
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กำชับทุกหน่วยงานเข้มงวดมาตรการควบคุมฝุ่น PM 2.5 พร้อมติดตามสถานการณ์ไฟป่า-หมอกควันต่อเนื่อง เร่งบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผา
วันนี้ (4 มีนาคม 2568) เวลา 10.00 น. กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) จัดประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ณ ห้องประชุมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยมีผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม พร้อมกำชับให้ทุกพื้นที่เร่งดำเนินมาตรการควบคุมฝุ่นจากแหล่งกำเนิดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการป้องกันการลักลอบเผาในพื้นที่ป่าและเกษตรกรรม
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน คุณภาพอากาศโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่มีบางพื้นที่ โดยเฉพาะใน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน เช่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ที่มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับ สีแดง ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับปลอดภัย คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นภายในวันที่ 7 มีนาคม 2568
ไฟป่าและจุดความร้อนยังน่าห่วง
วันนี้พบ จุดความร้อน 788 จุด มากที่สุดในจังหวัด ตาก ลำปาง ลำพูน พะเยา และอุตรดิตถ์ โดยส่วนใหญ่อยู่ใน พื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ ซึ่งกรมป่าไม้ได้ระดมกำลังเข้าดับไฟป่ากว่า 3,275 ครั้ง และดำเนินคดีผู้เผาป่าแล้ว 28 คดี
สำหรับพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พบจุดความร้อน 132 จุด โดยแบ่งเป็น
- ภาคเหนือ: 128 จุด
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: 3 จุด
- ภาคใต้: 1 จุด
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงมีคำสั่งปิดป่าแล้ว 138 แห่ง พร้อมกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้ความรู้กับชุมชนรอบป่า 1,750 ชุมชน และจัดทำข้อตกลง (MOU) กับชุมชน 75 แห่ง เพื่อป้องกันการเผาป่า
มาตรการในภาคเกษตร ลดเผาอ้อยกว่า 36,000 ตัน
แม้ว่าจำนวนจุดความร้อนในพื้นที่เกษตรกรรมลดลงจากวันก่อน แต่วันนี้ยังพบ 209 จุด โดยแบ่งเป็น
- พื้นที่เกษตรกรรม: 126 จุด
- พื้นที่ ส.ป.ก.: 83 จุด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนในโครงการ ส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการไถกลบใบอ้อยแทนการเผา ลดการเผาอ้อยได้แล้วกว่า 36,000 ตัน
จังหวัดอุบลฯ ยกระดับมาตรการ คุมเข้มป่า-เมือง-เกษตร
จังหวัดอุบลราชธานีที่พบค่าฝุ่นระดับสีแดง ได้มีมาตรการเข้มข้น
🔹 ปิดป่าอนุรักษ์ 4 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ, วนอุทยานน้ำตกผาหลวง, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก – ยอดมน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม
🔹 ดับไฟป่าแล้ว 271 ครั้ง และสร้างแนวกันไฟระยะทางกว่า 245 กิโลเมตร
🔹 ส่งเสริมเทคโนโลยีลดการเผา ครอบคลุมพื้นที่ 309,971 แปลง ลดการเผาไปแล้วกว่า 13.8 ล้านไร่
🔹 ตรวจโรงงาน โครงการก่อสร้าง และยานพาหนะ เพื่อลดการปล่อยฝุ่น
ปภ. ร่วมกองทัพภาคที่ 3 ใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ดับไฟป่าเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 ปภ. ได้ร่วมกับกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 3 ใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ทำภารกิจบินทิ้งน้ำดับไฟป่าที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จ.เชียงใหม่ รวม 11 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 33,000 ลิตร
สั่งเดินหน้ามาตรการเข้มทุกพื้นที่
นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ย้ำว่า ทิศทางลมและสภาพอากาศเป็นปัจจัยภายนอก แต่การควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่นเป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการ บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาอย่างจริงจัง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เตรียมสรรพกำลัง เจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัย สนับสนุนพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมสถานการณ์ และปกป้องสุขภาพประชาชน พร้อมติดตามสถานการณ์และแจ้งข้อมูลให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องผ่าน
📌 Facebook: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
📌 X (Twitter): @DDPMNews
📌 สายด่วนนิรภัย: ☎️ 1784 (24 ชั่วโมง)
📌 LINE: @1784DDPM