
รองนายกฯ ภูมิธรรม สั่งกองทัพบกเร่งตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ศาลาตรีมุข สามเหลี่ยมมรกต ว่าเกิดจากมนุษย์หรือภัยธรรมชาติ ย้ำใช้การเจรจากับกัมพูชาเป็นหลัก
6 มีนาคม 2568 – พลตรี ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณี เพลิงไหม้ศาลาตรีมุข หรือ “ศาลารวมใจ” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุการณ์เกิดจากภัยธรรมชาติหรือเป็นฝีมือมนุษย์
ทหารไทยและกัมพูชาได้ขึ้นพื้นที่ตรวจสอบร่วมกัน เนื่องจากจุดนี้เป็นพื้นที่สำคัญซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2534 โดย พลโท อิสระพงศ์ หนุนภักดี (ยศในขณะนั้น) แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อใช้เป็นจุดประสานงานร่วมกันระหว่าง ไทย ลาว และกัมพูชา
โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งให้กองทัพบกตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบ พร้อมเน้นย้ำให้ ใช้แนวทางการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกันความขัดแย้ง
หารือกลาโหมอาเซียน ไทย-กัมพูชายืนยันใช้การเจรจา
พลตรี ธนาธิป กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุม รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ไทยและกัมพูชาได้หารือเกี่ยวกับการกระทบกระทั่งตามแนวชายแดน และเห็นพ้องกันว่า หากเกิดปัญหาต้องใช้การเจรจาและสร้างความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ เช่น การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการพนันข้ามชาติ
ยังไม่ชี้ชัดเป็นฝีมือทหารกัมพูชา
เมื่อถูกถามถึงข้อสงสัยว่า ศาลาตรีมุขถูกเผาโดยทหารกัมพูชาหรือไม่ พลตรี ธนาธิป ระบุว่า ขณะนี้ยังต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง และย้ำว่าทุกอย่างต้อง ยุติด้วยการเจรจาทางการทูต หากมีฝ่ายใดละเมิดข้อตกลง ก็ต้องหารือกันเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจบานปลาย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก แต่เรายังมีเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการ เช่น การนำตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากปอยเปตกลับมายังฝั่งไทย ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง” พลตรี ธนาธิป กล่าว