วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ภายหลังการหารือร่วมกันระหว่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ พลเอก อ่อง จอจอ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่สนามบินแม่สอด จ.ตาก เพื่อรับฟังสรุปแผนการปฎิบัติงาน
จากนั้น ทััง 3 คน ได้จับมือกันเพื่อแสดงให้เห็นว่าภารกิจทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะเกิดความร่วมมือจาก 3 ประเทศ และมีการมอบหมายให้ นายภูมิธรรม เป็นคนแถลงข่าว
โดย นายภูมิธรรม แถลงว่า มาครั้งนี้ติดตามการร่วมมือ ซึ่งทั้ง 3 ฝ่ายได้คุยกันทั้งหมดแล้วว่าการทำงานร่วมกันครั้งนี้ มีการวางแผนทำล่วงหน้าเป็นเดือนๆ แล้ว และคุยกันในระดับรัฐมนตรีมาจนถึงวันนี้ บางทีเวลาที่ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มาพื้นที่แล้วไม่มีฝ่ายนโยบายปรากฏตัว ก็เพราะเราคุยกันเรื่องการทำงานแล้ว ไม่ใช่เข้าใจผิดว่าจีนมีอำนาจมาสั่งการต่างๆ ซึ่ง นายหลิว จงอี ได้ให้ตนประชาสัมพันธ์ว่าเขายินดีให้เราแจ้งให้สื่อทราบ และขอโทษ กับความมุ่งมั่นที่เขาอยากแก้ปัญหาให้เร็ว จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในประเด็นนี้ ดังนั้นขอให้เข้าใจและช่วยเคลียร์ด้วย ไม่งั้นจะเสียหายต่อความร่วมมือ 3 ส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ เนื่องจากมันเกี่ยวพันกับชายแดน และหลายกระบวนการ ดังนั้นถ้าไม่จับมือร่วมกัน ก็คงเป็นไปไม่ได้ และทุกฝ่ายจะเคารพอธิปไตยของแต่ละประเทศ รวมถึงปฏิบัติตามกฏหมายท้องถิ่นของแต่ละประเทศอย่างเต็มที่
การมาครั้งนี้เป็นรูปธรรม มีความร่วมมือของ 3 ฝ่าย หลังจากนี้ภายใน 1 สัปดาห์ หรืออาจมากกว่านี้ จะมีการพูดคุยไตรภาคีระดับรัฐมนตรี 3 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้ พลเอก อ่อง จอจอ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะบินกลับแล้ว พร้อมเมื่อไหร่เขาจะมาทันที ส่วน นายหลิว จงอี ติดภารกิจนิดหน่อย ถ้าเรียบร้อยเขาก็ให้เราเป็นคนจัดการ โดยปลัดกลาโหม ได้ประสานกระทรวงต่างประเทศแล้ว ขณะนี้มีการเตรียมการหมดแล้ว
สำหรับวันนี้ขอยืนยันอีกครั้งไทยจะรับเหยื่อชุดนี้เป็นชุดสุดท้าย ตามข้อตกลงที่คุยกัน หลังจากนี้ยังมีความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่ใช่ขัดแย้งกัน ก็จะมีการคุยกันในไตรภาคี ให้ตกลงกันให้ได้ในไตรภาคี ซึ่งเขาเล่ากระบวนการให้ฟังว่าตั้งแต่ออกจากที่เมียนมา ก็มีกระบวนการทั้งหมดจัดการ
ส่วนเรื่องไบโอเมทริกซ์ ก็มีการดำเนินการ อย่าให้ใครมาเที่ยวพูดว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำไบโอเมทริกซ์ ไม่ได้ เพราะโทษถึงขั้นสูงสุด อย่าคิดว่าพวกเราเอาชีวิตไปเสี่ยง เพราะฉะนั้นทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายทั้งสิ้น
อีกเรื่องที่ตนไม่สบายใจที่มีการพูดว่าชาวอุยกูร์ติดไปด้วยตรงนี้นั้น สื่อสามารถตรวจสอบได้ เพียงแต่การที่ไม่ได้ให้เข้ามาถ่ายภาพ เพราะไม่อยากให้ถ่ายใบหน้า มันเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน คนเหล่านี้มีปะปนกันไป และกระบวนการทั้งหมดเราตรวจสอบอย่างเต็มที่ และทั้ง 3 ประเทศ จะตรวจสอบและให้ข้อมูลกันและกัน ขณะเดียวกันไทยยังไม่อนุญาตให้มีการตั้งสำนักงาน ขอเจรจาคุยกัน 3 ฝ่ายไปก่อน โดยไทยเป็นหลักในการให้เข้าและออก
ทั้งนี้ การตรวจสอบที่ชายแดนเมียนมา จนจบกระบวนการ มีเจ้าหน้าที่ไทยเข้าร่วมตรวจสอบด้วย และมีกระบวนการเหมือนกับการให้คนเข้าเมือง ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ตามหลักสิทธิมนุษยชน
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังหยิบเอากฎหมายที่เราเคยใช้ในปี 2548 มาใช้ เพื่อตั้งหัวขบวน อาจเป็นเหมือนศูนย์ ศปช. และมีผู้ดำเนินการทั้งหมด ขณะนี้ใช้กลไกให้แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นซิงเกิ้ลคอมมาน ถ้าหากออกมาแล้วก็จะเป็นองค์กรที่มีกลไกชัดเจน จะมีโฆษกชี้แจง ให้ข้อมูลสื่ออย่างต่อเนื่อง มีทั้งทหาร ตำรวจ และกระทรวงต่างประเทศ
นายภูมิธรรม ยืนยันอีกว่า ชาวจีนที่ผ่านออกไปต้องผ่านกระบวนการทั้งหมด ไม่มีลัดขั้นตอนเพราะจะมีโทษทางกฎหมาย ในมาตรา 119 ซึ่งชุดที่ออกไปนี้ ถือเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้อีก และไม่ขอใช้คำว่าจะมีการขึ้นแบล็คลิสต์หรือไม่ แต่ย้ำว่าไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ขณะที่ผลการคัดกรองชาวจีน 200 คน ในวันนี้ปรากฏว่าเขาเป็นเหยื่อหรืออาชญากรหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังไม่ขอตอบ
สำหรับภารกิจวันนี้จบวันนี้ ถ้าจะเข้ามาใหม่ก็ต้องดำเนินการคัดกรองให้แล้วเสร็จ ซึ่งทางเมียนมายืนยันว่า จะรีบส่งรายชื่อให้กับทางการไทย ตนจึงได้ตอบกลับให้เร่งส่งรายชื่อเข้ามาทันที ก่อนที่จะข้ามมา ซึ่งไทยจะขอตรวจสอบอย่างละเอียด แต่หากไทยตรวจสอบแล้วก็ต้องอยู่ฝั่งเมียนมาไปก่อน จนกว่าไทยจะติดต่อประเทศที่เกี่ยวข้องได้ และนำเครื่องบินมารับ โดยเฉพาะประเทศอื่นๆ จะต้องมีการประสานเอกอัครราชทูต ซึ่งหลายประเทศได้มีการพูดคุยกับประเทศไทย และได้มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีช่องทางในการติดต่อเอาคนออกมาจากเมียนมา ยืนยันว่าการดำเนินการของไทยในครั้งนี้ได้รับคำชื่นชมจากนานาชาติ และประชาคมโลก ว่าไทยจะสามารถช่วยเหลือประเทศต่างๆ ได้
ส่วนมาตรการนี้จะใช้ระยะเวลาอีกเท่าไหร่ เพราะขณะนี้รวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 3,000 คนแล้ว นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกอย่างอยู่ที่กระบวนการหากเสร็จสิ้นก็สามารถกลับได้เช่นเดียวกับคนสัญชาติจีนในวันนี้
ส่วนมาตรการตามแนวชายแดน จะซีลเข้มข้นหรือไม่ เพราะจากการลงพื้นที่ชาวบ้านยังพบการลักลอบขนส่งสินค้าไปยังจังหวัดเมียวดี รวมถึงการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จากไทย นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ขณะนี้ได้เตรียมการทั้งหมดไว้ และอยู่ในกระบวนการที่สามารถจัดการได้ ส่วนจะเข้มข้นหรือไม่ อยู่ที่การประเมินผล
ส่วนการส่งรายชื่อจากฝั่งเมียนมาให้ไทย มีกี่รายแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ขอตอบ
ส่วนชาวแอฟริกาที่ตกค้าง ไทยมีแผนรองรับอย่างไร นายภูมิธรรม ย้ำว่า แผนคือให้ติดต่อและนำตัวกลับ ถ้ายังไม่นำตัวกลับก็ต้องให้อยู่ฝั่งเมียวดี อย่างไรก็ตามจะต้องมีการสรุปว่าสถานทูตใดมีการติดต่อมายังประเทศไทยแล้ว และย้ำว่าจะใช้แนวทางตามที่ได้ปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งจะไม่มีการรับเข้ามาในประเทศไทย แต่จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกเพื่อช่วยเหลือ หากมีคนพร้อมรับกลับก็พร้อมที่จะให้เข้าประเทศไทย
นายภูมิธรรม ยังย้ำต่อว่า การตั้งศูนย์ศปช. ส่วนหน้า จะรีบตั้งภายในไม่กี่วันนี้ โดยที่ตนจะเป็นคนเสนอให้นายกรัฐมนตรีได้เซ็นคำสั่งนี้ โดยไม่ต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีกระบวนการของเจ้าหน้าที่มีกฎหมายรองรับ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะได้สบายใจ และรัฐบาลจะได้ดำเนินการให้ชัดเจน