จากชีวิตจริงของเด็กชายขอบ หม่อง ทองดี ที่ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อสื่อต่าง ๆ พร้อมใจกันนำเสนอข่าว เด็กชายวัย 11 ขวบผู้มีความสามารถในการโยนเครื่องบินกระดาษ แต่เขาเกือบไร้โอกาสได้ทำตามความฝันของตัวเองในการเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะเขาไร้สัญชาติไทย เรื่องราวของเขากำลังจะถูกเล่าขานอีกครั้งผ่านภาพยนตร์ “A Time To Fly…บินล่าฝัน” โดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมด้วย อิเมจิแมกซ์ จัดจำหน่ายโดย ยูเจ็ดสอง สตูดิโอ ฝีมือการกำกับของ โส่ย-ศักดิ์ศิริ คชพัชรินทร์ ผู้กำกับแอนิเมชั่นที่เคยฝากฝีไม้ลายมือในภาพยนตร์เรื่อง “คุณทองแดง” ตอน “หมาวัด” นำแสดงโดย โบกี้-ด.ช.ศุภัช ท้าวสกุล, เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน และพระเอกหนุ่ม แมน-ธฤษณุ สรนันท์
ผู้กำกับ โส่ย-ศักดิ์ศิริ เปิดเผยว่า “จุดเริ่มต้นเรื่องนี้มาจากข่าวเด็ก 13 หมูป่าติดถ้ำ ซึ่งในกลุ่มนี้มีน้อง ๆ บางคนเป็นเด็กไร้สัญชาติ ผมจึงนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เคยเป็นข่าวฮือฮาเมื่อ 10 ปีก่อน ที่มี ด.ช.หม่อง ทองดี เด็กไร้สัญชาติที่แข่งเครื่องบินกระดาษจนเป็นตัวแทนไปแข่งที่ประเทศญี่ปุ่น ผมจำได้ว่า อย่างแรกที่ผมรับรู้คือการปาเครื่องบินกระดาษเป็นกีฬาด้วยเหรอ แต่สิ่งที่น่าสนใจลึกลงไปกว่านั้นคือความช่วยเหลือจากสื่อต่าง ๆ ,นักกฏหมาย และคุณครูของเขาที่พยายามผลักดันให้ฝันของหม่องเป็นจริง ผมแบ่งหนังเรื่องนี้เป็น 2 ประเด็น คือ Outside Story เป็นเรื่องของเด็กไปแข่งเครื่องบินกระดาษ ส่วน Inside Story เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ์ขั้นพื้นฐานครับ”
“ด้วยความที่เรื่องราวของหนังได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริงจะส่งผลกระทบต่อคนหรือหน่วยงานไหมบ้างไหม ผมมีการวางเส้นเรื่องที่ชัดเจนคือ เราไม่ได้วางให้ใครเป็นผู้ร้าย เราพูดถึงเรื่องอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต อย่างอุปสรรคของหม่อง คือเขาเป็นเด็กไร้สัญชาติ นอกจากนี้ผมก็เน้นไปที่ความร่วมมือร่วมใจของคนไทยในหลาย ๆ ส่วนที่พยายามช่วยเหลือให้ฝันของเด็กคนหนึ่งได้เป็นจริง เจตนาของผมคืออยากให้หนังเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม จากกระดาษราคาไม่ถึง 25 สตางค์ แต่กลับเปลี่ยนชีวิตคน ๆ หนึ่งได้ เป็นแสงสว่างในปลายอุโมงค์ เหมือนเราทุกคนที่มีอุปสรรคต่าง ๆ เข้ามาในชีวิต แต่เราจะทำอย่างไรที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ แล้วทำความฝันให้สำเร็จได้ นี่คือสิ่งที่ผมอยากพูดถึงมากกว่าครับ”
“A Time To Fly” เป็นเรื่องราวของ ด.ช.หม่อง ทองดี (โบกี้-ด.ช.ศุภัช) เด็กไร้สัญชาติ อายุ 11ปี ซึ่งบังเอิญจับพลัดจับผลูได้มี โอกาสไปคัดเลือกและชนะจนได้เป็นตัวแทนระดับประเทศไปแข่งขันชิงแชมป์เครื่องบินกระดาษพับ ณ ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อการแข่งขัน เริ่มใกล้เข้ามารัฐบาลไทยปฏิเสธการออกเอกสารการเดินทาง ให้กับเด็กไร้สัญชาติ เนื่องจากมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ บรรดาคุณครู อาจารย์ นักกฎหมาย นักข่าว และประชาชนทั่วไป รวมตัวและพยายามเรียกร้องจากทางภาครัฐให้เขาได้มีโอกาสเดินตามความฝัน ในที่สุด หม่อง ทองดี ใช้เวลา 19 วินาที ในการแข่งเครื่องบินกระดาษพับและสามารถคว้าแชมป์ให้กับประเทศไทย แต่เขาใช้เวลาถึง 20 ปี ที่เขาจะบรรลุตามความฝัน “ความฝันที่จะได้เป็นคนไทยโดยสมบูรณ์” เรื่องราวคนตัวเล็ก ๆ ของหม่อง ทองดี ได้จุดประกายความฝันให้กับเด็กไร้สัญชาติคนอื่น ๆ ได้มีแรงบันดาลใจให้เดินตามความฝันของตัวเองต่อไป
ห้ามพลาดภาพยนตร์น้ำดีได้ในวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายนนี้ ทางโรงภาพยนตร์