คัดลอก URL แล้ว
“เสรีพิศุทธ์” ให้ปากคำ ป.ป.ช. ครั้งที่ 2 ปม “ทักษิณ” ป่วย

“เสรีพิศุทธ์” ให้ปากคำ ป.ป.ช. ครั้งที่ 2 ปม “ทักษิณ” ป่วย

วันที่ 27 มกราคม 2568 เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า วันนี้มาให้การเพิ่มเติม จากที่เคยมาให้แล้วก่อนหน้านี้ 1 ครั้ง

โดยหนังสือเชิญ บอกไว้ชัดแจ้งว่า ขอให้มาให้การเพิ่มเติมจากที่เคยให้ไว้ครั้งที่แล้ว โดยครั้งที่แล้วให้การเป็นข้อเท็จจริงไปหมดแล้ว แต่ว่าเวลาผ่านไปมันอาจจะมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จากความเห็นของแพทยสภา ข้อมูลเวชระเบียน และมีข้อเท็จจริงอื่นๆ ที่ปรากฏออกมา โดยวันนี้รวบรวมมามอบให้นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. ที่จะเป็นคนมาสอบปากคำด้วยตัวเอง แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องที่จะพูดคุยในสำนวนการสอบ แต่สิ่งที่ตนจะย้ำคือ เรื่องของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับเวชระเบียนของผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก ซึ่งเป็นหลักการทั่วไปที่สามารถตรวจสอบได้ และขอยืนยันว่า ผู้ป่วยในต้องทำบันทึกข้อมูลเวชระเบียนทุกคน ดังนั้นเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. ต้องตรวจสอบว่า มีการส่งข้อมูลเวชระเบียนมาครบหรือไม่ ซึ่ง ป.ป.ช. ก็มีกฎหมายว่า หากไม่ส่งเวชระเบียนมาถือว่ามีความผิด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการอะไร

สำหรับกรณีที่พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า การที่นายทักษิณจ่ายค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลมีใบเสร็จ ก็ถือเป็นหลักฐานการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ย้อนว่า ใบเสร็จที่ไหนก็มี แต่ประเด็นอยู่ที่ป่วยวิกฤตหรือไม่ ถ้าไม่ป่วยวิกฤตจะส่งไปโรงพยาบาลตำรวจได้อย่างไร และอีกประเด็นคือ กำลังรอที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา แผนกคดีนักการเมือง ว่าจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร ให้ไต่สวนหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องที่ กรมราชทัณฑ์ส่งผู้ป่วยไป โดยไม่ได้ขออนุญาตศาล ผิดกฎหมายให้หรือไม่ ซึ่งหากวินิจฉัยว่าให้ไต่สวน ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งใครที่ส่งผู้ป่วยไป โดยไม่ขอศาล คนเหล่านั้นก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งมีโทษจำคุก 6 เดือน

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ย้ำว่า ผู้ป่วยวิกฤตจริงจะต้องมีการตรวจสมอง หัวใจ และปอด แต่กรณีนายทักษิณ ไม่มีหลักฐานการตรวจใดๆ แม้กระทั่งจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และหากป่วยวิกฤตจริง ก็จะไม่มีการส่งไปชั้น 14 ทันที จะต้องมีการตรวจซ้ำ โดยนำเข้าห้องฉุกเฉินก่อน แต่กรณีนี้ไม่มีข้อมูลใดๆ

เมื่อถามว่า ตอนไปเยี่ยมนายทักษิณมีอาการอย่างไร พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวพร้อมหัวเราะ ว่า ฟิตกว่าตนตอนนี้อีก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เพื่อการนำเสนอเนื้อหาที่ดี รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากคุณใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆนั้น แสดงว่าคุณยอมรับนโยบายคุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลของเรา