คัดลอก URL แล้ว
“CIB” จับตร.เก๊ตึก 18 ชั้น ปอยเปต รับ เคยหลอก “ชาล็อต-แอนชิลี” โอนเงิน

“CIB” จับตร.เก๊ตึก 18 ชั้น ปอยเปต รับ เคยหลอก “ชาล็อต-แอนชิลี” โอนเงิน

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ตำรวจ CIB แถลงรวบ “ตำรวจเก๊แก๊งค์ปอยเปต” ตีเนียนเป็นตำรวจวิดีโอคอลหลอกโอนเงิน โดย 1 ในผู้ที่ถูกจับกุมได้ คือ นายธนาวุฒิ ผู้ต้องหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ปอยเปต ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ซึ่งจับกุมได้ที่บ้านพัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เจ้าตัวสารภาพ ว่า สาเหตุที่ได้เข้าไปทำเนื่องจากมีแฟนเก่าทักมาชักชวนให้ไปทำงานเป็นแอดมิน ตนเองเต็มใจข้ามฝั่งไปเอง เพราะต้องการหารายได้ แต่พอไปถึงกลับถูกยึดพาสปอร์ต ยึดโทรศัพท์มือถือ และสั่งให้อยู่แต่ในห้อง ซึ่งสถานที่ทำงานดังกล่าวอยู่บนตึก 18 ชั้นในปอยเปต ทำมาตั้งแต่ปี66 ทำงาน หลับนอน อยู่บนชั้น13 ของอาคาร ห้ามออกไปไหน มีบอสใหญ่เป็นคนจีน และมีทั้งคนไทยและคนจีนทำหน้าที่เป็นคนควบคุม และคิดสคริปต์ในการหลอกลวงเหยื่อเพื่อให้เป็นไปตามบทที่วางไว้ เคยพยายามหนี แต่ถูกทุบตีด้วยไม้เบสบอล แต่ตอนนี้ ที่ตนเองออกมาได้ เนื่องจากหมดประโยชน์ เป็นโรคหัวใจ ไม่สามารถทำงานได้ จึงถูกปล่อยกลับประเทศ

นายธนาวุฒิ บอกว่า หน้าที่ของเขาคือสายที่ 2 หมายถึงรับเหยื่อมาจากสาย1 หลังจากสายที่ 1 โทรข่มขู่เหยื่อให้หวาดกลัวสำเร็จ สาย 2 จะทำหน้าที่คอยปลอบใจเหยื่อ และเฝ้าเหยื่อไว้ตลอด ก่อนส่งต่อให้สายที่ 3 ซึ่งมีหน้าที่หลอกให้เหยื่อโอนเงิน และตัวนายธนาวุฒิคือ 1 ในกระบวนการ ที่หลอกนางงามดังทั้ง แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส และ ชาล็อต ออสติน ให้โอนเงินกว่า 4 ล้านบาท เขาบอกว่า ตอนนั้นทำหน้าที่ปลอบใจ วิดีโอคอลเฝ้า “ชาล็อต” เอาไว้ทั้งวัน ตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นคนดัง แต่ทราบหลังพูดคุยกันแล้ว และชาล็อตร้องไห้อย่างเดียว เพราะกลัวกระทบงาน ตนเองก็ปลอบใจ พูดเพื่อให้สบายใจที่สุด ก่อนส่งให้สายที่ 3 หลอกชาล็อตโอนเงิน เจ้าตัวยังบอกอีกว่า ขอโทษที่ได้หลอกคนไทยเขาไม่มีทางเลือก เพราะหากไม่ทำจะถูกทำร้ายร่างกาย แรกๆ พยายามหนีทุกทาง พยายามติดต่อสถานทูตไทย แต่ถูกจับได้ก่อน พอถูกจับได้ก็ถูกทำร้าย

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ในวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็จับผู้ร่วมกระบวนการไปแล้ว 1 คนชื่อนายรามิลฯ อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลอาญาในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” ในบ้านพักหมู่ 1 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่เป็นสาย 1 ในการติดต่อเหยื่อจากระบบ Sim Box ที่มีการเซ็ตระบบไว้ ตนเองจะได้ข้อมูลของเหยื่อ และจะต้องพูดตามสคริปต์ที่บอสชาวจีน และคนคุมงานซึ่งเป็นคนไทยส่งมาให้ ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาพูดชักจูงเหยื่อจนเหยื่อเริ่มหลงเชื่อแล้ว จากนั้นจะมีการส่งต่อไปให้กับสาย2 เพื่อทำให้เหยื่อตายใจ

จากการตรวจสอบข้อมูลจากระบบแจ้งความออนไลน์และฐานข้อมูลพบว่า มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน มากถึง 163 เคส เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งรัดดำเนินการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนภายหลังสามารถระบุตัวคนร้ายที่แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลมาหลอกลวงผู้เสียหายได้ ซึ่งโทษก็จะดูรายละเอียดของแต่ละคดีว่ามีการเชื่อมโยงกับกระบวนการนี้หรือไม่ ซึ่งหากเห็นการเชื่อมโยงทุกเคส ก็จะดำเนินคดีเป็นกรรมไป หมายความว่าหากเชื่อมโยงทั้ง 163 เคสก็จะเป็น 163 กรรม


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เพื่อการนำเสนอเนื้อหาที่ดี รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากคุณใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆนั้น แสดงว่าคุณยอมรับนโยบายคุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลของเรา