\ พลตรี ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม กรมพระธรรมนูญ ณ อาคารเทิดราชา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน)
ในการนี้ พลเรือเอก สุพพัต ยุทธวงศ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พลอากาศเอก สุรฤทธิ์ กิจจาทร รองปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอก พิสิษฐ์ นพเมือง เจ้ากรมพระธรรมนูญ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา ให้การต้อนรับ
การตรวจเยี่ยมครั้งนี้ รอง นรม. เเละ รมว.กห. ได้รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับภารกิจสำคัญของกรมพระธรรมนูญ พร้อมเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญในการ “ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม” ซึ่งเป็นหัวใจของกระบวนการยุติธรรมของทหาร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และปราศจากอิทธิพลภายนอก
“ความยุติธรรมและจริยธรรมเป็นหัวใจสำคัญของกรมพระธรรมนูญ กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ต้องถูกบังคับใช้อย่างเป็นกลาง โดยปราศจากอิทธิพลหรือแรงกดดัน” นายภูมิธรรมฯ กล่าว พร้อมชี้ให้เห็นว่า “กระบวนการยุติธรรมที่เที่ยงตรงและโปร่งใส จะสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพของกองทัพในสายตาของประชาชน”
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการ ปรับปรุงกฎระเบียบให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมาตรฐานสากล โดยเน้นว่า กฎหมายที่ล้าสมัยหรือเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน ควรได้รับการทบทวนและปรับปรุง ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของกรมพระธรรมนูญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปกฎหมายของกระทรวงกลาโหม
“กรมพระธรรมนูญต้องมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการยุติธรรมของทหาร กฎหมาย และบุคลากร ให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และสอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อประโยชน์ของกำลังพล ประชาชน และประเทศชาติ”
พร้อมกันนี้ยังได้แสดงความชื่นชมและให้กำลังใจแก่กำลังพลของกรมพระธรรมนูญที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ยึดมั่นในหลักนิติธรรม พร้อมกล่าวยกย่องถึงบทบาทสำคัญของ “นายทหารเหล่าพระธรรมนูญมืออาชีพ”
“นายทหารเหล่าพระธรรมนูญ ไม่เพียงเป็นทหาร แต่ยังเป็นนักกฎหมายที่มีบทบาทสำคัญในการรักษากฎระเบียบและหลักนิติธรรมของกระบวนการยุติธรรมทหาร การปฏิบัติหน้าที่ทั้งสองบทบาทไปพร้อมกันไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านต้องมีทั้งความกล้าหาญ ความรอบคอบ และความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของนายทหารพระธรรมนูญมืออาชีพ”
ก่อนจบการตรวจเยี่ยม นายภูมิธรรมฯ ได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม พร้อมให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายของกองทัพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมของทหาร ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม และเป็นที่เชื่อถือและยอมรับจากสังคมต่อไป
