นายเอี่ยม บางแค ประธานกรรมการวัด พร้อมด้วยนาย อำพร ลาลี ที่ปรึกษาวัดแห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ และชาวบ้านกว่า 10 คน เข้ามายื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังมีความสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินวัด ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดดังในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และเป็นวัดที่กำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด
นายเอี่ยมกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปทางเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาในพื้นที่ให้มีการตรวจสอบวัดแห่งนี้ ซึ่งแต่ละครั้งที่มีการประชุมหลายครั้ง ชาวบ้านในพื้นที่กลับไม่ได้รับคำตอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในวัด วันนี้จึงรวมตัวกันมาร้องเรียนพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้รับเรื่องและดำเนินการตรวจสอบวัดแห่งนี้
ด้านนายอำพร ที่ปรึกษาวัดซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่าปัญหาเกิดจากการสร้างวิหารและโบสถ์ของวัด ซึ่งค่าใช้จ่ายครั้งล่าสุดมีผู้ใจบุญบริจาคเข้ามาในบัญชีของวัดเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ชาวบ้านจึงมีการทวงถาม และขอเจ้าอาวาสชี้แจงค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ทำให้ชาวบ้านต้องมีการรวบรวมเงินกันเพิ่มจนสร้างเสร็จและได้มีฉลองไปแล้วด้วย แต่ยังไม่ทราบว่าเงิน 1 ล้านก้อนนั้นหายไปไหน จึงเป็นที่มาให้ชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อขอให้เจ้าอาวาสชี้แจงรายละเอียดการบูรณะสิ่งต่างๆ ภายในวัดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ และก่อนหน้านี้ก็มีการก่อสร้างหลายอย่างภายในวัด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบวัดแห่งนี้อย่างละเอียด
อีกทั้งก่อนหน้านี้เจ้าอาวาสวัดได้มีการฟ้องร้องชาวบ้านเกี่ยวกับเรื่องการหมิ่นประมาท เรื่องขึ้นสู่ชั้นศาล และศาลได้มีการยกฟ้องแล้ว และนอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องอื่นที่ชาวบ้านยังสงสัย แต่ยังไม่สามารถพูดได้เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน
นายอำพรยังบอกอีกว่า ชาวบ้านยังได้มีการเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการวัดที่มีชาวบ้านเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย ได้ทำเอกสารรายชื่อเสนอเจ้าอาวาสแต่เจ้าอาวาสก็ไม่ยินยอมพยายามบ่ายเบี่ยง โดยอ้างว่าไม่ได้สัดส่วน แต่ทางนายอำพร ตอบกลับเจ้าอาวาสว่าจะไม่ได้สัดส่วนได้อย่างไร เนื่องจากคณะกรรมการดังกล่าว ชาวบ้านร่วมกันตั้งขึ้นมา ซึ่งเป็นคณะกรรมการของหมู่บ้าน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ชาวบ้านยังสงสัยว่าเจ้าอาวาสและพระลูกวัด ว่ามีการใช้เงินวัดอย่างไม่โปร่งใส เนื่องจากวัดแห่งนี้มีพระสงฆ์รวมกัน 6 รูป แต่ได้มีการตั้งคณะกรรมการวัดถึง 47 คน และแต่ละคนก็มีความสนิทสนมกับเจ้าอาวาส และบัญชีวัดแห่งนี้มี 3 บัญชี และคนดูแลบัญชีก็ยังเป็นเจ้าอาวาสด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านเอาไว้ตรวจสอบเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
