คัดลอก URL แล้ว
“อนุทิน”​ เมินกระแสดราม่าน้ำท่วมทำคะแนนพรรคลด​ – ยกมือสาธุท่วมหัว​ คะแนนนิยมใต้​ได้ 15%

“อนุทิน”​ เมินกระแสดราม่าน้ำท่วมทำคะแนนพรรคลด​ – ยกมือสาธุท่วมหัว​ คะแนนนิยมใต้​ได้ 15%

นายอนุทิน​ ชาญ​วีรกูล​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ กล่าวถึง กระแสข่าวการยุบสภาฯ 12 ธันวาคม​นี้​ ว่า​ เรื่องยุบสภาอยู่ที่สถานการณ์​ทางการเมือง​ ซึ่งทุกคนทราบอยู่แล้วว่า​ อย่างไรรัฐบาลชุดนี้ก็อยู่ไม่เกิน​ 31 มกราคม​ 2569

เมื่อถามถึง​กระแสข่าวรัฐบาลขอให้พรรคเพื่อไทยชะลอการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปก่อน​ จนกว่าการแก้ไขรัฐบาลจะผ่านในวาระที่​ 3 นายอนุทิน กล่าวว่า​ ไม่มี​ ตนยังไม่ได้คุยกับผู้บริหารพรรคใด​ อย่าว่าแต่พรรคเพื่อไทย​ พรรคไหนก็ไม่ได้คุย​ เราก็บริหารราชการแผ่นดินไป​ และมีไทม์ไลน์​ อย่างไรก็รักษาคำพูด​ รวมไปถึงมี​ MOA​ ซึ่งตนเชื่อว่า​ ตั้งแต่ตนเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ทำทุกอย่างตามเงื่อนไข​ MOA​ ระหว่างรัฐบาลกับพรรคประชาชน​ พอวันนี้เป็นรัฐบาลแล้วไม่อยากพูดคำว่าMOAมาก​ เพราะเป็นเรื่องของสองพรรคการเมือง​ แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลและประเทศชาติแล้ว​ และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตนก็ได้บอกแล้วว่ายุบสภา​วันที่​ 31 มกราคม​ 2569 ทุกคน ก็ทราบถึงกรอบระยะเวลาที่วางไว้อยู่แล้ว​ และขณะนี้ก็มีสถานการณ์​ต่างๆ​ หากเป็นไปได้​ ก็ขอให้ทุกคนช่วยประชาชน​ ได้บรรเทาทุกข์​ เอาเขาออกจากความทุกข์​ร้อนกลับบ้าน​ สู่การฟื้นฟู​ คืนบ้านคืนเมืองให้เขา​ หายใจอีกแป๊บเดียวก็ยุบสภาฯ​ และหากยุบสภาแล้วถ้าช่วงมีภัยพิบัติ​เรื่องฉุกเฉินต่างๆ​ รัฐบาลจะทำงานช่วยประชาชนก็ลำบาก​ แต่หากมีความจำเป็นไม่มีทางเลือก​ เราก็ต้องมีความพร้อม​

เมื่อถามว่ากำลังใจเป็นเช่นไรเนื่องจากมีกระแสดรามาเรื่องน้ำท่วม​ นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า​ ตนไม่มีปัญหาอะไรกับกระแสดรามาแม้แต่น้อย​ เพราะตนและคณะรัฐมนตรี​ ทุกคนยึดถือความ​ทุกข์ของประชาชน​ ประชาชนทุกข์​ 1 เท่า​ พวกตนทุกข์​ 10 เท่าเพราะเราต้องดูแลเขา​และต่องแสวงหาความร่วมมือในการช่วยเหลือ

เมื่อถามว่าได้ประเมินกระแสความนิยมของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ตนไม่ได้ประเมินเลย​พูดจริงๆ​ ตนก็ทำงานงตน​ ตั้งแต่ทำงานการเมืองมา 20 ปีไม่เคยประเมิน​ เวลาผู้สื่อข่าวถามประเมินให้คะแนนตนเองเท่าไหร่​ ตนก็พูดเล่นๆให้คะแนนเต็ม 10 เพราะทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด​ ความจริงคนที่ประเมินคือประชาชน​ จะให้คนอื่นประเมินก็ไม่มีประโยชน์​อะไร​

เมื่อถามว่าประชาชนอาจประเมินว่ารัฐบาลติดลบจากการบริหารสถานการณ์​วิกฤตในครั้งนี้​ จะทำให้นายกรัฐมนตรี​บั่นทอนความรู้สึกหรือไม่​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ ตนไม่รู้สึกเพราะคนที่พูดเช่นนี้อาจจะติดตามข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง​ อย่างพวกตนไปลงพื้นที่น้ำเท่าอกเหมือนกัน​ กลับมาแล้วก็ยังคันอยู่แล้ว​ ยังมีปัญหาที่กระทบผิวหนังอยู่เลย แต่ก็ไม่มีปัญหาลงไปแล้วก็รู้งาน​ ใครพูดอะไรมา​เราก็ตอบได้​ ไม่อยากไปเถียง​ ไม่ต้องไปบอกว่าคุณพูดผิดเพราะทุกคนมีสิทธิ์​พูด​ แต่หาดจะพูดเรื่องงานที่หาดใหญ่ในการให้ความช่วยเหลือประชาขน​ และเรื่องมาตรการต่างๆ​ รัฐบาลต้องมั่นใจว่ามาถูกทาง​ และมั่นใจว่าทำได้ทุกอย่างที่ต้องทำ

เมื่อถามว่าจะไม่กระทบฐานเสียง​ของพรรคภูมิใจ​ไทย​ในพื้นที่ภาคใต้ใช่หรือไม่​ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการดึงบ้านใหญ่ในพื้นที่มาร่วมงาน​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ตนไม่ได้คิดตรงนั้นเลย ไม่อย่างนั้นต้องไปถามว่าคุณจะกาให้พรรคอะไรตนถึงข่วยมันไม่ใช่​ เราไปก็ไปทั้งหมด​ เพื่อเอาพวกเขาออกจากความทุกข์ก็พูดได้แค่นี้

เมื่อถามถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน​นิดาโพล​ ที่พรรคภูมิใจ​ไทย​อยู่ในลำดับที่​ 3 นายอนุทิน​ ย้อนถามกลับว่าคะแนนเกิน​ 10% หรือไม่​ 15% ใช่ไหม​ และนายอภิสิทธิ์​ เวชชาชีวะ​ หัวหน้า​พรรคประชาธ​ิ​ปัตย์​ ได้​ 25% ก่อนอุทานว่า​ โห​ ตนมาจาก​ 0.2% ได้​ 15% มาก็ต้องสาธุ​ พร้อมยกมือไหว้ท่วมหัว

เมื่อถามต่อว่าคะแนนความนิยมของพรรคภูมิใจ​ไทย​ตกลง​ฮวบ​ นายอนุทิน​ ระบุว่า​ ก็ตกจาก​ 20% มา​ 15% แต่เคยอยู่ที่​ 0.2% /1.2% /1.5% แต่ขณะนี้อยู่ที่​ 15% ก็ขอบคุณมากแล้ว​ ได้แค่นี้ก็ดีใจตายแล้ว

เมื่อถามการลงพื้นที่หาดใหญ่​ มีประชาชนชื่นชมมากกว่ากระแสดรามาใช่หรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ คนที่ติดตามใกล้ชิดก็คงเห็นว่า การลงพื้นที่ไปไม่ได้คิดว่าจะได้คะแนน​เสียง​ แต่ถ้าลงไปแล้ว​ไม่มีคนเสียงชีวิตไม่มีอะไรเสียหาย​ ไม่ต้องเลือกพรรคภูมิใจ​ไทย​ก็ได้​ มีใครจะดีใจเท่ากับคนที่ทำแล้วช่วยชีวิตคนได้​ ไม่ใช่ตรงนั้นเลยจริงๆ​ จ.สงขลาตอนนี้พรรคภูมิใจ​ไทย​มีสส.แค่คนเดียว​ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ตราบใดที่ไม่เสียเขาไปเราก็ไม่ขาดอะไร​ ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว​

เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะสามารถชนะนายอภิสิทธิ์​ ได้ในพื้นที่ภาคใต้​ นายอนุทินกล่าวว่า​ นายอภิสิทธิ์​เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ ก็ทำให้มีการตื่นตัว​ และมีสีสันขึ้น​ แต่ตนไม่ได้มองนายอภิสิทธิ์​เป็นคู่แข่ง​ แต่ทำงานให้กับบ้านเมือง​ อย่างไรก็ได้

โดยก่อนที่นายกรัฐมนตรี​ได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า​ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าเหนื่อยหรือไม่​ นายกรัฐมนตรี​ หันกลับมาตอบ​ว่า​ ยัง​


ข่าวที่เกี่ยวข้อง