
รองนายกฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ใช้อำนาจฝ่ายความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าพื้นที่ชายแดนเมียนมา ชี้กระทบความมั่นคงสามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องนำเข้า ครม.
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงมาตรการระงับการจ่ายไฟฟ้าบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา โดยยืนยันว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีอำนาจดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) ที่ส่งไฟฟ้าไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก และสัญญาอื่น ๆ รวม 5 จุด มีเงื่อนไขให้ กฟภ. สามารถระงับการจ่ายไฟได้หากพบว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคง
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตามระเบียบของ กฟภ. และหนังสือกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 31 มกราคม 2568 กำหนดให้สามารถงดจ่ายไฟได้หากมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคงของประเทศ ซึ่งรวมถึงกรณีที่พบว่ามีการใช้ไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนขบวนการผิดกฎหมาย เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับประชาชนชาวไทย
รองนายกฯ ย้ำว่า กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเสนอให้ ครม. พิจารณาเพิ่มเติม พร้อมสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทันที หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ละเลย หรือไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง ตนจะใช้อำนาจดึงตัวมาช่วยราชการ
นอกจากนี้ นายภูมิธรรมยังระบุว่า ตนได้สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กระทรวงการต่างประเทศ ตำรวจ และฝ่ายทหาร ร่วมประสานกับ กฟภ. เพื่อดำเนินมาตรการตัดไฟในพื้นที่ที่ได้รับรายงานว่ามีการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงผิดปกติ พร้อมเตรียมลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และดูแลมาตรการป้องกันชายแดน
เมื่อถูกถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเมืองเมียวดี ซึ่งรับไฟฟ้าจากไทยกว่า 90% นายภูมิธรรมกล่าวว่า เมียนมาต้องรับผิดชอบต่อพื้นที่ของตนเอง หากปล่อยให้เป็นแหล่งปัญหาที่กระทบความมั่นคงของไทย ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไทยจะไม่ยอมให้ปัญหานี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีมาตรการจัดการที่ชัดเจน