เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นางสาวรักชนก ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน พร้อมด้วย นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคเดียวกัน แถลงข่าวกรณีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทเป็นมูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในอาคาร Skyy9
รักชนก: ไม่หวั่นการฟ้อง พร้อมเดินหน้าตรวจสอบ
นางสาวรักชนก ระบุว่า เธอและนายสหัสวัตถูกฟ้องคนละคดี นับเป็นผลสำเร็จในฐานะผู้แทนประชาชนที่ออกมาเปิดโปงเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ประกันตน แม้ว่าการตั้งคำถามเกี่ยวกับงบประมาณและความโปร่งใสของประกันสังคมจะนำไปสู่คดีความก็ตาม
“พวกเรายืนยันว่าไม่มีความกังวลใดๆ และเราจะเดินหน้าตรวจสอบต่อไป เพราะเรื่องประกันสังคมยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องเปิดเผยต่อสังคม” รักชนกกล่าว
เธอระบุด้วยว่า การตรวจสอบของเธอไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงถึงไม่ทราบรายละเอียดการลงทุนนี้
สหัสวัต: หน้าที่ สส. ต้องพูดทั้งในและนอกสภา
ด้านนายสหัสวัต คุ้มคง กล่าวว่า หน้าที่ของ สส. ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การอภิปรายในสภาเท่านั้น แต่ควรสามารถพูดได้ทุกที่ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน พร้อมยืนยันว่ามีหลักฐานเพียงพอ และมองว่าประเด็นนี้ควรได้รับการพูดถึงในสังคม
“มันเสียชาติเกิด ถ้าเป็น สส.แล้วรอพูดแต่ในสภา หรือตั้งกระทู้ถามอย่างเดียว เพราะบางครั้งคนถูกถามก็ไม่มาตอบ” นายสหัสวัตกล่าว
รักชนก: ประชาชนต้องได้คำตอบ
รักชนกยังตั้งคำถามถึงสังคมว่า หากเธอและนายสหัสวัตอยู่ข้างผู้ประกันตน แล้วฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามพวกเธออยู่ข้างใคร
“เราพูดเรื่องนี้เพราะไม่อยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก สำนักงานประกันสังคมต้องตอบคำถามประชาชนว่า การลงทุนเช่นนี้มีความคุ้มค่าหรือไม่ และควรมีแผนบริหารที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย” รักชนกกล่าว
ปัด “แม่เลี้ยงติ๊ก” เป็นผู้ให้ข้อมูล
เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ว่า นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือ “แม่เลี้ยงติ๊ก” เป็นผู้ให้ข้อมูล รักชนกชี้แจงว่า นางศิริวรรณเพียงแค่มาให้กำลังใจเท่านั้น และไม่ได้ระบุว่าเป็นผู้ให้ข้อมูล
มูลค่าความเสียหาย 50 ล้าน อยู่ที่ผู้ฟ้องประเมิน
เมื่อถูกถามว่าการฟ้องร้องมูลค่า 50 ล้านบาทเป็นจำนวนที่มากเกินไปหรือไม่ รักชนกตอบว่า เธอยังโดนน้อยกว่านายรังสิมันต์ โรม ซึ่งถูกฟ้องถึง 100 ล้านบาท
นายสหัสวัตกล่าวเสริมว่า มูลค่าความเสียหายเป็นสิทธิ์ของผู้ฟ้องร้องที่จะประเมิน แต่สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับประชาชนและผู้ประกันตนว่าจะมองเรื่องนี้อย่างไร