ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น อาจารย์ประจำภาควิชาการบริหารและจัดการการเมือง วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เสร็จสิ้นการประชุมอาเซียนซัมมิท และเอเปก โดยระบุถึงบทบาทผู้นำไทยบนเวทีโลกว่า การปรากฏตัวของนายกรัฐมนตรีอนุทินในเวทีระดับนานาชาติครั้งแรก นับเป็นสัญญาณสำคัญของทิศทางการต่างประเทศยุคใหม่ ที่เน้นความร่วมมือด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจดิจิทัล และความมั่นคงสากล พร้อมวิเคราะห์บทบาทผู้นำไทยผ่านกรอบภาวะผู้นำเชิงรุกและมุ่งผลลัพธ์ อย่างชัดเจน
ดร.เชษฐา ระบุว่า สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการยกปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระภูมิภาค พร้อมเสนอให้ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมร่วมปราบปรามเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งเป็นการแสดงบทบาทผู้นำที่ทำงานแบบ “ร่วมมือเพื่อแก้ปัญหา” (Collaborative Leadership) ได้เสียงตอบรับในระดับนานาชาติ และตอกย้ำบทบาทไทยในประเด็นความมั่นคงสมัยใหม่
นักวิชาการยังได้สรุปบทบาทสำคัญของนายกรัฐมนตรีอนุทินใน 5 มิติ ได้แก่
1. ผู้นำมุ่งส่งเสริมการลงทุนและเชื่อมโยงภูมิภาค ชูบทบาทไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ เปิดรับการลงทุนด้าน AI ดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุนโลก
2. ผู้นำ “นักเชื่อมประสาน” บนเวทีโลก
ผลักดันแนวคิด “Bridge – Business – Beyond” ให้ไทยเป็นสะพานเชื่อมระบบเศรษฐกิจตะวันตก–เอเชีย และเป็นผู้เล่นสำคัญด้านความมั่นคงในภูมิภาค
3. ผู้นำ “เซลล์แมนเศรษฐกิจ” ของชาติ
ใช้เวทีโลกหาช่องเจรจานำผลประโยชน์กลับไทย เช่น เสนอขายข้าว 5 แสนตันให้จีน และขอลดภาษีนำเข้าสินค้าไทยจากสหรัฐฯ ต่ำกว่า 19%
4. ผู้นำที่เน้นผลลัพธ์และลงมือจริง
แสดงการทำงานแบบ “Quick Big Win” เช่น ย้ำเจรจาลดภาษีกับผู้นำสหรัฐฯ และย้ำความร่วมมือกับผู้นำจีนแม้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ สะท้อนการทำมากกว่าพูด
5. ผู้นำเข้าถึงง่าย ใช้ความเป็นกันเองสร้างความเชื่อใจ สร้างสายสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำหลายประเทศ เห็นได้จากการพบปะและทักทายอย่างเป็นกันเอง เช่น โผกอดและชวนผู้นำนิวซีแลนด์ทานไอศกรีม
ผศ.ดร.เชษฐา สรุปว่า ภาพรวมภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีอนุทินในเวทีอาเซียน–เอเปก คือ ผู้นำเชิงปฏิบัติการ ที่เน้นความเชื่อมโยง ความร่วมมือ และผลลัพธ์รูปธรรม ใช้แนวคิด “Bridge – Business – Beyond” ขับเคลื่อนบทบาทไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกและหุ้นส่วนความมั่นคงภูมิภาคอย่างเข้มแข็ง สะท้อนผู้นำยุคดิจิทัลที่ใช้เครือข่าย ความไว้วางใจ และผลประโยชน์แห่งชาติเป็นหัวใจสำคัญของการทูต ///
