คัดลอก URL แล้ว
“เต้” ไม่ท้อ คดีไม่ทิ้ง! เตรียมส่งโดรนสำรวจใต้แม่น้ำเจ้าพระยา หาหลักฐาน “คดีแตงโม” เพิ่ม

“เต้” ไม่ท้อ คดีไม่ทิ้ง! เตรียมส่งโดรนสำรวจใต้แม่น้ำเจ้าพระยา หาหลักฐาน “คดีแตงโม” เพิ่ม

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ “เต้” ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากมอบพยานหลักฐานใหม่คดีแตงโมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ โดยใช้เวลาในการให้ข้อมูลนานกว่า 4 ชม.

นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า เมื่อสักครู่ที่อยู่ในห้องสอบสวนกับพนักงานสอบสวนของดีเอสไอถือว่าเป็นการสอบเครียดเลยสำหรับตน ซึ่งตนได้นำภาพกล้องวงจรปิดที่ได้จากส่วนราชการและเอกชนที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย 36 จุด ได้ส่งให้กับพนักงานสอบสวนของดีเอสไอแล้ว

โดยสิ่งที่ยืนยันว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ ในการสืบครั้งนี้ก็คือ วงจรปิดของกรมทางหลวงชนบทกระทรวงคมนาคม ในส่วนของเวลา 22.07 น. หรือปรับเวลา 22.01 น. ที่ใต้สะพานซังฮี้ ขากลับจากสะพาน พระราม 8 อีกส่วนหนึ่งที่มีการยืนยันคือกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือบริษัทพิบูลทัศน์ ว่าบริเวณท้ายเรือไม่มีอะไรผิดปกติ อีกส่วนคือการยืนยันกล้องวงจรปิดที่ได้จากกรมเจ้าท่าเป็นกล้องวงจรปิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตซึ่งเวลา 22.34.00 (22 นาฬิกาสามสิบสี่นาที ) -22.34.30 (ยี่สิบสองนาฬิกาสามสิบสี่นาทีสามสิบวินาที) ไม่มีอะไรผิดปกติในบริเวณท้ายเรือเพราะฉะนั้นในกระบวนการนี้ เป็นกระบวนการชั้นต้น ยังต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านแสงและเงาของดีเอสไอยืนยันอีกรอบหนึ่ง

รวมถึงยังมีในส่วนของที่จะให้การเพิ่มเติมในส่วนของกล้องวงจรปิดที่ได้มาจากร้านกระแชงมอญ ที่ปทุมธานีสามโคก โดยให้นำสืบในส่วนของคนที่ขับเจ็ตสกี 4 ลำ ที่นำเรือแตงโมไปในช่วงเวลา 20.30 น. ว่าตกลงมาด้วยกันหรือไม่ ไปจนถึงในจุดที่สัญญาณมือถือของแตงโมหายไป คือเวลา 20.36 น. ซึ่งเชื่อว่าพนักงานสอบสวนคงจะดำเนินการในเรื่องต่อไป

โดยประเด็นสำคัญคือพนักงานสอบสวนชุดเก่าเขาก็อาจจะทำเต็มที่ของเขาแล้ว แล้วเค้ามองว่าภาพด้านขวามีคนอยู่ท้ายเรือ มองว่าเรื่องนี้เป็นดุริยของพนักงานสอบสวน ซึ่งตอนนั้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งกล้องตัวที่อยู่ตรงบริเวณสะพานซังฮี้ตนได้มานานแล้วเพียงแต่ว่าเราไปมุ่งประเด็นที่ท่าเรือเทเวศและ บริเวณตรงคลองบางกรวยคลองชลประทานส่งน้ำ ที่ตนหาตรงบริเวณวัดค้างคาวโดยที่ไม่ได้สนใจตรงบริเวณสะพานซังฮี้ ซึ่งสนใจสะพานซังฮี้บริเวณกล้องด้านบนเท่านั้นที่ไปออกข่าวทุกช่องว่ามีคนกอดกันหน้าเรือตนก็ไม่ได้สนใจ ทำให้ละเลยในจุดนี้ไป จึงไม่ได้มองว่าจุดนี้เป็นจุดที่สำคัญทั้งที่จุดนี้เป็นจุดที่สำคัญ ซึ่งมีผู้ใหญ่มาบอกตนว่าหลักฐานอยู่ที่ตนแต่ว่าตนไม่ทราบว่ามันอยู่ จึงได้มาทบทวนในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงเห็นชัดเจนว่าท้ายเรือในบริเวณสะพานซังฮี้ที่กลับจากสะพาน พระราม 8 แล้วก็ตรงไปที่สะพาน พระราม 7 ไม่มีใครอยู่ท้ายเรือซึ่งตนก็ยืนยันไปตามสิ่งที่ตนเห็น ส่วนคณะพนักงานสอบสวนเค้ายังยืนยันไม่ได้ จะต้องยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญอีกรอบหนึ่ง บางทีอาจจะต้องขอความร่วมมือไปในโรงหนังชื่อดัง เพื่อทำการขยายจอให้มันใหญ่ขึ้นและให้ผู้เชี่ยวชาญไปยืนยันอีกครั้งนึง

นอกจากนี้ตนและดีเอสไอได้นัดหมายเพิ่มเติมว่าวันที่ 16 -17 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ตนก็จะส่งโดรนที่สำรวจใต้ท้องทะเลมาสำรวจใต้แม่น้ำเจ้าพระยา 1 ตารางกิโลเมตรในบริเวณท่าเรือพิบูลสงครามถึงหน้าวัดค้างคาวว่า บริเวณป้ายแม่น้ำเจ้าพระยามีอะไรที่พอจะเป็นพยานหลักฐานอะไรได้บ้าง ต้องยอมรับว่าตอนนี้เวลาผ่านไปกว่า 3 ปีแล้ว

ถามว่าถ้าตนนำโดรนมามันจะช่วยอะไรได้บ้างเพราะว่าระยะเวลามันก็ผ่านไปนานกว่า 3 ปีแล้ว สิ่งที่ตนต้องการ คือคืนในช่วงวันที่ 24 ,25,26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมานักประดาน้ำเค้าดำน้ำหาแตงโมมาโดยตลอดกว่า 30 ชั่วโมงแล้วไม่พบ ตนกำลังตั้งข้อสันนิษฐานว่าในห้วงเวลา 30 ชั่วโมง ว่าแตงโมไม่ได้อยู่แถวนั้น และเชื่อว่าแตงโมพึ่งมาในเช้ามืดวันที่ 26 รวมถึงคิดว่าแตงโมถูกจับถ่วงน้ำไว้ใต้แม่น้ำเจ้าพระยา โดยถ่วงด้วยหินปูนและนำเชือกมามัดแล้วเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมาตอนช่วงที่ตนได้ไปทำพิธีที่วัดค้างคาว ว่าศพมันหลุดจากเชือกได้อย่างไรนี่เป็นข้อสันนิษฐานของตน ที่ตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการฆาตกรรมซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัว

โดยวันที่ตนนำโดรนไปนั้น ไปในฐานะผู้สนับสนุนดีเอสไอซึ่งได้รับความร่วมมือจากเอกชน ซึ่งทำการประสานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เส้นทางดีเอสไอเขาจะใช้เครื่องโซนา

ขอย้ำว่าถึงแม้ว่าระยะเวลามันจะผ่านไปนานกว่าสามปีแล้ว แต่ตนก็หวังว่าในการนำอุปกรณ์ไปในครั้งนี้จะทำให้พบพยานหลักฐานอะไรบ้าง เพราะถือได้ว่าเป็นการสนับสนุนดีเอสไอทำคดีแตงโมให้กระจ่าง ซึ่งในความจริงมันมีวัตถุพยานอีกหนึ่งชิ้น ที่ตนไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้อยู่ที่คณะพนักงานสอบสวน ที่เค้าจะเสนอให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษซึ่งตนไม่สามารถพูดได้เพราะว่ามันไม่ใช่พยานหลักฐานในส่วนของตน ขอย้ำว่าตนจะพูดแค่ในส่วนของตนเท่านั้น

สำหรับเรื่องที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาข่มขู่หลังจากที่ได้เข้ามาช่วยคดีนี้ตนไม่ขอบอกรายละเอียดส่วนนี้ว่าเป็นใคร ซึ่งเป็นในส่วนเหตุการณ์ช่วงเวลานั้น แต่หลังจากที่ตนเข้ามาเป็นพยานให้กับทางดีเอสไอในคดีของแตงโมตอนนี้ยังไม่มีใครมาข่มขู่ในปีนี้

โดยระหว่างนี้ก่อนจะถึงวันที่ 16 ตนขอฝากพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณวัดค้างคาวและที่เกิดเหตุว่าใครมีกล้องวงจรปิดก็ช่วยบริจาคติดกล้องวงจรปิดทั้ง 2 ฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาว่าช่วงนี้อย่าพึ่งให้ใครไปดำใต้น้ำเกรงว่าจะมีการทำลายพยานหลักฐานในอนาคต รวมถึงตอนนี้ถ้าใครจะดำน้ำได้ก็ต้องขอทางกรมเจ้าท่าขอย้ำว่าในวันที่ 16 -17 ที่จะถึงนี้ตนจะไปด้วยตนเอง

รวมถึงฝากไปที่พี่น้องประชาชนที่ฟังข่าวแตงโมอยู่ก็คิดว่าทุกฝ่ายกำลังร่วมมือกันไขความจริงให้กระจ่างสังคมจะได้ไม่สับสนและคิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อฟ้าเปิดแล้วทางดีเอสไอมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะทำคดีนี้ให้สำเร็จเพื่อตอบสังคมได้นำโดยท่าน ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็คิดว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้นและคงไม่คลุมเครือเหมือนกับสามปีที่ผ่านมารวมถึงพยานหลักฐานในจุดนี้ เป็นไปอย่างที่ตนคิด ตนก็ขอแสดงความยินดีกับคนบนเรือที่เหลือว่าคดีเก่าอาจจะยกฟ้อง ส่วนคดีใหม่ตนไม่ทราบก็อาจจะเป็นในส่วนของดีเอสไอ

ทั้งนี้ทางดีเอสไอก็จะเรียกพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีเบาะแสเกี่ยวกับคดีของแตงโมนำมาสอบปากคำเพิ่มเติมโดยมีคิวของบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เพื่อการนำเสนอเนื้อหาที่ดี รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากคุณใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆนั้น แสดงว่าคุณยอมรับนโยบายคุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลของเรา