คัดลอก URL แล้ว
ศาลสหรัฐขวางทรัมป์! ระงับกฎหมายศัตรูต่างด้าว-ชะลอเนรเทศ

ศาลสหรัฐขวางทรัมป์! ระงับกฎหมายศัตรูต่างด้าว-ชะลอเนรเทศ

วอชิงตัน ดี.ซี. – ผู้พิพากษาเจมส์ อี. โบอาสเบิร์ก แห่งศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ มีคำสั่งระงับการดำเนินการของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่พยายามใช้ กฎหมายศัตรูต่างด้าว (Alien Enemies Act) เพื่อผลักดันการเนรเทศครั้งใหญ่ โดยเน้นเป้าหมายไปที่สมาชิกขบวนการอาชญากรรมชาวเวเนซุเอลา คำสั่งศาลดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายทรัมป์ประกาศดำเนินการตามกฎหมายที่มีอายุยาวนานกว่า 227 ปี

ผู้พิพากษาโบอาสเบิร์กระบุว่า ศาลจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากรัฐบาลเริ่มส่งผู้อพยพที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ถูกเนรเทศไปกักขังใน เอลซัลวาดอร์ และ ฮอนดูรัส โดยรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ตกลงที่จะรับผู้อพยพสูงสุด 300 คนที่รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าเป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรม

“ผมไม่สามารถรอได้อีกต่อไปและจำเป็นต้องออกคำสั่งนี้ทันที” ผู้พิพากษาโบอาสเบิร์กกล่าวระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น หลังจาก สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU) และองค์กร เดโมเครซีฟอร์เวิร์ด ได้ยื่นฟ้องต่อศาล

ความเคลื่อนไหวของทรัมป์และข้อถกเถียง

อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ให้เหตุผลว่ากลุ่มอาชญากรรมและก่อการร้าย เทรน เด อะรากัว (Tren de Aragua) จากเวเนซุเอลากำลังรุกรานสหรัฐ และอ้างอำนาจตามกฎหมายศัตรูต่างด้าวเพื่อเร่งกระบวนการเนรเทศโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ

กฎหมายศัตรูต่างด้าวถูกประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2341 (1798) และถูกนำมาใช้เพียงสามครั้งในประวัติศาสตร์ โดยครั้งล่าสุดคือช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อควบคุมตัวชาวเยอรมัน อิตาลี และชาวญี่ปุ่น-อเมริกันจำนวนมาก นายทรัมป์ยืนยันว่ากลุ่ม เทรน เด อะรากัว อยู่ในภาวะสงครามกับสหรัฐ และรัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อรับมือกับภัยคุกคาม

“รัฐบาลเวเนซุเอลาได้ยอมปล่อยให้กลุ่มอาชญากรรมควบคุมดินแดนของตน ผลลัพธ์คือการรุกรานที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา” นายทรัมป์กล่าว

คำสั่งของทรัมป์อาจเปิดทางให้รัฐบาลสามารถเนรเทศผู้อพยพที่ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกแก๊งโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบตามกฎหมาย และยังอาจส่งผลให้มีการเพิกถอนการคุ้มครองทางกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ข้อจำกัดด้านวีซ่าและผลกระทบระดับนานาชาติ

รายงานจาก ยูโรนิวส์ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาออกข้อจำกัดด้านวีซ่าสำหรับพลเมืองจาก 43 ประเทศ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มสีแดง (11 ประเทศ): ถูกระงับวีซ่าทุกประเภท เช่น อัฟกานิสถาน, ภูฏาน, คิวบา, อิหร่าน, ลิเบีย, เกาหลีเหนือ, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย, เวเนซุเอลา, เยเมน

กลุ่มสีส้ม (10 ประเทศ): ถูกระงับวีซ่าบางส่วน เช่น เบลารุส, เอริเทรีย, เฮติ, ลาว, เมียนมา, ปากีสถาน, รัสเซีย, เซียร์ราลีโอน, ซูดานใต้, เติร์กเมนิสถาน

กลุ่มสีเหลือง (22 ประเทศ): อาจถูกจำกัดวีซ่าหากไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาภายใน 60 วัน เช่น กัมพูชา, แคเมอรูน, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, ไลบีเรีย, มาลี, มอริเตเนีย, วานูอาตู, ซิมบับเว

คำสั่งของผู้พิพากษาโบอาสเบิร์กจึงถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความพยายามของทรัมป์ในการบังคับใช้กฎหมายศัตรูต่างด้าว และอาจมีผลกระทบต่อแผนจำกัดวีซ่าของรัฐบาลสหรัฐในอนาคต


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เพื่อการนำเสนอเนื้อหาที่ดี รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากคุณใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆนั้น แสดงว่าคุณยอมรับนโยบายคุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลของเรา