งเครือสหพัฒน์
ด้านหลักธรรมาภิบาล บริษัทฯ ให้ความสําคัญในการปฏิบัติตามหลักการกํากับดูแลกิจการที่ดีซึ่งเป็น รากฐานสําคัญในการพัฒนาและสร้างคุณค่าให้กิจการอย่างยั่งยืน ดําเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เคารพสิทธิ มนุษยชน และมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ รวมถึงกําหนดจรรยาบรรณกรรมการบริษัท ผู้บริหารและพนักงาน อย่างชัดเจน
นอกจากพันธกิจ ที่กล่าวมา บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) ในฐานะผู้ทํา การตลาดและจัดจําหน่าย แบรนด์สินค้าชั้นนํา ยังร่วมผลักดันโรงงานผู้ผลิตสินค้า ภายใต้การดูแลของ BSC International เพื่อเป็นตัวแทนความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ Net Zero ไปพร้อม ๆ กัน
“เพราะเราทุ่มเทและใส่ใจ ในทุกผลิตภัณฑ์ PURE CARE BSC จึงดีต่อใจ ดีต่อทุกสภาพผิวแม้ผิวที่บอบบางแพ้ง่าย และดีต่อโลกอย่างยั่งยืน”
ผลิตภัณฑ์เครื่องสําอาง PURE CARE BSC โดย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญและคุณค่าของ วัตถุดิบจากธรรมชาติ โดยเฉพาะสมุนไพรไทย และเทรนด์ การใช้ผลิตภัณฑ์ด้านความงามอย่างปลอดภัย ไร้สารเคมี จึงได้ร่วมกับส่วนงานวิจัยและนวัตกรรม บริษัท อินเตอร์เนชันแนล แลบบอราทอรีส์ จํากัด และ โครงการวิจัย PERCH ของศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิชัย ริ้ว ตระกูล ณ ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยมหิดล ทําการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Super Moisturizing Bead โดยนํา “บัวหลวง” พืชสมุนไพรไทย ที่ทรงคุณค่า และมีประโยชน์นานัปการมาพัฒนาใช้ในการผลิตเครื่องสําอาง โดย เน้นไปที่ “เกสรดอกบัวหลวง” โดยสารสกัดจากเกสรดอกบัวหลวง สรรพคุณทางยามีรสฝาดหอมเย็น ใช้แก้ไข้ แก้ เสมหะ อ่อนเพลีย นิยมใช้เป็นยาหอม ยาชงดื่ม เพื่อบํารุงหัวใจ สรรพคุณด้านความงาม พบว่าเกสรมีคุณสมบัติ เป็น Anti-oxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร โรคมะเร็ง และความ บกพร่องทางผิวหนังอื่น ๆ มาผสมผสานกับนวัตกรรมจากโพลิเมอร์ธรรมชาติที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ใน รูปแบบเจลแคปซูลทรงกลม พร้อมด้วยคุณสมบัติของ Sericin และ Sodium Hyaluronate ที่ช่วยเสริมเติมเต็มความชุ่มชื้นที่ขาดหายไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ใช้มีผิวที่แลดูอ่อนเยาว์ ผิวชุ่มชื้นขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และคืนความอ่อนวัยและทําให้ผิวขาวเนียนสดใส ได้ดีเยี่ยมกว่าสารสกัดจากชาเขียวถึง 2 เท่า
ด้วยความโดดเด่นนี้ ทําให้เครื่องสําอาง PURE CARE BSC นําสารสกัดจากเกสรดอกบัวหลวงมา รวมไว้ในเครื่องสําอางชุด Age Expert Series แบรนด์แรกของโลกด้วยนาโนเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้ว ว่า สามารถช่วยชะลอ ลดเลือนริ้วรอย คืนความอ่อนวัยและทําให้ผิวขาวเนียนสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
เครื่องสําอางชุด Age Expert Series ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ด้านเศรษฐกิจ ประจําปี 2548 จากสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation Award 2548) และตั้ง Trademark เป็นของ PURE CARE BSC ในชื่อ “Lotus Spirit (โลตัส สปิริต)” PURE CARE BSC ผลิตจากส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจาก ธรรมชาติ และปราศจากสารก่อให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งผ่านการทดสอบจากสถาบันผิวหนังชั้นนําระดับโลก ตามมาตรฐานสากล การันตีคุณภาพ
- Clinically Tested จากสถาบันผิวหนังประเภทเยอรมันนี Germany Dermatology Institute
- Hypo- Allergenic จากสถาบันผิวหนังสหรัฐอเมริกา USA Dermatologist Institute
ทําให้มั่นใจว่าใช้แล้วปลอดภัย เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย เหมือนกับสโลแกนของแบ รนด์ “The Expert in Asian Sensitive Skin” ที่สําคัญยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ “ไม่ทําการทดลองกับสัตว์” และสาร สกัด “Lotus Spirit (โลตัส สปิริต)” ยังได้รับรางวัลทางด้านนวัตกรรม National Innovation Award 2005 (1 runner up) จากสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกด้วย
คัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติด้วยความใส่ใจ
ปี 2540 บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จํากัด (ILC) ได้เริ่มต้นพัฒนาสารสกัดจากเกสรบัว หลวง และศึกษาตลาดเครื่องสําอาง พบว่าในต่างประเทศมีการใช้สารสกัดจากธรรมชาติมากมาย อย่างเช่น Resveratrol ที่พบในองุ่น ชาเขียว หรือมัลเบอรี่ ที่ให้คุณสมบัติเป็น antioxidant ที่ช่วยกําจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็น สาเหตุหนึ่งของผิวสูงวัย มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหมองคล้ํา ได้ถูกนํามาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางอย่างแพร่หลาย
สําหรับประเทศไทย หนึ่งในเอกลักษณ์ประจําชาติที่มีความโดดเด่น และสร้างชื่อเสียง คือ สมุนไพร ซึ่งมี คุณค่าและประโยชน์แก่คนรุ่นหลังอย่างมากมาย มีการจารึกบันทึกการใช้สมุนไพรไทยในตํารับยา เช่น ตํารับยาแพทย์แผนโบราณ และตําราพระโอสถพระนารายณ์ เป็นต้น
จากการค้นคว้าวิจัยพันธุ์ไม้ในตํารับยาแผนโบราณ (แผนไทย) กว่า 200 ตัวอย่าง ที่มีประสิทธิภาพด้าน การต้านอนุมูลอิสระ พบว่า “เกสรดอกบัวหลวง” มีคุณสมบัติที่โดดเด่น สามารถใช้เป็นทั้งอาหารและยา มี ประวัติการใช้ที่ยาวนานและปลอดภัยสูง เข้ากับเครื่องยาไทย และปรากฏในหลายพระคัมภีร์หลายเล่ม ได้แก่ มหาโชติรัต ปฐมจินดา มุจฉาปักขันทิกา โดยเป็นหนึ่งในเกสรทั้งห้า ทั้งเจ็ดและทั้งเก้า ที่มีรสฝาดหอม แก้ไข้ รากสาด แก้ไข้มีพิษร้อน ชูกําลังทําให้ชื่นใจ บํารุงครรภ์รักษา ใช้เข้าเครื่องยาหอมได้ และในทางศาสนาพุทธ ดอกบัว ถือเป็นสัญลักษณ์ของความงาม ความเจริญรุ่งเรือง ความมีชีวิต ความบริสุทธิ์และการตรัสรู้ทางจิต วิญญาณ จึงนับได้ว่าเกสรดอกบัวหลวงมีความโดดเด่น และน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ด้านงานวิจัยและนวัตกรรม บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จํากัด (ILC) ได้มีความร่วมมือกับโครงการวิจัย PERCH ของศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. วิชัย ริ้วตระกูล ณ ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยมหิดล ดําเนินการร่วมกันใช้เวลาศึกษาถึงคุณสมบัติสารออกฤทธิ์ในสารสกัดเกสรบัวหลวง นาน กว่า 6 เดือน จนพบว่าในสารสกัดเกสรดอกบัวหลวง มีกลุ่ม Flavonoid ได้แก่ Kaempferol และ Kaempferol derivative และเมื่อศึกษาถึงคุณสมบัติทางเคมีในผลิตภัณฑ์เครื่องสําอาง พบว่า มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง กว่า สารสกัดชาเขียวถึง 2 เท่า และมีคุณสมบัติช่วยทําให้ผิวขาวขึ้นเทียบเท่ากับสารสกัดจากมัลเบอรี่ มี ความสามารถในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และมีความปลอดภัยในการใช้ ผ่านการทดสอบจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ
ในปี 2545 สารสกัดนี้ได้รับการจดอนุสิทธิบัตร 1610, จดทะเบียนการค้าหรือ trademark ในชื่อ “Lotusia” รวมทั้งขึ้นทะเบียน Lotusia BG ที่ PCPC (Personal Care Product Council) ถูกตีพิมพ์ใน ICID (International Cosmetic Ingredient Dictionary and Handbook) เป็นที่ยอมรับระดับสากล ซึ่งเราสามารถ ผลิตสารสกัดเกสรดอกบัวหลวงได้เองในเชิงพาณิชย์ ไม่แพ้สารสกัดที่นําเข้าจากต่างประเทศ
มุ่งมั่นพัฒนาการผลิตสู่ความยั่งยืน
ตลอด 53 ปี… บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จํากัด (ILC) ในฐานะโรงงานผู้ผลิต เครื่องสําอาง ได้ให้ความสําคัญกับแนวคิด Sustainability ซึ่งเป็นการพัฒนาความยั่งยืน ลดผลกระทบต่อ เพิ่มคุณภาพชีวิตของทุกคนในสังคมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแบบระยะยาวไปถึงคนรุ่นต่อๆ ไปใน อนาคต ดังนั้นเราจึงได้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสีเขียวหรือ “Green Extraction” เข้ามามีบทบาทสําคัญใน การพัฒนาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารสกัดเกสรดอกบัวหลวง รวมถึงมองหาแหล่งดอกบัวที่ดีใน ประเทศ ส่งเสริมรายได้ไปสู่ชุมชน เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแบบองค์รวม ลดการนําเข้าสารสกัดจากต่างประเทศ
บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จํากัด (ILO) ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 3 จากกระทรวงอุตสาหกรรมและได้รับการรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001:2015 ตั้งแต่ปี 2549 และจนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการบริหารความยั่งยืนในทุกกระบวนการผลิต ดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และพนักงาน โดยในปี 2566 ได้รับรางวัล จากกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม 2 โครงการ
- โครงการ 3Rs Award และ 3Rs+ โดยได้รับรางวัล 2 ด้านคือ ด้านผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ และด้านการลดปริมาณของเสีย
- โครงการ CSR-DIW Awards 2023 ด้านการดําเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสร้าง ความยั่งยืนให้แก่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
จากทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริษัทฯ ได้มีการจัดการกระบวนการ ผลิตเครื่องสําอางอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคํานึงถึงผลกระทบที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่าง คุ้มค่าและไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1. การบริหารการจัดการทรัพยากรน้ำ
ในการบวนการผลิตภายใต้โครงการ Water Conservation โดยมีโครงการนําน้ำจาก
กระบวนการผลิตน้ํา RO (Reverse Osmosis) มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ภายใต้หลัก 3Rs
- Reduce การหากระบวนการล้างโดยใช้น้ำประหยัด
- Recycle Recovery waste water system
- Reuse น้ําสําหรับใช้ทั่วไป เช่น การลดน้ําต้นไม้
ซึ่งการนําน้ำ RO เข้าไปกรอง เพื่อนํากลับมาใช้ในระบบสาธารณูปโภค ทําให้ปี 2566 สามารถลดการใช้ น้ำลงได้ 8%
2. การจัดการด้านการลดการใช้ไฟฟ้า
- ติดตั้ง Solar Rooftop ตั้งแต่ปี 2560
- การทํา Chiller / Air Condition/Air Compressor
- • เปลี่ยนหลอดไฟฟ้า LED Light
ทําให้สามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 12% คิดเป็น 870,588 KWh/y ซึ่งปัจจุบันเราติดตั้ง 4 อาคาร 640 KW ผลิตไฟฟ้า 900 MJ/Y ซึ่งในอนาคตบริษัทจะลงทุนติดตั้งเพิ่มให้ครบทุกตึก เป็น 2,700 KW คิดเป็น 50% ของไฟฟ้าที่ใช้
3. การจัดการพลังงานความร้อน
โดยใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGD) แทน LPG สามารถลดการใช้พลังงานได้ 11% คิดเป็น 900 MJ/Y
4. การจัดการกากอุตสาหกรรม (Industrial Waste)
ในกระบวนการผลิตจะมีกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งเราแบ่งประเภทของกากอุตสาหกรรม เพื่อการ จัดการโดยคํานึงไม่ทําลายสิ่งแวดล้อม โดย
- 45% กากอุตสาหกรรมที่ไม่อันตราย (Non Hazardous wastes) มุ่งสู่ Zero Landfill และ นําไปทําเชื้อเพลิง 30%
- 3% กากอุตสาหกรรมอันตราย (Hazardous wastes) นําไปผสมเป็นเชื้อเพลิงโดยผู้รับ กําจัดที่ได้รับอนุญาต
- 50% กากอุตสาหกรรมที่นําไปหมุนเวียนใช้ใหม่ (Recycle Wastes) ส่งไปบริษัทรับ Recycle ที่ได้รับอนุญาต
จากการจัดการในกระบวนการผลิตของโรงงาน ภายใต้โครงการดังกล่าว ทั้งการปลูกป่า / โครงการ 3R และ Waste Recovery ทําให้สามารถชดเชย Carbon Credit ในปี 2565 ลด CO ได้ 1,441 Ton Co
กล่าวโดยสรุป สารสกัดจากเกสรดอกบัวหลวง ลิขสิทธิ์เฉพาะของ PURE CARE BSC ในนาม Lotus Spirit ในเครื่องสําอางชุด Age Expert Series ที่ผลิตโดย บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จํากัด (ILC) มีความโดดเด่นในเรื่องของส่วนผสมที่ได้สารสกัดจากธรรมชาติ เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ โดยคํานึงถึงความ งามที่ปลอดภัย ใช้ได้ในทุกสภาพผิวแม้ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เหมือนกับสโลแกนของแบรนด์ “The Expert in
Asian Sensitive Skin”
ทุกขั้นตอนในการคัดเลือกวัตถุดิบ ผ่านการคิดค้น วิจัยอย่างมุ่งมั่น ผ่านการทดสอบ Clinically Tested เพื่อการันตีคุณภาพและความปลอดภัย จากสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังรับ รางวัลในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ที่สําคัญ PURE CARE BSC ยังเป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นพัฒนาสาร สกัดจากเอกลักษณ์ของสมุนไพรไทย สร้างคุณค่าให้กับวัตถุดิบตามธรรมชาติ สร้างงานสร้างอาชีพให้กับ เกษตรกรไทย และผลิตโดยโรงงานที่ใส่ใจ ไม่ทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ และพิถีพิถันในทุกกระบวนการผลิตจาก ต้นน้ําสู่ปลายน้ํา อย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน