คัดลอก URL แล้ว

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ายกแนวทางอังกฤษ แจกบุหรี่ไฟฟ้า 1 ล้านคนเพื่อเลิกบุหรี่ แถมเพิ่มงบอีก 3 ล้านปอนด์ป้องกันเยาวชนเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (ECST) ยกแนวทางประเทศอังกฤษ ตั้งเป้าช่วยชีวิตผู้สูบบุหรี่และป้องกันเด็กเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้จริง หลังอังกฤษประกาศทุ่มงบ 45 ล้านปอนด์เพื่อแจกบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ และยังให้งบ 3 ล้านปอนด์กวาดล้างการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายให้แก่เด็กและเยาวชน ขณะที่ไทยยังคงแบนบุหรี่ไฟฟ้าและก่อให้เกิดตลาดมืดและการลักลอบใช้โดยไม่มีการควบคุม หวังเลือกตั้งปี 2566 รัฐบาลใหม่จะทบทวนนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อควบคุมให้ถูกกฎหมายและป้องกันเด็กเยาวชนอย่างจริงจัง

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) และเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร”ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เผยว่า “บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ถูกกฎหมายในอังกฤษ ทำให้รัฐบาลสามารถออกมาตรการและบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษประกาศจัดสรรงบประมาณกว่างบ 45 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,921 ล้านบาท) เพื่อแจกบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่และอีก 3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 127 ล้านบาท) เพื่อจัดการปัญหาการขายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี”

มาตรการดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ ซึ่งได้ประกาศเปิดโครงการแจกบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่ผู้สูบบุหรี่กว่า 1 ล้านคน เพื่อสนับสนุนให้หยุดใช้บุหรี่มวนที่มีความอันตรายและหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนในโครงการ “Swap to Stop” โดยทุ่มงบประมาณกว่า 45 ล้านปอนด์ ตั้งเป้าลดอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศให้เหลือเพียง 5% ภายในปี 2030 พร้อมเน้นย้ำถึงการตรวจสอบผู้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้าต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี โดยจะจัดตั้ง “หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” ซึ่งมีอำนาจในการสั่งปิดร้านค้าที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไม่ถูกกฎหมายด้วย โดยหน่วยงานดังกล่าวจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบทั่วประเทศ รวมถึงทำการสุ่มซื้อตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า และจะออกคำแนะนำในการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมายให้กับร้านค้า

“ขณะที่ประเทศไทยแบนบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 แล้ว แถมอัตราการสูบบุหรี่ยังอยู่ที่ประมาณ 17.4% และแทบไม่ลดลง โดยอ้างว่าต้องการปกป้องเยาวชน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทุกวันนี้การใช้ ซื้อ หรือขายบุหรี่ไฟฟ้ามีให้เห็นกันทั่ว เด็กเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างง่ายดายผ่านช่องทางออนไลน์โดยที่ไม่มีใครดูแลหรือตรวจสอบ พร้อมกับการประโคมข่าวว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไม่ต่างจากบุหรี่ธรรมดา แต่กลับมีแนวโน้มการใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ชี้ให้เห็นว่าการแบนเป็นมาตรการทางกฎหมายที่ล้มเหลวมาตลอด” นายอาสาเสริม

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายฯ อีกรายกล่าวเสริมว่า “รายงานคณะอนุกรรมมาธิการพิจารณาศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพ และติดตามการบังคับใช้กฎหมายด้านการสาธารณสุข ซึ่งศึกษาอย่างรอบด้านและพิจารณาถึงผู้เกี่ยวข้องในประเด็นบุหรี่ไฟฟ้าอย่างครบถ้วน ก็มีข้อเสนอแนะว่าประเทศไทยควรปลดล๊อคแบนบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อให้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสมผ่าน พรบ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ 2560 ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเพิ่มเติมอีกด้วยซึ่งเราคาดหวังว่าเมื่อได้รัฐบาลใหม่ นโยบายบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายจะได้รับการหยิบขึ้นมาทำให้เป็นรูปธรรม นโยบายบุหรี่ไฟฟ้าของไทยจะได้มีความเป็นสากลและอิงตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น จะได้ช่วยดูแลสุขภาพคนสูบบุหรี่และป้องกันเด็กๆ ได้จริงๆ”

“ในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการประชุมประเทศภาคีสมาชิกกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกครั้งที่ 10 ที่ประเทศปานามา ซึ่งหวังว่าครั้งนี้ผู้แทนของไทยจะได้รับเอาความเห็นจากรายงานของคณะกรรมาธิการสาธารณสุขที่ระบุให้ประเทศไทยได้พิจารณาแนวทางการลดอันตรายจากยาสูบ ด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ ที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดนั้นมีอันตรายที่แตกต่างกัน จึงควรมีการควบคุมที่แตกต่างจากบุหรี่แบบเผาไหม้เพื่อช่วยชีวิตคนไทยกว่า 9.9 ล้านคนให้รับสารพิษที่เป็นอันตรายน้อยลง”

ที่มา:
Vaping: New measures to crack down on illegal sale of e-cigarettes to teenagers – BBC News
Vaping: Free e-cigarettes to be handed out in anti-smoking drive – BBC News


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง