วันที่ 28 พ.ย. 68 เมื่อเวลา 15.54 น. ที่จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมคณะ ขึ้นรถทหารเดินทางจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ไปยังศูนย์พักพิงในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปรากฏว่าระหว่างทางมีชาวบ้าน 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดที่ท้ายรถของคณะนายกรัฐมนตรี ก่อนตะโกนพร้อมชี้ไปที่นายกรัฐมนตรี และต่อว่า “นายกฯอย่านั่งรถซิ นายกฯเดินดูเลย ถ้านายกฯลงมาเดินดูจะเยี่ยมแบบนี้เลย” พร้อมยกนิ้วโป้ง ก่อนกล่าวว่า “เอาลูกนักเลงมาเลย“
ก่อนชาวบ้าน กล่าวต่อว่า “คนลำบาก นายกฯนั่งรถ ชาวบ้านด่าเพราะนายกฯนั่งรถ ให้ลงเดินเลยเชื่อผม เพราะถ้าเป็นผม ผมลงเดินเลย” ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะตอบว่า “โอเค”
ทั้งนี้ ชาวบ้านพูดต่ออีกว่า “นายกฯกลัวอะไร มีอำนาจอยู่แล้ว ใครมาว่าจับแม่งเลย” ก่อนจะขับรถออกไป
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรีว่า ชาวบ้านมาต่อว่าได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านรายดังกล่าวอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องฟังเขา เป็นใครก็โกรธ เราต้องน้อมรับ เพราะเป็นความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ก็ต้องยอมรับให้เขาระบาย และก็ขอโทษเขา และยังต้องนำข้อมูลของเสียงสะท้อนนั้น มาจัดการแก้ไขให้เป็นประโยชน์ หากเขามาบอกให้เข้าไปดูตรงจุดไหนเราก็ต้องเข้าไปดู
ผู้สื่อข่าวจะย้ำถามว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเครียดจากสถานการณ์ นายกรัฐมนตรี ตอบกลับทันทีว่า เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ทุกคนมีความเครียด และเราเป็นรัฐบาลเราก็ต้องขอโทษ ที่ทำให้พวกเขาต้องจากที่อยู่อาศัยมาอยู่แบบนี้ ไม่ว่าอะไรก็ตามก็ต้องยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาด แต่เราต้องไม่ทำให้มีอะไรผิดซ้ำซ้อน หรือผิดไปมากกว่านี้ และต้องเร่งฟื้นฟู คืนสภาพชีวิตปกติให้ชาวบ้านโดยเร็วที่สุด ซึ่งตรงนี้รัฐบาลกำลังเร่งทำอยู่
จากนั้นนายกฯเดินทางถึงศูนย์พักพิงในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายอนุทิน ได้สอบถามว่า อาหารเพียงพอหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ได้รายงานว่าอาหารเพียงพอ และประชาชนบางส่วนได้เดินทางกลับบ้านไปบ้างแล้ว นายอนุทิน จึงกล่าวว่า เดี๋ยวต้องจ่ายไฟไปให้ชาวบ้าน ก่อนจะเดินดูภายในศูนย์อพยพ พร้อมบอกว่าหากไม่ได้ที่นี่แย่เลย
ช่วงหนึ่งมีผู้ประสบภัยเดินเข้ามาหานายอนุทิน พร้อมยกมือไหว้ ซึ่งนายอนุทินได้ถามความเป็นอยู่ โดยผู้ประสบภัยตอบว่า อยู่คนเดียว ญาติพี่น้องไม่มี นายอนุทินจึงบอกว่า อยู่ที่นี่ก่อน จากนั้นผู้ประสบภัยได้ร้องไห้โฮ พร้อมกอดไปที่เอว นายอนุทิน ขณะที่นายอนุทิน กอดปลอบแล้วบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
จากนั้นมีหญิงคนหนึ่งมาบอกกับนายกรัฐมนตรีว่าหารถกลับบ้านที่เกาะหมี โดยนายกรัฐมนตรี เอ่ยปากว่า ให้กลับไปพร้อมกับตน รวมทั้งสัมภาระที่ติดตัวมาด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่จะขอนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการเรื่องนี้ แต่นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะให้หญิงรายดังกล่าวไปด้วยกัน เนื่องจากเป็นทางที่ต้องผ่านอยู่แล้ว และให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถือสัมภาระของหญิงดังกล่าว พร้อมระบุว่า จะไปเกาะหมีเพื่อดูสภาพความเสียหายของพื้นที่ดังกล่าวอยู่แล้ว
นายกฯ ยังกล่าวถึงการประเมินด้านการสาธารณสุขว่า มีการตั้งโรงพยาบาลสนาม 7 แห่งเพื่อรับมือแล้ว เมื่อถามว่า การแก้ไขปัญหาระยะยาวเนื่องจากโรงพยาบาลใหญ่หลายแห่งเสียหายหนักนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกโรงพยาบาลมีกองช่างและวิศวกรที่คอยดูแลอยู่แล้ว ส่วนเรื่องโรคหลังน้ำท่วม กระทรวงสาธารณสุขจะมีแผนการรับมืออยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การมาวันนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเครียดที่เห็นประชาชนลำบากแบบนี้ ทุกข์ไม่น้อยกว่าท่านแน่นอน และต้องเร่งคืนความสะดวกสบายให้กับประชาชนมากที่สุด พร้อมย้ำว่าสัปดาห์หน้าเงินเยียวยาจะต้องถึงมือผู้ประสบภัย เงินช่วยเหลือศพละ 2 ล้านบาท ต้องถึงครอบครัวและนโยบายพักหนี้ก็ต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการจัดการศพของประชาชนชาวมุสลิม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเร่งดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ และคืนร่างให้กับครอบครัว ซึ่งตอนนี้รับรายงานว่ามีจำนวนศพ 100 เศษ มีทีมนิติเวชอยู่ในพื้นที่แล้วกว่า 20 คน และเตรียมพร้อมสนับสนุนเพิ่มอีก 40 คน
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ขึ้นรถทหารเพื่อเดินทางไปยังเกาะหมี โดยเวลา 17.00 น. ขบวนรถทหารของนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงเกาะหมี และได้ส่งหญิงรายดังกล่าวถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกฯจะพักค้างคืนที่จังหวัดสงขลาด้วย


