วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีคลิปภาพ และเสียงการสนทนากับนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่า ตนพูดหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้นายสุชาติ ไม่ได้เดินทางมาที่บ้านเอง และตนไม่ได้เป็นคนนัดหมาย คนที่นัดหมายคือ พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ขอไม่ลงในรายละเอียด โดยที่ผ่านมาก็มีความพยายามจะนัดตนหลายครั้ง กระทั่งตนว่าง พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ก็เดินทางมา ซึ่งตนไม่เคยรู้จักนายสุชาติ พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์เป็นคน แนะนำตัวนายสุชาติ ตนก็ถามกลับว่า พูดคุยกันแล้วหรือ เพราะเห็นมีเรื่องฟ้องร้องกัน พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ก็ตอบกลับมาว่า พูดคุยตกลงกันแล้ว และต้องการจะถอนเรื่องที่มีการฟ้องนายสุชาติ
โดยประเด็นที่พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ปฏิเสธว่า ไม่ได้เดินทางไปด้วย และไม่ได้เป็นคนถ่ายคลิปที่บ้านตน มีตำรวจ 4-5 นาย ตั้งแต่รองผู้กำกับการ จนถึงสารวัตร ซึ่งมีหน้าที่ถ่ายรูปไว้ เวลาคนมาบ้าน ซึ่งวันที่พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ มาก็มีการถ่ายรูปเช่นกัน แต่คิดว่าพลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์คงไม่ทราบ แล้วพลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ทำไมถึงกล้าปฏิเสธได้อย่างไร และที่อ้างว่าในวงสนทนาไม่ได้อยู่ด้วย ภาพในโซเชียลมีเดียขณะนี้ ก็เห็นชัดเจนแล้วว่า นั่งกัน 3 คน ไม่ใช่นั่งกัน 2 คน
นอกจากนี้ชุดที่พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ใส่ในภาพที่ตำรวจถ่ายเมื่อเทียบกับในคลิปภาพก็เหมือนกัน จึงไม่รู้ว่าพลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์จะปฏิเสธไปทำไม ความจริงคือความจริง หนีไม่พ้นหรอก
เมื่อถามว่า คลิปที่ปล่อยออกมาไม่ได้เป็นการเขย่าเก้าอี้ประธานสภาใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า ตนไม่เกี่ยวอะไร แต่พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ที่เป็นคนพานายสุชาติมา มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ต้องไปถามเหตุผลจากพลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ แต่เมื่อบิ๊กต๊อกบอกว่าไม่ได้ไปและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ก็ขอให้ไปดูภาพและคลิปที่มีการออกข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งหากดูคลิปไม่พอ ต้องการพยานบุคคล ตำรวจที่บ้าน 4-5 นาย พร้อมที่จะเป็นพยาน ซึ่งขณะนี้ตำรวจไซเบอร์เรียกไปให้ข้อมูล และสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่บ้านนั้น วันที่เกิดเหตุเป็นช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งวงจรปิดที่บ้านจะบันทึกภาพได้แค่เดือนเดียว และจะบันทึกภาพทับใหม่แต่ละเดือด แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะภาพถ่าย และพยานบุคคล ซึ่งจะไม่เชื่อถือได้อย่างไร เนื่องจากเป็นตำรวจท้องที่ และก็ยังมีภาพวงจรปิดบริเวณโดยรอบอีก แต่ก็คงไม่ต้องถึงขั้นตรวจสอบอะไรมาก เพราะยังไม่เสียหาย แต่ตนต้องป้องกันตัวเองว่า พูดจริง ไม่ได้โกหก และประธานสภาโกหกไม่ได้ จริงคือจริง ไม่จริงคือไม่จริง 2 คนก็บอกว่า 3 คน เพราะสุดท้ายแล้วทุกอย่างพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคล
เมื่อถามต่อว่า หลังจากนี้เก้าอี้ประธานยังคงเหนียวแน่น นายวันมูหะมัดนอร์ ถามกลับว่า เลื่อยทำไมเก้าอี้ประธานสภา ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย
ส่วนจะดำเนินคดีกับผู้ที่ปล่อยคลิปหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ บอกว่า ให้ความเมตตาดีกว่า แต่หากมีการดำเนินการเพิ่มเติมให้ตนเสียหาย หรือรัฐสภาเสียหายก็จะพิจารณาอีกครั้ง