คัดลอก URL แล้ว

KMUTNB ผนึกพันธมิตร ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยสู่สากล

งานสัมนาวิชาการระดับชาติครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยสำนักพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม ร่วมกับ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) จัดสัมนาวิชาการระดับประเทศ เรื่อง การยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยสู่สากลในยุคดิจิทัลด้วยยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ทั้งเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และเทคโนโลยีไร้สายในด้านอุตสาหกรรมขนส่ง อันนำไปสู่การยกระดับประสิทธิภาพการขนส่งในไทยที่ยั่งยืน และสอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในยุคอุตสาหกรรม 4.0 สร้างโอกาสขยายเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างภาครัฐ และเอกชน เพื่อยกระดับโลจิสติกส์ไทยให้เติบโต และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ หอประชุมเบญจรัตน์ อาคารนวมินทราชินี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ศาสตราจารย์ ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับบริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความร่วมมือในการพัฒนานักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ และบุคลากรของบริษัทฯ รวมถึงบุคลากรบริษัทในเครือ ร่วมระดมวิจัย พัฒนา การบริหารจัดการองค์ความรู้ การบริหารการจัดการด้านอุตสาหกรรมการผลิต จนถึงการบริการด้านอาหาร และการประชาสัมพันธ์ อันเป็นการร่วมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม และต่อยอดสู่การพัฒนาศักยภาพแก่กำลังคนของประเทศตามแนวนโยบายด้านการศึกษาของชาติ

คุณอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า ประเทศไทยได้มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการพัฒนากลไกเพื่อการขับเคลื่อนความมั่งคั่งของประเทศโดยมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยได้กำนดแนวการการพัฒนากลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคตที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล รวมถึงการยกระดับโลจิสติกส์เดิมให้มีมาตรฐานระดับสากลยุคใหม่ อันจะนำไปสู่การสร้างศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค และเชื่อมต่อกับเครือข่ายโลจิสติกส์โลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั้งระบบไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ควบคู่ส่งเสริมเทคโนโลยีและการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อสนับสนุนการลดภาวะโลกร้อน ลดมลพิษทางเสียง ลดฝุ่นละออง และลดต้นทุน Carbon Zero Emission รวมถึงแสวงหานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่เพื่อการต่อยอด S-curve เดิมที่กำลังจะถึงจุดอิ่มตัวให้มีการเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรทั้งภาครัฐ และเอกชนเพื่อเตรียมความพร้อมการใช้งานเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่โฟล์คลิฟท์ มอเตอร์ไซค์ จนถึงรถบรรทุก และรถไฟราง, แหล่งผลิตพลังงานสำรองภายในโรงงานที่ยั่งยืน, การเตรียมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้า เช่น สถานีชาร์จ จัดตั้งหน่วยงานทดสอบเพื่อรับรองมาตรฐาน และความพร้อมด้านบริการต่าง ๆ, การพัฒนาและนำเทคโนโลยีดิจิทัลและซอร์ฟแวร์การจัดการตั้งแต่การผลิต การจัดการคลัง ไปจนถึงการขนส่งที่มีประสิทธิภาพครบวงจร

รองศาสตราจารย์ ดร.ชาญชัย ทองประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้กล่าวถึงภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยฯ ที่ได้ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งบริการวิชาการที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสนับสนุนลดภาวะโลกร้อน ลดฝุ่น PM 2.5 และการจัดการปัญหาด้านพลังงานและเชื้อเพลิงที่มีจำกัด รวมถึงการวิจัยและพัฒนาด้านระบบขนส่งในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำ ดังจะเห็นได้จากที่มหาวิทยาลัยมีผลงานที่หลากหลาย อันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติได้อย่างกว้างขวาง


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง