อ.พญ.พิมพ์พรรณ อัศวสุรอิน อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เตือนภัยช่วงปิดเทอมฤดูร้อนและเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงเสี่ยงสูงที่เด็กเล็กจะจมน้ำเสียชีวิต โดยเฉพาะเมื่อเล่นน้ำในสระ สวนน้ำ น้ำตก หรือบริเวณที่มีแหล่งน้ำใกล้มือ เช่น ในร้านอาหารหรือคาเฟ่
ข้อมูลจากปี 2567 ระบุว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตถึง 173 ราย กลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือเด็กวัย 10–14 ปี รองลงมาคือ 5–9 ปี และอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเด็กเล็กมักขาดความรู้เรื่องอันตราย และการจมน้ำมักเกิดขึ้น “แบบเงียบ” ไม่มีเสียงร้องหรือดิ้นรน
แพทย์แนะนำให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกต หากพบว่าเด็กเงียบผิดปกติขณะอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ควรรีบเข้าไปตรวจสอบทันที พร้อมเน้น 3 ขั้นตอนช่วยเหลือเมื่อตกน้ำ ได้แก่
- ตะโกน ขอความช่วยเหลือ โทร 1669
- โยน อุปกรณ์ลอยน้ำ เช่น ห่วงยาง เสื้อชูชีพ
- ยื่น ของยาวให้เด็กจับ เช่น ไม้ หรือเชือก
หากเด็กหมดสติและไม่หายใจ ให้ทำ CPR ทันที หากยังมีสติ ให้จับนอนตะแคง ป้องกันการสำลัก และคลุมผ้าให้ร่างกายอบอุ่น
สำหรับการป้องกัน แนะนำให้จัดการแหล่งน้ำในบ้านให้ปลอดภัย เช่น ล้อมรั้วสระน้ำหรือบ่อปลา และสอนเด็ก 3 อย่า คือ
อย่าเข้าใกล้แหล่งน้ำ
อย่าเก็บของในน้ำเอง
อย่าก้มลงดูบ่อน้ำหรือโอ่ง
เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปควรเรียนว่ายน้ำและฝึกทักษะเอาตัวรอด พร้อมสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งแม้ว่ายน้ำเป็น โดยไม่แนะนำให้ใช้ห่วงยาง เนื่องจากมีความเสี่ยงพลิกคว่ำหรือหลุด
“อุบัติเหตุจากการจมน้ำป้องกันได้ อย่าประมาทแม้เพียงพริบตาเดียว” อ.พญ.พิมพ์พรรณ กล่าวย้ำ