วันที่ 6 มีนาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธให้ความเห็นภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. มีมติรับ คดีฮั้วเลือกตั้งสว.ในฐานความผิดฟอกเงิน ว่า เรื่องนี้มาถามตนก็ผิดแล้ว ต้องไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มติออกมาเป็นอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น
ส่วนจะส่งผลต่อการทำหน้าที่ของสว.และการทำงานร่วมกันของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆเลย ขออย่าไปผูกกัน ใครที่เกี่ยวข้องก็มีวิธีการสอบสวน คนที่ถูกกล่าวหาก็ไปแก้ข้อกล่าวหา แก้ได้ก็ไม่มีปัญหา แก้ไม่ได้ก็ผิดแค่นั้นเอง หากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ไม่สอบ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต และตำรวจ ก็ทำหน้าที่สอบ มีกฎหมายอยู่แล้ว
ส่วนจะทำให้เกิดการชะงักงันในการทำหน้าที่ของสว.หรือไม่ นายินุทิน กล่าวว่า ตนไม่ทราบขั้นตอน ระเบียบเรื่องพวกนี้ และไม่เกี่ยวข้อง กับกระทรวงมหาดไทย และ 4 กระทรวงที่ตนกำกับดูแล ต้องไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
เมื่อถามย้ำว่าจะมีผลต่อการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่เนื่องจาก การผ่านกฎหมายจะต้องใช้เสียงของสว. นายอนุทินย้ำว่าไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร สว.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้ามีคนสงสัย กฎหมายเขียนไว้อยู่แล้วที่มาของการเลือกตั้งเป็นอย่างไร โดยหลักต้องเป็นหน้าที่ของกกต. แต่ที่ได้รับข่าวมาวันนี้ ก็ไม่เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง เรื่องฟอกเงินก็ต้องไปดูเรื่องการสืบสวนสอบสวน
นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมามีการวิเคราะห์ว่าจะเกิดปัญหา นักวิเคราะห์ทั้งหลายวิเคราะห์ผิดหมด บางครั้งตนก็ไถฟีดดู สื่อโซเชียล วิเคราะห์ผิดแทบทุกช่อง ก่อนที่นายอนุทิน จะหัวเราะนักวิชาการ ทั้งหลาย วิเคราะห์ไม่เห็นตรงสักเรื่อง บทวิเคราะห์ผิดๆ มาแพร่ในสื่อมันไม่เป็นผลดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ดีเอสไอ ไม่รับคดีฮั้วเลือกสวเป็นคดีพิเศษ เป็นเพราะดีล 4 ผู้ทรงอิทธิพลเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าใช่หรือไม่ นายอนุทิน ชิงตอบขึ้นมาทันทีว่า นี่แหละ ก็หลอกถามอยู่นั่นแหละ เกี่ยวอะไร ตนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสว. พูดไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ไม่รู้จะตอบอย่างไรแล้ว ถามว่าตนมีเพื่อนเป็นสว.ไหม เพียบ สมัยก่อนไปประชุมสภาเบื่อกินข้าวกับสส.ก็เดินข้ามไปกินข้าวกับสว. วันนี้ไม่กล้าไปกินแล้วเดี๋ยวหาว่าไปยุ่งวุ่นวาย ทำให้ทุกอย่างเดือดร้อน ทุกวันนี้ต้องไปหาข้าวกินริมคลองหลอด
ส่วนหลังจากนี้ไปจะต้องระวังตัวในการพบกับสว.ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ระมัดระวังตัว แต่เดี๋ยวจะมีวิเคราะห์อีก วิเคราะห์ผิดตนก็ซวย ช่วงนี้กำลังมีเรื่องร้อนอยู่ ไม่ต้องไปดีกว่า
ส่วนได้มีการโทรศัพท์หา พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา เพื่อให้กำลังใจแล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า โทรศัพท์ คุยกันทุกวัน ไม่ต้องให้กำลังใจ มั่นใจ ประวัติการทำงานของ พลเอกเกรียงไกร ไม่เป็นอั้งยี่ซ่องโจร ใครพูดอะไรก็แล้วแต่ ไม่เชื่อเด็ดขาด ตนก็ต้องมั่นใจเพื่อนของตน
ส่วนที่กลุ่มสว.ยื่นเอาผิดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เกี่ยวของกับประเด็นการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าว ว่า ตนไม่เคยถาม และถามไม่ได้ และถ้าถามไปจะถูกถามว่ามายุ่งอะไร เนื่องจากมีขั้นตอนและกระบวนการอยู่แล้ว ขณะนี้เหมือนต่างคนต่างกล่าวหากันแล้ว ก็ว่ากันไป มีหน่วยงานที่ชี้แจงอยู่แล้วแต่อย่ามายุ่งกับรัฐบาล ก่อนตัดพ้อสื่อฯว่า เวลาตนพูดถึงเรื่องความชัดเจนก็ไม่เคยลงข่าว ตนเป็นคนแรกที่ออกมาพูดให้ความมั่นกับทุกฝ่ายว่าภูมิใจไทยพร้อมสนับสนุนรัฐมนตรีทุกคน ก่อนที่จะรู้ญัตติ ว่าจะอภิปรายนายกฯคนเดียว ก่อนย้ำว่าอย่าให้ผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และยิ่งอภิปรายนายกรัฐมนตรี คนเดียว ก็ยิ่งแสดงความให้เห็นถึงความสามัคคีของพรรคร่วม และพรรคร่วมรัฐบาล ก็พร้อมที่จะชี้แจงหากถูกพาดพิง แสดงถึงความเป็นปึกแผ่นและมั่นึงของรัฐบาล โดยขอให้รอดูตอนลงมติ ซึ่งมั่นใจว่านายกฯจะชี้แจงได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าดูเหมือนว่าสบายใจที่ดีเอสไอ ไม่รับคดีฮั้วสว.เป็นคดีพิเศษ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นธรรมดา เพราะเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงกัน
โดยระหว่างที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ มีหญิงสูงวัย ชื่อนางสมนึก ธิลาลักษณ์ มาร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องบัญชีธนาคารออมทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งนางสมนึก ได้มาร้องเรียนที่กระทรวงมหาดไทยเป็นประจำ โดยนายอนุทินได้พานางสมนึกไปยังศูนย์ดำรงธรรม และให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ และระหว่างนั้น นางสมนึกได้ร้องเพลงให้นายอนุทิน ฟังด้วย
ขณะเดียวกันก่อนที่นายอนุทินจะเดินขึ้นห้องทำงาน ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า พลเอกเกรียงไกร อยู่ด้านบน ให้สื่อไปสัมภาษณ์ และได้เรียกพลเอกเกรียงไกร มาให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าวด้วย