กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ขอแจ้งเตือนประชาชนถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ภายหลังหน่วยทหารและฝ่ายความมั่นคงในหลายจังหวัดได้ตรวจพบและควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยหลายเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ภายในช่วงวันที่ 8–9 ธันวาคม 2568 ทั้งในจังหวัดอุบลราชธานีและสุรินทร์
จากการปฏิบัติในพื้นที่ หน่วยทหารพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในหลายรูปแบบ ได้แก่
- บุคคลที่มีพฤติกรรมผิดปกติใกล้เขตฐานปฏิบัติการของทหาร
- ผู้ต้องสงสัยที่ครอบครองโทรศัพท์มือถือจำนวนมากหรือสิ่งของจากประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาได้
- บุคคลต่างด้าวที่ไม่สามารถอธิบายเส้นทางการเดินทางหรือวัตถุประสงค์ในการเข้าพื้นที่ได้ชัดเจน
ทุกกรณีได้ถูกควบคุมตัวเข้ากระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านความมั่นคงแล้ว เพื่อประเมินความเกี่ยวข้องกับการสอดแนม การขนส่งข้อมูล หรือกิจกรรมที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
เหตุการณ์ตรวจพบหลายครั้งในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน สะท้อนถึง แนวโน้มความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์และมีหน่วยทหารปฏิบัติภารกิจสำคัญด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ต่อเรื่องนี้
พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้สั่งการเร่งด่วน ให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มระดับการเฝ้าระวังและตรวจตราเป้าหมายสำคัญคือการป้องกันไม่ให้บุคคลหรือกลุ่มที่มีเจตนาไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนหรือสอดแนมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ พร้อมทั้งกำชับให้มีการประสานงานใกล้ชิดระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนในพื้นที่
กอ.รมน. ขอเน้นย้ำและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน ให้ช่วยกันสังเกตความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ และแจ้งเบาะแสทันที หากพบ
- บุคคลแปลกหน้าที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย
- การถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลในพื้นที่หวงห้ามหรือติดกับฐานทหาร
- การเดินสำรวจเส้นทางหรือซักถามข้อมูลเกี่ยวกับกำลังพลและตำแหน่งทางยุทธศาสตร์
- ยานพาหนะที่มีลักษณะผิดสังเกต ไม่คุ้นเคย หรือทะเบียนไม่ตรงพื้นที่
ประชาชนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือผู้นำชุมชนได้โดยทันที เพื่อให้หน่วยงานสามารถเข้าตรวจสอบและจัดการได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในพื้นที่
กอ.รมน. ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ทุกหน่วยยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มงวด รอบคอบและต่อเนื่อง เพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าแก่สาธารณชนอย่างสม่ำเสมอ
1374 สายด่วน กอ.รมน. โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง




