ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยที่สร้างความเสียหายและความวิตกกังวลให้กับชาวหาดใหญ่ ล่าสุดทีมเยียวยาจิตใจในภาวะวิกฤต (MCATT) กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจสำคัญในการดูแล “ใจ” ผู้ประสบภัย ณ ศูนย์พักพิงโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเปราะบางอย่างเด็กและเยาวชน เพื่อเปลี่ยนความสับสนหวาดกลัวให้กลายเป็นพลังบวก
เจ้าหน้าที่ทีม MCATT หรือ “พี่กุ๊ก” เปิดเผยถึงบรรยากาศการลงพื้นที่ว่า ในช่วงแรกพบเด็กและเยาวชนกว่า 50 คน กระจายตัวอยู่ตามมุมต่าง ๆ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล หลายคนมีอาการเกร็งและไม่กล้าเข้าสังคม ทีมงานจึงได้นำกระบวนการทางจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ผ่านกิจกรรมสันทนาการ เริ่มจากการละลายพฤติกรรม (Ice Breaking) การจับมือส่งไออุ่น และการฝึกสมาธิเบื้องต้น ก่อนจะใช้ “ศิลปะบำบัด” แจกกระดาษและสีให้น้อง ๆ ได้ระบายความรู้สึกผ่านจินตนาการ
ระหว่างกิจกรรม มีเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจและประทับใจให้กับทีมงาน เมื่อเด็กชายเอ (นามสมมติ) วัย 11 ปี ได้วาดภาพบ้านลงบนกระดาษ เมื่อถูกถามถึงความหมายของภาพ น้องเอตอบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ว่า “บ้านครับ… แต่ผมไม่ได้อยากได้บ้านหลังใหญ่ขึ้นนะพี่ ผมแค่อยากได้บ้านแบบเดิม ที่มีพ่อ แม่ และทุกคน อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าเหมือนเดิมครับ” คำตอบดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ในยามวิกฤต สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับผู้ประสบภัยไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง แต่คือ “ความปลอดภัย” และการได้อยู่กับ “ครอบครัว”
ผลลัพธ์จากการทำกิจกรรมในครั้งนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่ตัวเด็ก แต่ยังส่งผลบวกไปถึงผู้ปกครองที่นั่งเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เมื่อเสียงหัวเราะของลูกหลานดังขึ้น รอยยิ้มที่เลือนหายไปจากใบหน้าของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ก็เริ่มกลับคืนมา ช่วยบรรเทาความทุกข์หนักอึ้งในใจผู้ใหญ่ให้เบาบางลงได้ชั่วขณะ
ตัวแทนทีม MCATT สรุปบทเรียนจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า รอยยิ้มของเด็ก ๆ มีพลังมหาศาลในการส่งต่อความหวังสู่ผู้ใหญ่ พร้อมย้ำว่า สุขภาพจิตที่ดีในภาวะวิกฤต ไม่ได้หมายถึงการไม่มีปัญหา แต่คือความสามารถในการหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่ามกลางปัญหาเหล่านั้น โดยกรมสุขภาพจิตและทีม MCATT ยืนยันจะเดินหน้าดูแลจิตใจประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
