ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะประธานอนุกรรมการ เปิดเผยภายหลัง ร่วมประชุมเกี่ยวกับคดีฮั้วเลือก สว. ปี 67 ว่า ที่ประชุมเห็นเป็นเอกฉันท์ว่ามีความผิดอาญาเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (อั้งยี่) มาตรา 116 (ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ) มาตรา 77 (1) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ
ทั้งนี้จะนำเสนอต่อบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ.ในวันที่ 6 มี.ค.เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ ทั้ง 2 กรณี โดยกรณีที่ 1 คือ กรณีการกระทำความผิดทางอาญาอื่นที่เกิดขึ้นจากการอั้งยี่ รวมทั้งการกระทำความผิดที่เป็นการได้มาซึ่ง สว. ส่วนกรณีที่ 2 คือ ความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการคดีพิเศษ
สำหรับแนวทางการทำงาน หลังมีการพิจารณาของบอร์ด กคพ. หากรับเป็นคดี กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดจะมีการตั้งคณะกรรมการคดีพิเศษ เพื่อทำคดีนี้ แต่หากไม่รับเป็นคดีพิเศษ ก็จะมีการส่งสำนวนต่อ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง