พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผู้กำกับโจ้” อดีตนายตำรวจชื่อดัง ผู้เคยเป็นที่จับตามองในแวดวงสีกากี ด้วยเส้นทางอาชีพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ชีวิตกลับพลิกผันจากคดี “คลุมถุงดำ” ซึ่งนำไปสู่การถูกจับกุมและจำคุก ก่อนจะจบชีวิตลงในเรือนจำคลองเปรม
เส้นทางตำรวจดาวรุ่ง
ธิติสรรค์เริ่มต้นอาชีพในกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด ก่อนก้าวขึ้นเป็นผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ด้วยผลงานโดดเด่นด้านปราบปรามยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ชื่อของเขาถูกจารึกในประวัติศาสตร์อาชญากรรมไทยจากคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิต
จุดพลิกผันจาก “คดีคลุมถุงดำ”
สิงหาคม 2564 คลิปวิดีโอปรากฏบนสื่อ แสดงให้เห็นผู้กำกับโจ้และลูกน้อง ใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหา เพื่อรีดข้อมูล จนนำไปสู่การเสียชีวิต เหตุการณ์นี้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่งผลให้เขาถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา
ชีวิตในเรือนจำ และจุดจบที่ไม่มีใครคาดคิด
หลังศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ธิติสรรค์ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำคลองเปรม เขามีอาการวิตกกังวลและหวาดระแวง ถูกแยกขังจากผู้ต้องขังทั่วไป จากรายงานของกรมราชทัณฑ์ระบุว่า ธิติสรรค์มีโรคประจำตัว ทั้งภาวะหัวใจสั่น ไขมันในเลือดสูง และโรคทางจิตเวชวิตกกังวล ซึ่งได้รับการรักษาและพบจิตแพทย์อย่างต่อเนื่อง
วันที่ 7 มีนาคม 2568 ช่วงเที่ยง ธิติสรรค์ได้รับการเยี่ยมจากภรรยา โดยเจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อเวลา 20.25 น. เจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์ขณะเดินไปจ่ายยาประจำตัว พบว่าเขานั่งหลังพิงประตูห้องขัง และไม่ตอบสนองเมื่อเรียก เมื่อเปิดห้องขังพบว่าเขาใช้ผ้าขนหนูขนาดเล็กผูกคอกับประตูห้องขัง ไม่มีชีพจร ปลายนิ้วมือซีดเขียวคล้ำ
การตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าทางเดินห้องขังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าออกห้องดังกล่าว ทางกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าไม่มีเจ้าพนักงานเรือนจำหรือผู้ต้องขังรายใดทำร้าย และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที
บทเรียนจากคดีอื้อฉาว
จากนายตำรวจอนาคตไกล สู่จุดจบในคดีทรมานผู้ต้องหา “ผู้กำกับโจ้” กลายเป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนถึงปัญหาการใช้อำนาจในระบบตำรวจไทย และเป็นเครื่องเตือนใจถึงผลลัพธ์ของการกระทำที่ผิดพลาด