
ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาห้ามกรมธนารักษ์ขึ้นทะเบียนที่ดินพุทธมณฑล 2,500 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุ หลังพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นศาสนสมบัติกลางตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรมธนารักษ์ โดยมีคำสั่งห้ามกรมธนารักษ์ดำเนินการขึ้นทะเบียนที่ดินพุทธมณฑล เนื้อที่ 2,500 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ยื่นฟ้องกรมธนารักษ์ต่อศาลปกครองกลาง เนื่องจากกรมธนารักษ์มีแผนที่จะนำที่ดินพุทธมณฑลขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 ในขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวเป็นศาสนสมบัติกลางของพระพุทธศาสนา
ในการพิจารณาคดี ฝ่ายโจทก์ให้เหตุผลว่าที่ดินพุทธมณฑลได้รับการจัดซื้อและบริจาคเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มิใช่ทรัพย์สินของรัฐ ในขณะที่กรมธนารักษ์อ้างอิงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ระบุว่าที่ดินพุทธมณฑลเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อประโยชน์ด้านศาสนาและวัฒนธรรม จึงควรขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ
ศาลปกครองกลางได้พิจารณาข้อเท็จจริงและมีความเห็นว่า ที่ดินพุทธมณฑลถูกจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ทางพระพุทธศาสนา โดยได้รับเงินบริจาคจากประชาชน รวมถึงการเวนคืนของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการจัดสร้าง โดยมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสมบัติของรัฐ จึงถือเป็นศาสนสมบัติกลางตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และไม่เข้าข่ายเป็นที่ราชพัสดุตามกฎหมาย
ด้วยเหตุนี้ ศาลปกครองกลางจึงมีคำพิพากษาห้ามกรมธนารักษ์นำที่ดินพุทธมณฑลขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ และให้ยกคำขออื่นของจำเลยทั้งหมด