คัดลอก URL แล้ว
ฮุน เซน แจงปรับกำลัง แสวงหาสันติ เพื่อมิตรภาพและความร่วมมืออันดีต่อกัน

ฮุน เซน แจงปรับกำลัง แสวงหาสันติ เพื่อมิตรภาพและความร่วมมืออันดีต่อกัน

ภายหลังจากที่ทางกองทัพบกได้ออกมารายงานสถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นได้คลี่คลายลงแล้ว โดยได้บรรลุข้อตกลงในการปรับวางกำลังให้กลับไปอยู่แนวเดิมเมื่อปี 2567 และทางฝ่ายกัมพูชาได้มีการกลมบริเวณคูเลตคืนสู่สภาพเดิมไปแล้วนั้น

เมื่อคืนที่ผ่านมา เฟซบุ้ก สมเด็จ ฮุน เซน ก็ได้กลับมาเปิดให้คนไทยได้เข้าไปดูได้อีกครั้ง พร้อมกับมีการเผยแพร่ข้อความอัปเดตสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า

การปรับกำลังทหารในพื้นที่ขัดเแย้งเป็นไปตามที่ผู้บัญชาการทหารของทั้งกัมพูชาและไทยได้มีการตกลงร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อเลี่ยงการปะทะและสูญเสียครั้งใหญ่ โดยประชาชนทั้งสองประเทศ ต้องการสันติภาพที่ยั่งยืน ไม่ต้องการเผชิญกับสภาพของสงคราม

ในการแสวงหาทางออกร่วมกันด้วยการเจรจานั้นได้ดำเนินการมาตั้งแต่ระดับรัฐบาลจนถึงระดับหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ จนกระทั่งเป็นผลสำเร็จออกมาในขณะนี้

ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลที่จะเกิดหน้าแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นหนทางที่จะเลี่ยงการเกิดความสูญเสีย และเพื่อมิตรภาพและความร่วมมืออันดีต่อกันกับประเทศเพื่อนบ้าน

ซึ่งในโพสต์ดังกล่าว มีชาวกัมพูชาจำนวนมากออกมาแสดงความเห็นด้วย ส่วนใหญ่ค่อนข้างผิดหวังและมีข้อสงสัยโดยเฉพาะประเด็นของการกลมคูเลตที่ขุดไว้ พร้อมกับตั้งคำถามว่า ตามที่ทางการไทยอ้างว่า กัมพูชาได้กลบคูเลตไปแล้วนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ พื้นที่ตรงนั้นคือดินแดนกัมพูชาไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

แต่ส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนสมเด็จฮุน เซน และฮุน มาเนต ในการนำเรื่องของ 4 พื้นที่พิพาทขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ  International Court of Justice: ICJ

ทางด้านของพลเอก Tea Seiha (เตีย เซ็ยฮา) ก็ได้ออกมารายงานถึงสถานการณ์ข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นด้วย

ในวันนี้ กัมพูชาและไทยได้บรรลุจุดยืนร่วมกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเป็นพ้องในการปรับกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อาจจะส่งผลให้เกิดการปะทะได้ เพื่อลดความตึงเครียด การเผชิญหน้า และสร้างเสถียรภาพขึ้นใหม่ตามแนวชายแดน

กองทัพกัมพูชายืนหยัดบนอธิปไตยของตนในภารกิจปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน การเคลื่อนกำลังตามแนวชายแดนก็เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนเท่านั้น กัมพูชาไม่มีความทะเยอทะยานที่จะรุกรานประเทศใดเลย

ขอบคุณสันติภาพ ขอบคุณนโยบาย Win-win และขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องที่นำไปสู่ทางออกแบบ Win-Win ซึ่งจะนำมาด้วยสันติภาพและความสามัคคีของชาติอย่างสมบูรณ์

ซึ่งยังคงมีชาวกัมพูชาออกมาแสดงความเห็นและตั้งคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน ถึงการถอนกำลังทหารเกิดขึ้นจริงหรือไม่

ในขณะที่นาย ปรัก สุคน รมว.การต่างประเทศกัมพูชา ได้ออกมาเรียกร้องให้ไทยให้ความร่วมมือในการยื่นข้อพิพาทเรื่องพรมแดนไทยกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติและถูกต้อง

ซึ่งกัมพูชายังคงยืนยันในการยื่นฟ้องศาลโลกใน 4 พื้นที่ด้วยกันคือ สามเหลี่ยมรกต, ปราสาทตาเมือน, ปราสาทตาเมือนโตส และปราสาทตากระเบย หรือ ปราสาทตาควาย