คัดลอก URL แล้ว

GC และ OR ผนึกกำลังสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กลุ่ม ปตท. ผนึกกำลังสร้างความแข็งแกร่งเพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจและการดำเนินงานอย่างยั่งยืน จึงเกิดเป็นความร่วมมือในพิธี ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือด้านธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระหว่าง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ครอบคลุมความร่วมมือ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน ด้านการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า และด้านการพัฒนาธุรกิจ ภายในงาน มีนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เป็นประธานในพิธี ดร.คงกระพัน  อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GC และนายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR เป็นผู้ลงนาม MOU ณ  ศูนย์ความร่วมมือและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (CSC) อาคารเอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ CEO PTT กล่าวว่า ความร่วมมือของสององค์กรภายใต้กลุ่ม ปตท. ในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของกลุ่ม ปตท. ในการนำความแข็งแกร่งของแต่ละองค์กรมาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจร่วมกัน โดย GC เป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล มีนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กับเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืน ผนวกกับ OR เป็นผู้นำธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกของไทย มีฐานผู้บริโภคทั่วประเทศ จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งกับความร่วมมือครั้งนี้  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการขยายผลต่อยอดสู่การผสานความร่วมมือระหว่างองค์กร (Synergy) ของกลุ่ม ปตท. ในมิติด้านต่างๆ ได้อีกในอนาคตเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรและประเทศ

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง CEO GC กล่าวว่า GC มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยหลักความยั่งยืนภายใต้สมดุลระหว่าง สิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและธรรมาภิบาล มุ่งสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Business) สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก (GHG)  การผสานร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการนำศักยภาพ จุดแข็งของ GC ในหลายมิติ ทั้งด้านการดำเนินการด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้านการผลิตที่มีผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ พลาสติกชีวภาพที่มีกำลังการผลิตเป็นอันดับ 1 ของโลก, พลาสติกรีไซเคิลมาตรฐานระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน อีกทั้งมีแพลตฟอร์มการบริหารจัดการขยะพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจร (YOUเทิร์น Platform) ผสาน กับ OR ที่มีจุดแข็งเชี่ยวชาญโมเดลธุรกิจ มี physical platform ที่เข้าถึงผู้บริโภค  การลงนาม MOU ผสานความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ เพื่อสร้างคุณค่าและเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

นายดิษทัต ปันยารชุน CEO OR กล่าวว่า ความร่วมมือกับ GC ในครั้งนี้เป็นไปตามแนวคิดในการผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. ของ OR หรือ Synergy for Impact พร้อมเปิดประตูความร่วมมือสู่การเติบโตร่วมกัน โดยอาศัยจุดแข็งของทั้ง OR และ GC ใน 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน (Knowledge)  การสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน (Energy) ความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Synergy)  และการผสานความร่วมมือด้านการพัฒนาธุรกิจ (Explore) นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังสอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน OR’s SDG ที่จะตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “G” หรือ “GREEN” ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-neutrality) ภายในปี 2030 อันจะนำไปสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Carbon Zero) ในปี 2050 ต่อไป

สำหรับโครงการความร่วมมือด้านธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ใน 4 ด้าน ได้แก่ 

ด้วยการผนึกกำลังสร้างความร่วมมือด้านธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ จะทำให้ทั้ง GC และ OR สามารถต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง